“ไชยา” อำลาตำแหน่ง ขนคนนครปฐม-ราชบุรี ให้กำลังใจ 30 คันรถ ลั่นพร้อมรีเทิร์นกลับมานั่งคุมกระทรวงสาธารณสุขอีกรอบ หากพลาดหวัง 3 กระทรวงใหญ่ มหาดไทย-ยุติธรรม-พาณิชย์ ปลัด สธ.ยินดีอ้าแขนรับ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 ก.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดินทางมาร่วม “พิธีอำลาตำแหน่ง” รมว.สธ.คนที่ 59 อย่างเป็นทางการ หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2551 โดยเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ พระพุทธนิรามัย พระพุทธรูปประจำกระทรวงสาธารณสุข พระพรหม พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนารถนเรนทร และบูชาพระพุทธรูปประจำห้องทำงานตามลำดับ จากนั้น จึงเข้าห้องประชุม สธ.เพื่อกล่าวอำลาข้าราชการ สธ.โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สธ.อย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ บรรยากาศช่วงเช้าที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น มีประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) สหกรณ์โคนม จ.นครปฐม และราชบุรี และสมาชิกสภาจังหวัดนครปฐม (ส.จ.) ที่ส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม ราชบุรี เกือบ 1,500 คน ซึ่งเดินทางมาด้วยรถบัสจำนวนกว่า 30 คัน เพื่อให้กำลังใจโดยมอบกุหลาบแดงให้ นายไชยา นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการ แพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลสามพราน จ.นครปฐม และโรงพยาบาลเลิดสิน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทรเข้าร่วม
จากนั้นเวลา 10.15 น. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะตัวแทนข้าราชการ กล่าวว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.สาธารณสุข ทำเพื่อส่วนรวม และเป็นที่พึ่งมาตลอด แม้เป็นเวลา 5 เดือน 2 วัน ก็ตามโดยงานที่เป็นนโยบาย ตนเองน้อมรับนโยบายต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมาย
ขณะที่ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า การมาร่วมใจร่วมกิจกรรมอำลาตำแหน่ง ในวันนี้ เป็นเพียงการลาตำแหน่ง โดยหวังว่า สักวันจะกลับมาเป็น รมว.สธ.ซึ่งข้าราชการทุกคนรอคอยอยู่ ซึ่งตลอดระยะเวลา 152 วัน รัฐมนตรี ที่ปรึกษา เลขานุการ ได้ทำคุณประโยชน์ให้ สธ.มีผลงานที่ปรากฏเป็นรูปธรรมมากมาย ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในต่างประเทศด้วย ซึ่งข้าราชการทั้งหมดได้ดำเนินการตามนโยบายของ นายไชยา คาดว่า มีอีกหลายเรื่องที่กำลังเสร็จเรียบร้อย ดังนั้น พวกเราทุกคนขอส่งกำลังใจให้ท่านได้มีโอกาสกลับมาเป็น รมว.สาธารณสุข อีกครั้งหนึ่ง
ด้าน นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา ผลเป็นแค่ลหุโทษ ไม่ได้โดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี สัปดาห์หน้ามีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งตนเองอาจเป็น รมว.สาธารณสุข อีกก็ได้ แต่ขณะนี้มีการทาบทามให้ตนเองไปนั่งอย่างน้อย 3 กระทรวง ได้แก่ มหาดไทย ยุติธรรม พาณิชย์ แต่ถ้าไม่ได้สิ่งที่ต้องการ อาจต้องขอโทษ นายวิชาญ เพราะต้องมาอยู่ สธ.อีก
“หากมีโอกาสกลับมาที่นี่อีกก็อยากกลับมา แต่ก็เกรงใจท่านวิชาญ เพราะท่านเป็นคนหนุ่มที่มีไฟในการทำงาน เป็นคนตั้งใจจริง ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็ให้ท่านวิชาญขึ้นเป็น รมว.สาธารณสุข เลยและหาคนเป็น รมช.สาธารณสุข แต่ถ้าสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ ผมก็ต้องขอโทษท่านวิชาญด้วยที่จะกลับมาที่ สธ.ดีกว่า เพราะยังคิดถึงปลัด สธ.อยู่” นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวต่อว่า ที่กล่าวถึง 3 กระทรวง คือ มหาดไทย ยุติธรรม และ พาณิชย์ นั้น มีคนมาบอกทั้งนั้นว่าอยากให้ไปนั่ง แต่ตนก็สงสัยว่า ทั้ง 3 กระทรวงนี้มีคนนั่งอยู่หมดแล้วจะไปอย่างไร เขาบอกว่า ต้องขยับ สลับกันไป เพราะ ส.ส.480 คน ทั้งหมดสามารถทำงานได้ ส่วนตัวแล้วตนคงไม่สามารถเล็งไว้ได้ ว่าอยากไปอยู่กระทรวงไหน เพราะมีกรรมการบริหารพรรคทำงานอยู่ และนายกฯเป็นคนทำโผเอง ที่พูดมาเพราะมีคนมาบอกทั้งนั้นว่าอยากให้ไปอยู่ แต่หากพรรคให้กลับมากระทรวงสาธารณสุข หากพรรคเห็นคุณค่าตนอยู่ จะตั้งให้ทำงานอะไรก็ทำ หากเป็นกระทรวงที่ตนไม่เคยทำงานด้านนั้นมาก่อน ก็พร้อมที่จะทำงานหาความรู้ จะไปอยู่กระทรวงไหนก็ได้ ตนพร้อมเรียนรู้ พร้อมทำงาน เช่น กระทรวงพาณิชย์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องปากท้อง ของแพงประชาชนก็ด่า ของถูกผู้ผลิตก็ด่า
“ผมเชื่อว่า ถ้าตั้งใจจริง ก็สามารถไปทำงานที่ไหนก็ได้ ส่วนคนที่จะออกมาคัดค้านนั้น ไม่กังวล เพราะที่ไหนก็มีทั้งคนชอบ คนเกลียด เป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่มีเรื่องติดใจ หรือแค้นใคร ลืมชื่อไปหมดแล้ว” นายไชยา กล่าว
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีรายชื่อของ นายไชยา อยู่ในโผ หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมามีแต่คนบอกทั้งสิ้น ส.ส.คนไหน มีโรงสี ก็อยากให้นั่งพาณิชย์ ส.ส.คนไหน มีญาติเป็น อบต., อบจ.ก็อยากให้ผมนั่ง มหาดไทย ส.ส.คนไหน มีญาติทำงานเรือนจำ ก็อยากให้ผม นั่ง ยุติธรรม แต่ส่วนตัวคงไม่ทราบ และในพรรคก็ยังไม่มีการหารือ เพราะท่านนายกฯ ขอให้รอถึงวันที่ 28 ก.ค.ที่ รมต.3 ท่าน จะถูกตัดสินคดีต่างๆ ก่อน การที่นายกฯจะทำอะไรเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การนำชื่อกราบบังคับทูลฯ ถือเป็นเรื่องรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ดังนั้นทำอะไรจึงต้องรอบคอบ
ต่อข้อถามว่า มีกระแสข่าวว่า นายอนุชา สะสมทรัพย์ จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่อจาก นายไชยา หรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า จะพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคต้องลงความเห็น ไม่ใช่ให้ญาติลงความเห็น แต่โควตากระทรวงขณะนี้เป็นของพรรคพลังประชาชน อย่างไรก็ตาม หากตนไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ คงไม่ขอเป็นที่ปรึกษาหรือตำแหน่งอื่น ขออยู่เป็น ส.ส.ดีกว่าประชุม อาทิตย์ ละครั้ง ที่เหลือตีกอล์ฟ
นายไชยา กล่าวว่า ทุกคนในที่นี่เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ตนเองไม่ต้องถูกอภิปรายในสภา ทั้งที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีสายล่อฟ้าคนแรกของครม.นี้ ในเรื่องของการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร จากตรงนั้นสิ่งทีได้ท้วงติงได้เห็นผล ถ้าใช้ซีแอลจริง ประเทศไทยจะตกเป็นจำเลย และถูกบริษัทยาเจ้าของสิทธิบัตรฟ้อง จึงต้องประคับประคองกันไป เพราะมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงต้องตัดสินกันตามกฎหมาย
นายไชยา กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันนี้จะอยู่ในความทรงจำ ขอเรียนว่าการทำงาน ก็มีการกระทบกระทั่ง มีความคิดเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ ขอเรียนว่า ตนเองไม่ใช่คนอาฆาตคน และตั้งใจจริงให้องค์กรมีชื่อเสียง ประชาชนมีความสุข ทุกครั้งเวลาพูดเรื่องนโยบาย พยายามที่จะเรียนรู้ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีความรู้ทางการแพทย์เลย จนวันนี้เชื่อว่าอธิบดีบางกรมมีความรู้เรื่องแพทย์สู้ตนเองไม่ได้
“ผมทำงานไม่เคยเรียกเงินเรียกทอง แต่สิ่งที่ดีใจที่สุดสำหรับผมที่มาอยู่ สธ.คือ ภรรยาไม่สบายก่อนมาอยู่ สธ.และวันที่ 8 ก.ค.ภรรยาได้รับแจ้งว่ามีตับบริจาคแล้ว แต่วันที่ 9 ก.ค.ศาลมีพิพากษาให้ถูกออกจากตำแหน่ง มีคนถามว่าอย่างไร ผมบอกว่าลืมเรื่องอื่น เพราะดีใจที่ภรรยาได้ตับแล้ว เป็นตับที่สมบูรณ์จากผู้บริจาคอายุ 21 ปี และยืนยันว่าผมได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างของสภากาชาดไทย ไม่เคยอาศัยความเป็นรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพราะบางอย่างฟ้าเป็นตัวกำหนด หลายคนพูดกับผมว่า อยู่ที่ สธ.ได้ไปที่อื่นก็เหมือนเหยียบน้ำทะเลจืดแล้ว” นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวว่า อยากให้ สธ.สมัครสมานสามัคคี อธิบดีคนใดมีเรื่องคับข้องใจ ก็ให้พูดกันอย่าเก็บไว้ในใจ เพราะกินข้าวหม้อเดียวกัน ก่อนหน้านนี้ลูกชายชวนไปดูหนัง 3 ก๊ก แต่ตนเองไม่ไป เพราะที่ สธ.มี 5 ก๊ก ดังนั้น การทำงานอย่าแตกก๊กเป็นเหล่า อย่างตนเองจะว่าปลัด สธ.ก็ว่าด้วยเหตุผลตรงๆ และปลัด สธ.ก็ดำเนินการตามที่บอก มาเน้นเรื่องงานว่าพยายามทำงานอย่างไรให้เป็นเชิงรุก ซึ่งหาก นายวิชาญ มีปัญหาอะไรก็ยินดีให้คำปรึกษาเต็มที่
“สิ่งที่ไม่สบายใจ ทั้งไข้เลือดออก อหิวาตห์ระบาด โดยเฉพาะ สธ.เงินงบประมาณต่างๆ ก็ถูกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ดึงเงินไปหมด เรามีหน้าที่เพียงให้บริการเพียงอย่างเดียว ผมร่วมเป็นบอร์ด สสส.ซึ่งแต่ละปีมีเงินเหลือ 200 กว่าล้านบาท แล้วก็เต้นไปเต้นมาทีไม่ได้อะไร ผมได้เสนอให้สร้างสระว่ายน้ำ 5 โรงเรียนต่อสระ เขาก็ยอมรับความคิดผม เพราะทุกวันนี้มีเด็กจมน้ำตายวันละ 4 ราย และสิ่งเหล่านี้เป็นภาษีของประชาชนที่ควรจะได้ จะใช้อะไรต้องคิดให้เกิดประโยชน์” นายไชยา กล่าว
นางศศิวิมล สุนทรพิธ ชาว อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม หนึ่งในประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ นายไชยา กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านเดินทางมากว่า 30 คันรถบัส เพราะต้องการมาให้กำลังใจ นายไชยาที่เป็นคนดี โดยที่ผ่านมาทำประโยชน์ให้ จ.นครปฐม มากมาย เช่น หากหมู่บ้านของตนเสนอโครงการอะไรไป ก็จะได้รับการอนุมัติตลอด ซึ่งความจริงยังมีชาวบ้านต้องการเดินทางมามากกว่านี้อีกจำนวนมาก แต่จำนวนรถมีจำกัด โดยผู้ใหญ่บ้านและกำนันกำหนดจำนวนคนที่จะมาร่วมให้กำลังใจในแต่ละหมู่บ้านว่าควรมามากน้อยแค่ไหน
