“เหวง โหวกเหวก” ร้อนตัวร่อนแถลงการณ์แก้ตัวพัลวัน ไม่ได้โทรศัพท์ไปยินดีกลุ่มโจรคนรักอุดรที่ก่อเหตุไล่ฆ่าประชาชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฟุ้งยึดหลักสันติวิธี ไม่นิยมความรุนแรง เผย หากแพทยสภาต้องการให้ชี้แจงก็ยินดี ระบุ เคารพวิชาชีพตลอดมาและตลอดไป
จากกรณีนพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ นพ.เหวง โตจิราการ ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับชมรมคนรักอุดร ที่เกิดเหตุปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาเพื่อประชาธิปไตย ที่จังหวัดอุดรธานี ว่า ยังไม่มีผู้ร้องเรียนพฤติกรรมของ นพ.เหวง ว่า ขัดจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์หรือไม่ ซึ่งหากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา ก็ต้องนำเรื่องเข้าคณะอนุกรรมการจริยธรรม เพื่อพิจารณาว่ามีความผิดหรือไม่ แม้กรณีที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่การประกอบวิชาชีพก็ตาม แต่เนื่องจากแพทย์มีหน้าที่ดูแลรักษาคนป่วยและที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีแพทย์คนใดรู้สึกดีใจเมื่อมีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย นั้น
ล่าสุด นพ.เหวง ได้ส่งแถลงการณ์เรื่อง “ขอชี้แจงความจริง” ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง และขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เป็นผู้ตั้งกลุ่มสันติวิธีขึ้น และไม่นิยมความรุนแรงแต่อย่างใด โดยเนื้อความในแถลงดังกล่าว มีดังนี้ ...
“...ในฐานะที่เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรง จึงขอเรียนชี้แจงว่า ผมไม่ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับชมรมคนรักอุดร ที่เกิดเหตุปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาเพื่อประชาธิปไตย ที่จังหวัดอุดรธานี และไม่ได้สนับสนุนให้มีการตีกัน ปะทะกันด้วยกำลังอาวุธโดยเด็ดขนาด และผมขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการต่อผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เท่าเทียมและเป็นธรรม บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์
ตลอดชีวิตการต่อสู้กับเผด็จการเพื่อประชาธิปไตยของผมตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2511 ก็ยึดหลักการต่อสู้ด้วยสันติวิธีมาโดยตลอด แม้การต่อสู้กับเผด็จการ 19 กันยายน 2549 ก็ได้ยืนหยัดยึดหลักการ “สันติวิธี” รวมทั้งเป็นผู้จัดตั้งกลุ่ม “สันติวิธี” โดยมีหลักการ “สามไม่” คือ ไม่โกรธ ไม่รุนแรง ไม่ตอบโต้ ให้เกิดขึ้นในการเคลื่อนไหว และยังคงดำเนินต่อเนื่องตลอดไป
การเข้าร่วมต่อสู้เผด็จการนั้นเป็นภาระหน้าที่ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกคน ต้องทำเพื่อไม่ให้ระบอบประชาธิปไตยถูกเผด็จการทำลายล้างไป
แต่ผมก็ประกอบวิชาแพทย์ด้วยความเคารพต่อวิชาชีพและคนไข้ตลอดมาและตลอดไป หากแพทยสภาต้องการให้ไปชี้แจงก็ยินดีจะไปชี้แจงทุกประการ
จึงเรียนมาเพื่อได้โปรดเผยแพร่ให้เข้าใจตามนี้ด้วย
ขอแสดงความนับมือ
นพ.เหวง โตจิราการ