xs
xsm
sm
md
lg

เทศกาลหนังสือเด็กโชว์ “หนังสือมีกลิ่น” เพื่อเด็กตาบอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็ก ๆ จำลองความรู้สึกของเด็กตาบอดโดยคาดผ้าปิดตาก่อนทดลองใช้หนังสือมีกลิ่น
งานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน เปิดตัวหนังสือมีกลิ่นสำหรับเด็กตาบอด ส่งหนังสือในตระกูลผักสวนครัว-ดอกไม้ ในวรรณคดีเสริมการเรียนรู้ เมื่อเปิดหนังสือออกมาจะพบกลิ่นของต้นหอม ข่า ตะไคร้ ได้ความรู้สึกเหมือนจริง ครูผู้สอนเผยมีการนำไปใช้สอนแล้วในหลายวิชา แต่งบประมาณผลิตหนังสือต่อเล่มสูงถึง 200-300 บาท

จากการเปิดตัวเป็นครั้งแรกของหนังสือมีกลิ่นในงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 6 โดยโรงเรียนสอนคนตาบอด พบว่า ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมหลายท่าน โดยหนังสือดังกล่าวใช้พิมพ์ด้วยวัสดุแข็งแรงทนทาน มีหลายกลิ่นให้เลือกเรียนรู้ เช่น กลิ่นตะไคร้ ต้นหอม ดอกกระดังงา ดอกทานตะวัน รวมถึงขนมที่เด็กๆ ชื่นชอบ เช่น ลูกกวาด เป็นต้น

อาจารย์ธนาพันธ์ เค้าสิม หรือ ครูแป๋ว อาจารย์ประจำวิชาภาษาไทย โรงเรียนสอนคนตาบอด เปิดเผยว่า ปัจจุบันสื่อเพื่อการเรียนการสอนของคนตาบอดยังมีไม่มาก ส่วนหนึ่งเพราะขาดการสนับสนุนด้านงบประมาณ ซึ่งถ้าหากมีการสนับสนุนมากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ

“เด็กแต่ละคนมีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน บางคนอาจไม่ชอบฟังเทป แต่ชอบอ่านอักษรเบรลล์ ซึ่งการมีสื่อหลายชนิดให้เด็กเลือก จะช่วยให้เด็กมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ในหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น”

อาจารย์ธนาพันธ์ เล่าว่า การใช้หนังสือชนิดดังกล่าวในการเรียนการสอน ปัจจุบันมีใช้อยู่ในบางวิชา เช่น ภาษาไทย และวิทยาศาสตร์ ยกตัวอย่างการใช้หนังสือมีกลิ่นในวิชาภาษาไทย เช่น การสอนเกี่ยวกับดอกไม้ในวรรณคดีอย่าง ดอกกระดังงา ครูผู้สอนสามารถทำได้อย่างมีมิติมากขึ้น เพราะนักเรียนสามารถสัมผัสลักษณะของดอกไม้ กลิ่นของดอกไม้ และอ่านรายละเอียดของดอกไม้ได้พร้อมๆ กัน

“ข้อจำกัดของการผลิตหนังสือเหล่านี้ คือ งบประมาณ และผู้จัดทำ ในตอนนี้ โรงเรียนสอนคนตาบอดเป็นผู้จัดทำหนังสือดังกล่าวด้วยตนเอง ซึ่งมีต้นทุนค่อนข้างสูง เล่มละประมาณ 200-300 บาท นอกจากนั้น ยังต้องคอยเติมกลิ่นดอกไม้อย่างสม่ำเสมอ”

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ นางริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (ส.พ.จ.ท.) เปิดเผยว่า ทางสมาคมต้องการกระตุ้นให้เด็กและเยาวชน รวมถึงผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน และใช้หนังสือเป็นเครื่องมือก่อให้เกิดความรู้ใหม่ๆ ที่ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน อาทิ การประกวดหนังสือการ์ตูนทำมือ การประกวดเรื่องเล่าจากหนังสือ เป็นต้น

นอกเหนือจากการจัดแสดงหนังสือต่างๆ เพื่อเสริมการเรียนรู้แล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมให้เด็กๆ ร่วมสนุกได้อีกมากมาย เช่น นิทรรศการส่งเสริมการอ่านของกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย โซนงานวัด, มุมการเรียนรู้การละเล่นพื้นบ้านเด็กไทย, มุมน้องน้อยหัดประดิษฐ์ , มุมของหวานและของเล่นในวันวาน, นิทรรศการของเล่นสมัยคุณปู่

งานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 6 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 กรกฎาคม 2551 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (ส.พ.จ.ท.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรุงเทพมหานคร
กำลังโหลดความคิดเห็น