ส.ก.ขู่ไม่อนุมัติงบจ่ายดับเพลิงงวดที่ 4 กว่า 600 ล้าน หลังจ่ายไป 3 งวดแล้วไม่เอารถมาใช้ ระบุ ถ้าแจงไม่เคลียร์ชวดแน่ ส่วนสำนักอื่นๆ ที่มีปัญหาแจงไม่ชัดก็อดเช่นกัน
นายพิรกร วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เขตจอมทอง 1 ในฐานะรองโฆษก สภา กทม.เปิดเผยว่า คณะกรรมการวิสามัญได้พิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ซึ่งมีรายละเอียดโดยสรุป คือ ประมาณการรายรับ จำนวน 46,840.66 ล้านบาท ประกอบด้วย ประมาณการรายรับของ กทม.46,000 ล้านบาท และ ประมาณการรายรับของการพาณิชย์ กทม.840 ล้านบาท ส่วนประมาณการรายจ่าย จำนวน 46,549.348,900 ล้านบาท ประกอบด้วย ประการรายจ่ายของ กทม. 46,000 ล้านบาท และ ประมาณการรายจ่ายของการพาณิชย์ กทม.549.35 ล้านบาท โดยโดยสำนักที่มีการของบประมาณมากที่สุด ได้แก่ สำนักการโยธา (สนย.) 4,242,765,100 บาท สำนักการระบายน้ำ(สนน.) 3,915,009,900 บาท สำนักสำนักสิ่งแวดล้อม (สวล.) 3,598,102,300 บาท สำนักการแพทย์ (สนพ.) 2,996,744,200 บาท และสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) 2,386,773,500 บาท ส่วนสำนักงานเขตที่มีการของบประมาณมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เขตบางเขน 480,862,200 บาท เขตจตุจักร 456,587,800 บาท สายไหม 435,544,000 บาท บางขุนเทียน 434,171,200 บาท และเขตบางบอน 426,446,200 บาท ส่วนสำนักงานเขตที่ของบประมาณต่ำสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.เขตสัมพันธวงศ์ 176,884,700 ล้านบาท 2.เขตบางรัก 200,320,800 ล้านบาท 3.เขตป้อมปราบฯ 205,320,800 ล้านบาท 4.เขตบางกอกใหญ่ 226,039,700 ล้านบาท และ 5.เขตสะพานสูง 229,755,000 ล้านบาท
นายพิรกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กล่าวว่า ในการพิจารณานั้น สมาชิกได้มีการตั้งข้อสังเกตและติติงเรื่องการของบประมาณ โดยเฉพาะในเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) เพื่อจ่ายค่ารถดับเพลิงงวดที่ 4 ในเดือนสิงหาคมนี้ อีกจำนวน 629,565,100 ซึ่งสภาเห็นว่ายังไม่สมควรอนุมัติงบดังกล่าวเพราะ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ยังไม่สามารถหาทางออกของโครงการดังกล่าวได้ทั้งการตรวจรับรถที่ยังไม่สามารถนำรถออกมาใช้ได้ ดังนั้น การนำงบประมาณไปจ่ายก็เป็นการสิ้นเปลือง และไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อประประชาชน ซึ่งหากจะมีการนำงบประมาณไปจ่ายผู้บริหารควรจะนำรถดับเพลิงดังกล่าวมาใช้งานเพื่อบริการประชาชน และควรที่จะไปเจรจากับรัฐบาลให้ยกเว้นภาษีนำเข้ารถดับเพลิง ซึ่ง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพราะเคยเป็นผู้ว่าฯกทม.มาก่อน ส่วนเรื่องทุจริตก็ควรจะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการต่อไปต้องแยกกันให้ออก ทั้งนี้หากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่สามารถชี้แจงได้ทางสภากทม.อาจจะไม่พิจารณาอนุมัติงบประมาณดังกล่าวให้
นายพิรกร กล่าวอีกว่า ขณะที่โครงการการเช่ารถเก็บขยะแบบอัดขนาด 2 ตัน และ 5 ตัน งบประมาณกว่า 75% ของงบทั้งหมด ที่มีการให้สัญญาเอกชนจำนวน 12 สัญญาที่มีอายุสัญญาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งเหมือนเป็นการผูกมัดข้อสัญญาของ กทม.และผู้รับสัมปทานก็ไม่เกิน 5 บริษัทเวียนไปมา ดังนั้น เมื่อทำการพิจารณาแล้วพบว่าหาก กทม.ทำการจัดซื้อรถเองและใช้ไปในระยะเวลา 7 ปี ก็จะคุ้มค่า อีกทั้งเมื่อเลิกใช้งานก็สามารถนำไปขายได้ นอกจากนี้จัดซื้อคอมพิวเตอร์ของสำนักการศึกษาจำนวนรวม 950 ล้านบาท ที่มีการร้องเรียนจากบริษัทเอกชนว่าร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ไม่เป็นธรรม มีการเอื้อให้บางบริษัทได้เปรียบซึ่งทางปลัดกทม.ได้มีคำสั่งระงับร่างทีโออาร์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.และขณะนี้ทางสำนักการศึกษาได้ร่างทีโออาร์ขึ้นมาใหม่และเตรียมจะประกาศในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ทางสภากทม.ก็จะไม่พิจารณาอนุมัติงบประมาณให้เช่นกัน
สำหรับการอภิปรายเรื่องงบประมาณที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 ก.ค.ได้มีการวางตัวผู้อภิปรายโดยจะสลับกันอภิปรายระหว่างสมาชิกพลังประชาชนและประชาธิปัตย์ในสัดส่วน 1 ต่อ 1
