รพ.พระยุพราชฯ เชียงของ นำร่องสื่อสารไร้สายเชื่อมโยง 3 สถานีอนามัยห่างไกลปรึกษาโดยไม่ต้องมาโรงพยาบาลใหญ่ ทดลองงาน 1 ปี ก่อนขยายไปโรงพยาบาลยุพราชฯ 21 แห่งทั่วประเทศ
วันที่ 19 สิงหาคม ศ.ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี และในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กล่าวว่า มูลนิธิได้ลงนามในสัญญาติดตั้งอุปกรณ์วางระบบกับบริษัท เอ็นอีซี คอร์เปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการติดตั้งอุปกรณ์วางระบบเทคโนโลยีไวแม็กซ์WiMAX ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารความเร็วสูงไร้สาย แบบใหม่ โดยมีโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เชียงของ จ.เชียงราย เป็นศูนย์กลางในการวางระบบนำร่องเพื่อการสื่อสารแบบใหม่ในสถานพยาบาลห่างไกล โดยสามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลพระยุพราชฯได้ผ่านทางเครือข่ายแบบเห็นหน้า พร้อมทั้งส่งข้อมูลทั้งภาพและเสียงของผู้ป่วยผ่านระบบไร้สายในพื้นที่ห่างไกล ให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปในโรงพยาบาลขนาดใหญ่
ศ.ธานินทร์ กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลพระยุพราชฯได้เชื่อมโยงกับสถานีอนามัยอีก 3 แห่ง ได้แก่ สถานีอนามัยทุ่งงิ้ว สถานีอนามัยตำบลสถาน และสถานีอนามัยน้ำม้า และหน่วยเคลื่อนที่ 4 หน่วยเพื่อทดสอบระบบระหว่างการเดินทาง โดยงบประมาณครั้งนี้มูลนิธิได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) 20 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาติดตั้งระบบเพื่อนำร่อง 120 วัน และทดลองใช้งานเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2551-พ.ย.2552
“หากเทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพช่วยเหลือผู้ป่วยได้เป็นที่น่าพอใจ ก็จะนำไปเป็นต้นแบบประยุกต์ใช้กับโรงพยาบาลพระยุพราชทั้ง 21 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิ ที่มีพระประสงค์เห็นโรงพยาบาลมีความก้าวหน้าและเป็นที่พึ่งยามเจ็บป่วยของประชาชน”ศ.ธานินทร์ กล่าว
วันที่ 19 สิงหาคม ศ.ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี และในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช กล่าวว่า มูลนิธิได้ลงนามในสัญญาติดตั้งอุปกรณ์วางระบบกับบริษัท เอ็นอีซี คอร์เปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการติดตั้งอุปกรณ์วางระบบเทคโนโลยีไวแม็กซ์WiMAX ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารความเร็วสูงไร้สาย แบบใหม่ โดยมีโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เชียงของ จ.เชียงราย เป็นศูนย์กลางในการวางระบบนำร่องเพื่อการสื่อสารแบบใหม่ในสถานพยาบาลห่างไกล โดยสามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลพระยุพราชฯได้ผ่านทางเครือข่ายแบบเห็นหน้า พร้อมทั้งส่งข้อมูลทั้งภาพและเสียงของผู้ป่วยผ่านระบบไร้สายในพื้นที่ห่างไกล ให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปในโรงพยาบาลขนาดใหญ่
ศ.ธานินทร์ กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลพระยุพราชฯได้เชื่อมโยงกับสถานีอนามัยอีก 3 แห่ง ได้แก่ สถานีอนามัยทุ่งงิ้ว สถานีอนามัยตำบลสถาน และสถานีอนามัยน้ำม้า และหน่วยเคลื่อนที่ 4 หน่วยเพื่อทดสอบระบบระหว่างการเดินทาง โดยงบประมาณครั้งนี้มูลนิธิได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) 20 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาติดตั้งระบบเพื่อนำร่อง 120 วัน และทดลองใช้งานเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2551-พ.ย.2552
“หากเทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพช่วยเหลือผู้ป่วยได้เป็นที่น่าพอใจ ก็จะนำไปเป็นต้นแบบประยุกต์ใช้กับโรงพยาบาลพระยุพราชทั้ง 21 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิ ที่มีพระประสงค์เห็นโรงพยาบาลมีความก้าวหน้าและเป็นที่พึ่งยามเจ็บป่วยของประชาชน”ศ.ธานินทร์ กล่าว
