แพทย์ผิวหนัง ชี้ ผู้ห่วงสวยเกินเหตุ หรือกลุ่มที่ชอบตกแต่งร่างกายแบบแปลกๆ อาจเป็นผลจากความผิดปกติทางจิตใจที่เรียกว่า “โซมาโตฟอร์ม” ซี่งตรวจไม่พบจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย พร้อมเป็นห่วงผู้ที่ชอบทำศัลยกรรมร่างกาย อาจเป็นโรคทางจิตเวช อยู่ในกลุ่มพวกที่เป็นห่วงร่างกายทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความผิดปกติอะไรเลย กังวลจนไม่เป็นอันทำงาน

นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ด สาขาโรคผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NIH) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกระแสทั้งในต่างประเทศและในไทยถึงการตกแต่งร่างกายด้วยวิธีแปลกๆ นอกเหนือไปจากการสัก เจาะ ใส่ห่วง ซึ่งวิธีใหม่ที่เกิดขึ้น เช่น การผ่าลิ้นเป็นสองแฉก การกรีดผิวหนังให้เป็นแผลเป็น การตัดใบหูให้แหลมเหมือนหูสุนัข ฝังเพชรในลูกตา ตัดเส้นใต้ลิ้น ใส่เขา ตะใบฟัน พบว่า ผู้ที่ตกแต่งร่างกายอย่างถาวรแบบแปลกๆ นี้ ส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติทางจิตใจที่เรียกว่า โซมาโตฟอร์ม (somatoform disorder) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่มีการแสดงออกทางร่างกายเหมือนโรค แต่หาสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นโรคทางกาย,โรคทางจิตใจ,หรือจากการได้รับสารพิษไม่ได้ ลักษณะเฉพาะของโซมาโตฟอร์มคือไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหลายครั้งด้วยความเข้าใจว่าตนเองเป็นโรค แต่แพทย์ตรวจไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและได้ยืนยันให้ผู้ป่วยรับทราบ

นพ.ประวิตร เปิดเผยอีกว่า ในด้านโรคผิวหนังเริ่มมีผู้ป่วยกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า ตนเองเป็น โรคผิวหนังจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม ที่นอกจากจะมีอาการทางผิวหนังแล้ว ยังมีอาการอื่นอีกเช่น ปวดศีรษะ เหนื่อยอ่อน ปวดเมื่อย บางรายกังวล ว่า มีความผิดปกติของผิวหนัง หรืออวัยวะที่ไม่ได้สัดส่วน เช่น จมูก ตา ริมฝีปาก เต้านม ผมบาง ขนดก รูขุมขนโต มีกลุ่มอาการหนึ่งที่ผู้ป่วยต้องการเป็นหนุ่มเป็นสาวไปตลอดเรียกว่าอาการ ดอเรียน เกรย์ (Dorian Gray syndrome) ที่ตั้งชื่อตามตัวละครชายหนุ่มสุดหล่อ ที่กลัวความแก่มากจนต้องขอให้ภาพวาดแก่แทน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาการกลัวหน้าแดง ทำให้ผู้ป่วยเลี่ยงการเข้าสังคม อาการเจ็บปวดที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ เช่น อาการเจ็บผิวหนังทั้งตัว เจ็บปวดและคันที่หลังมักเป็นที่สะบัก เจ็บลิ้น และเจ็บในช่องปาก เจ็บหนังศีรษะ มีอาการคันทั่วตัวโดยไม่มีสาเหตุ และมีอาการคันเฉพาะที่อวัยวะเพศสตรี เรียกว่า อาการคันของแม่ม่าย (aindow’s pruritus) ซึ่งอาจบ่งถึงความขัดแย้งทางจิตในเรื่องทางเพศ
นพ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ทั้งผู้ป่วยและแพทย์จำเป็นต้องเข้าใจความผิดปกติที่เรียกว่าโซมาโตฟอร์มนี้ แต่ต้องตรวจหาสาเหตุอื่นด้วย เช่น อาการคันทั่วตัวอาจเป็นโรคทางจิต หรือโซมาโตฟอร์ม แต่ก็อาจเป็นอาการที่สืบเนื่องมาจากโรคทางกาย เช่น เบาหวาน โรคตับ และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง นอกจากนั้น ในผู้ที่ชอบผ่าตัด ตกแต่งร่างกาย เช่น ทำจมูก เสริมเต้านม บางรายทำแล้วทำอีกไม่พอใจเสียที ตลอดจนบางคนที่สัก เจาะ ผ่าลิ้น ใส่ห่วงจนมากผิดปกติ ส่วนหนึ่งอาจเป็นความผิดปกติทางจิตที่เรียกว่า body dysmorphic disorder ซึ่งเป็นกลุ่มอาการทางจิตเวชที่ผู้ป่วยวิตกกังวลในรูปลักษณ์ของตนเองอย่างมาก จนไม่เป็นอันทำงาน ทั้งที่รูปลักษณ์มีความผิดปกติเพียงเล็กน้อย หรือไม่ผิดปกติเลย ซึ่งกรณีเหล่านี้จำเป็นต้องปรึกษาจิตแพทย์ร่วมรักษาด้วย
นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ด สาขาโรคผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NIH) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกระแสทั้งในต่างประเทศและในไทยถึงการตกแต่งร่างกายด้วยวิธีแปลกๆ นอกเหนือไปจากการสัก เจาะ ใส่ห่วง ซึ่งวิธีใหม่ที่เกิดขึ้น เช่น การผ่าลิ้นเป็นสองแฉก การกรีดผิวหนังให้เป็นแผลเป็น การตัดใบหูให้แหลมเหมือนหูสุนัข ฝังเพชรในลูกตา ตัดเส้นใต้ลิ้น ใส่เขา ตะใบฟัน พบว่า ผู้ที่ตกแต่งร่างกายอย่างถาวรแบบแปลกๆ นี้ ส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติทางจิตใจที่เรียกว่า โซมาโตฟอร์ม (somatoform disorder) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่มีการแสดงออกทางร่างกายเหมือนโรค แต่หาสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นโรคทางกาย,โรคทางจิตใจ,หรือจากการได้รับสารพิษไม่ได้ ลักษณะเฉพาะของโซมาโตฟอร์มคือไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหลายครั้งด้วยความเข้าใจว่าตนเองเป็นโรค แต่แพทย์ตรวจไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและได้ยืนยันให้ผู้ป่วยรับทราบ
นพ.ประวิตร เปิดเผยอีกว่า ในด้านโรคผิวหนังเริ่มมีผู้ป่วยกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า ตนเองเป็น โรคผิวหนังจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม ที่นอกจากจะมีอาการทางผิวหนังแล้ว ยังมีอาการอื่นอีกเช่น ปวดศีรษะ เหนื่อยอ่อน ปวดเมื่อย บางรายกังวล ว่า มีความผิดปกติของผิวหนัง หรืออวัยวะที่ไม่ได้สัดส่วน เช่น จมูก ตา ริมฝีปาก เต้านม ผมบาง ขนดก รูขุมขนโต มีกลุ่มอาการหนึ่งที่ผู้ป่วยต้องการเป็นหนุ่มเป็นสาวไปตลอดเรียกว่าอาการ ดอเรียน เกรย์ (Dorian Gray syndrome) ที่ตั้งชื่อตามตัวละครชายหนุ่มสุดหล่อ ที่กลัวความแก่มากจนต้องขอให้ภาพวาดแก่แทน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาการกลัวหน้าแดง ทำให้ผู้ป่วยเลี่ยงการเข้าสังคม อาการเจ็บปวดที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ เช่น อาการเจ็บผิวหนังทั้งตัว เจ็บปวดและคันที่หลังมักเป็นที่สะบัก เจ็บลิ้น และเจ็บในช่องปาก เจ็บหนังศีรษะ มีอาการคันทั่วตัวโดยไม่มีสาเหตุ และมีอาการคันเฉพาะที่อวัยวะเพศสตรี เรียกว่า อาการคันของแม่ม่าย (aindow’s pruritus) ซึ่งอาจบ่งถึงความขัดแย้งทางจิตในเรื่องทางเพศ
นพ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ทั้งผู้ป่วยและแพทย์จำเป็นต้องเข้าใจความผิดปกติที่เรียกว่าโซมาโตฟอร์มนี้ แต่ต้องตรวจหาสาเหตุอื่นด้วย เช่น อาการคันทั่วตัวอาจเป็นโรคทางจิต หรือโซมาโตฟอร์ม แต่ก็อาจเป็นอาการที่สืบเนื่องมาจากโรคทางกาย เช่น เบาหวาน โรคตับ และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง นอกจากนั้น ในผู้ที่ชอบผ่าตัด ตกแต่งร่างกาย เช่น ทำจมูก เสริมเต้านม บางรายทำแล้วทำอีกไม่พอใจเสียที ตลอดจนบางคนที่สัก เจาะ ผ่าลิ้น ใส่ห่วงจนมากผิดปกติ ส่วนหนึ่งอาจเป็นความผิดปกติทางจิตที่เรียกว่า body dysmorphic disorder ซึ่งเป็นกลุ่มอาการทางจิตเวชที่ผู้ป่วยวิตกกังวลในรูปลักษณ์ของตนเองอย่างมาก จนไม่เป็นอันทำงาน ทั้งที่รูปลักษณ์มีความผิดปกติเพียงเล็กน้อย หรือไม่ผิดปกติเลย ซึ่งกรณีเหล่านี้จำเป็นต้องปรึกษาจิตแพทย์ร่วมรักษาด้วย