“น้องเขยแม้ว” เผยครู 18 รายชวดเลื่อนวิทยฐานะ ระบุผลงานต่ำกว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด ส่วนที่ครูที่ไม่ผ่านการประเมิน อ. 3 จำนวน 256 รายยื่นอุทธรณ์ มีมติไม่รับคำอุทธรณ์
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุม ก.ค.ศ.ไม่อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เลื่อนเป็นวิทยฐานะผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชี่ยวชาญพิเศษ จำนวน 10 ราย ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญพิเศษ 7 ราย และผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ 1 ราย เนื่องจากผลงานต่ำกว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด และผลงานทางวิชาการปรับปรุงไม่ได้
และจากการที่ ก.ค.ศ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ (กรณีผู้ขอปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3 ตามหลักเกณฑ์ใหม่) สังกัด สพฐ.รุ่นที่ 2/2550 ซึ่งมีผู้เข้ารับการพัฒนาฯ รวมทั้งสิ้น 7,820 คน ในจำนวนนี้ผ่านการประเมินรวม 7,528 คน คิดเป็นร้อยละ 96.27 และไม่ผ่าน 292 คน คิดเป็นร้อยละ 3.73 ในจำนวนผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินนี้ ได้มีผู้ขออุทธรณ์จำนวน 256 ราย แต่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุต่างๆ ที่ไม่ผ่านการประเมิน เช่น คณะกรรมการประเมินไม่มีมาตรฐานเดียวกัน กระบวนการพัฒนามีระยะเวลาจำกัด บางรายมีเหตุสุดวิสัยด้านสุขภาพ ครอบครัว ภาระหนี้สิน ห้องอบรมแสงสว่างไม่เพียงพอ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าว สพฐ.ได้ดำเนินการพัฒนาตามกระบวนการและหลักสูตรการพัฒนาที่ ก.ค.ศ.กำหนดอย่างเคร่งครัด ผลการดำเนินการของศูนย์พัฒนาฯ ส่วนใหญ่มีผลการดำเนินการที่มีมาตรฐาน เป็นธรรม และถูกต้องตามหลักวิชาการ มีข้าราชการครูที่ได้รับการพัฒนา มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งผ่านเกณฑ์จำนวนมากแล้ว จึงมีมติไม่รับคำขออุทธรณ์
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุม ก.ค.ศ.ไม่อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เลื่อนเป็นวิทยฐานะผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชี่ยวชาญพิเศษ จำนวน 10 ราย ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญพิเศษ 7 ราย และผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ 1 ราย เนื่องจากผลงานต่ำกว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด และผลงานทางวิชาการปรับปรุงไม่ได้
และจากการที่ ก.ค.ศ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ (กรณีผู้ขอปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3 ตามหลักเกณฑ์ใหม่) สังกัด สพฐ.รุ่นที่ 2/2550 ซึ่งมีผู้เข้ารับการพัฒนาฯ รวมทั้งสิ้น 7,820 คน ในจำนวนนี้ผ่านการประเมินรวม 7,528 คน คิดเป็นร้อยละ 96.27 และไม่ผ่าน 292 คน คิดเป็นร้อยละ 3.73 ในจำนวนผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินนี้ ได้มีผู้ขออุทธรณ์จำนวน 256 ราย แต่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุต่างๆ ที่ไม่ผ่านการประเมิน เช่น คณะกรรมการประเมินไม่มีมาตรฐานเดียวกัน กระบวนการพัฒนามีระยะเวลาจำกัด บางรายมีเหตุสุดวิสัยด้านสุขภาพ ครอบครัว ภาระหนี้สิน ห้องอบรมแสงสว่างไม่เพียงพอ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าว สพฐ.ได้ดำเนินการพัฒนาตามกระบวนการและหลักสูตรการพัฒนาที่ ก.ค.ศ.กำหนดอย่างเคร่งครัด ผลการดำเนินการของศูนย์พัฒนาฯ ส่วนใหญ่มีผลการดำเนินการที่มีมาตรฐาน เป็นธรรม และถูกต้องตามหลักวิชาการ มีข้าราชการครูที่ได้รับการพัฒนา มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งผ่านเกณฑ์จำนวนมากแล้ว จึงมีมติไม่รับคำขออุทธรณ์