“ไชยา” ปลงตก ไม่เสียใจ ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ พ้อขอนอนพักผ่อนที่ผ่านมาทำงานหนัก เหนื่อย ยังไม่ได้คิดอนาคตทางการเมือง ขณะที่คณะทำงานเก็บของเกลี้ยง ไม่แหยมมากระทรวงหมออีก ด้านปลัด สธ.สั่งรองปลัด หัวหน้าผู้ตรวจ ติดตามผลเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ด้าน “แพทยชนบท” ดีใจศาลตัดสิน “ไชยา” พ้นสธ.หวังได้รัฐมนตรีใหม่ไม่ขี้เหร่ ส่วน “หมอวิชัย-ศิริวัฒน์” เห็นใจไม่อยากซ้ำเติม เอ็นจีโอ เตือน ครม.อย่าอุทธรณ์คำสั่งทุเลาของศาลปกครองคุ้มครองบอร์ด อภ.ให้รกศาล
นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ภายหลังจากรู้ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่รู้สึกเสียใจและยอมรับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนอนาคตทางการเมืองยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ขณะนี้ยังไม่ได้คิดขอนอนพักผ่อนที่บ้านก่อน เพราะเหนื่อยทำงานหนักมามาก
เมื่อถามว่า สนใจงานด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ทำได้ทุกอย่าง ส่วนที่ก่อนหน้านี้ ตนเคยพูดว่า ได้รับการทาบทามให้มานั่งกระทรวงพาณิชย์นั้น เป็นการพูดคุยกันก่อนที่ผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญจะออกมา และเมื่อผลออกมาลักษณะนี้ก็อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน นายกรัฐมนตรี จะพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะตนคงไม่สามารถบอกหรืออกคำสั่งตามใจตนเองได้
ขณะที่ นายสุพจน์ ฤชุพันธุ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางออกจากกระทรวงสาธารณสุขทันที ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน โดยได้เก็บข้าวของทั้งหมดออกจากห้องเลขานุการรัฐมนตรี แล้วกล่าวว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ได้คุยกับนายไชยา เพียงนิดเดียวเท่านั้น เพราะท่านไปเยี่ยมภรรยาที่เพิ่งผ่าตัดเปลี่ยนตับที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และพักฟื้นอยู่ในห้องฉุกเฉิน ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ก็ต้องยอมรับว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว คุยกันท่านก็ไม่ได้เสียใจอะไร แค่ภรรยาปลอดภัยก็ดีใจแล้ว ส่วนคำพิพากษาของศาลนั้นคงต้องรอดูคำสั่งศาลก่อน เนื่องจากยังไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียด จากนั้นนายสุพจน์ โบกมือไปมา พร้อมกับบอกผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแล้ว ปวดหัว แต่จากวันนี้ไผนายไชยาไม่น่าจะเข้ามากระทรวงอีกแล้ว
“คงต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการทำงานของรัฐมนตรีตามมาตรา 91 และ 92 ด้วยหรือไม่ หากไม่รับรองก็ลองคิดดูเท่ากับว่าการทำงานหรือการลงนามคำสั่งใดๆ ของรัฐมนตรีที่ผ่านมาไม่มีผล ทุกอย่างก็จะกลับสู่สภาพเดิม”นายสุพจน์ กล่าว
ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ยังไม่เห็นรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร วันนี้เป็นวันมงคล อย่างให้พูดอะไรเลย แต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้ แน่นอนว่า รู้สึกเห็นใจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่อาจก่อนให้เกิดความเสียหายในกระทรวงสาธารณสุขนั้น จะมอบหมายให้ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ.และหัวหน้าผู้ตรวจราชการเป็นผู้ดำเนินการ
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ดีใจ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีการตัดสินคดีนี้ เนื่องจากการปัญหานี้คาราคาซังมานาน การทำงานของข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข มีแต่ความสับสนว่ารัฐมนตรีมีอำนาจในการสั่งการ บริหารกระทรวงหรือไม่ ซึ่งรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาแทนนั้น ควรจะต้องมีความรู้ความเข้าใจงานด้านสาธารณสุขมองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ช่วยให้ประชาชนเจข้าถึงระบบบริการสุขภาพและยามากขึ้น มองซีแอลด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่มองจากมุมของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับขับเคลื่อน กระทรวงให้มีเอกภาพ
“สธ.ไม่ใช่ไม่ใช่สมบัติประจำตระกูลของใคร คงจะมาผูกขาด เป็นรัฐมนตรีอยู่ไม่ได้ ยิ่งในสถานการณ์บ้านเมืองและรัฐบาลเป็นเช่นนี้ คงไม่ตัดสินใจให้คนที่ไม่เหมาะสม เข้ามาทำงาน แต่ถ้าจะมาจริงถึงเวลาก็ต้องแก้ไขกันไป ซึ่งหากมีการปรับครม.ก็น่าจะเป็นการปรับในหลายๆ กระทรวงไม่ใช่สธ.เพียงกระทรวงเดียว”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจรัฐมนตรี ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งหากมีงานอำลากระทรวงก็จะมามอบดอกไม้ให้ และถ้านายไชยา จะกลับมาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขอีก ก็ยินดีรับใช้ หากต้องการที่จะให้ทำงานเรื่องการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) ในส่วนคดีความที่ตนได้ฟ้องต่อศาลปกครองกรณีโยกย้ายไม่ชอบนั้น ก็เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองยังไม่ได้เรียกไต่สวน ซึ่งนอกจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ได้ยื่นต่อศาลไปแล้วนั้น หากต้องการพยานบุคคลเพิ่มเติมก็มีความพร้อมอยู่แล้ว
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวว่า ตนไม่อย่างแสดงความเห็นเพราะอาจเป็นการซ้ำเติม นายไชยา เนื่องจากมีข้อพิพากกันอยู่ ให้เป็นไปตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า รัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข อาจเป็นพรรคพวกของนายไชยาหรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นอาจทำให้การทำงานมีความลำบาก ซึ่งตนไม่ได้ตั้งความหวังมากนัก แต่ถ้าถามว่า อยากได้รัฐมนตรีแบบไหน ก็คงเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดี ตั้งใจที่จะทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง และขอให้ปฏิบัติตามคำปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดี ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคดีข้อพิพากระหว่าง บอร์ด อภ.รมว.สธ.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น เมื่อรัฐมนตีรีพ้นจากตำแหน่งไป ก็คงมีการแต่งตั้งมาใหม่ อีกทั้ง ครม.ก็ยังสามารถเป็นผู้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวบอร์ด อภ.ได้
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาเช่นนี้ ครม.ก็ไม่ควรยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองคุ้มครองบอร์ด อภ.ชั่วคราว อย่านำเรื่องไปให้รกศาล เพราะผลตัดสินอย่างนี้ก็น่าจะชัดเจนแล้ว ควรหยุดได้แล้ว ส่วนกรณีการยื่นถอดถอนรัฐมนตรีสาธารณสุข 20,000 รายชื่อ ก็คงยุติโดยอัติโนมัติ
“สิ่งสำคัญ คือ ถึงเวลาแล้วที่ปลัดสธ.ต้องมานั่งพิจารณาว่า มีงานเรื่องใดบ้างที่เกิดขึ้น แล้วเกิดปัญหาบ้างหรือไม่ เมื่อศาลไม่รับรองการทำงานของรัฐมนตรี หลังวันที่ 6 มีนาคม”น.ส.สารี กล่าว
นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ภายหลังจากรู้ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่รู้สึกเสียใจและยอมรับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนอนาคตทางการเมืองยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ขณะนี้ยังไม่ได้คิดขอนอนพักผ่อนที่บ้านก่อน เพราะเหนื่อยทำงานหนักมามาก
เมื่อถามว่า สนใจงานด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ทำได้ทุกอย่าง ส่วนที่ก่อนหน้านี้ ตนเคยพูดว่า ได้รับการทาบทามให้มานั่งกระทรวงพาณิชย์นั้น เป็นการพูดคุยกันก่อนที่ผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญจะออกมา และเมื่อผลออกมาลักษณะนี้ก็อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน นายกรัฐมนตรี จะพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะตนคงไม่สามารถบอกหรืออกคำสั่งตามใจตนเองได้
ขณะที่ นายสุพจน์ ฤชุพันธุ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางออกจากกระทรวงสาธารณสุขทันที ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน โดยได้เก็บข้าวของทั้งหมดออกจากห้องเลขานุการรัฐมนตรี แล้วกล่าวว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ได้คุยกับนายไชยา เพียงนิดเดียวเท่านั้น เพราะท่านไปเยี่ยมภรรยาที่เพิ่งผ่าตัดเปลี่ยนตับที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และพักฟื้นอยู่ในห้องฉุกเฉิน ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ก็ต้องยอมรับว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว คุยกันท่านก็ไม่ได้เสียใจอะไร แค่ภรรยาปลอดภัยก็ดีใจแล้ว ส่วนคำพิพากษาของศาลนั้นคงต้องรอดูคำสั่งศาลก่อน เนื่องจากยังไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียด จากนั้นนายสุพจน์ โบกมือไปมา พร้อมกับบอกผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแล้ว ปวดหัว แต่จากวันนี้ไผนายไชยาไม่น่าจะเข้ามากระทรวงอีกแล้ว
“คงต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการทำงานของรัฐมนตรีตามมาตรา 91 และ 92 ด้วยหรือไม่ หากไม่รับรองก็ลองคิดดูเท่ากับว่าการทำงานหรือการลงนามคำสั่งใดๆ ของรัฐมนตรีที่ผ่านมาไม่มีผล ทุกอย่างก็จะกลับสู่สภาพเดิม”นายสุพจน์ กล่าว
ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ยังไม่เห็นรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร วันนี้เป็นวันมงคล อย่างให้พูดอะไรเลย แต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้ แน่นอนว่า รู้สึกเห็นใจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่อาจก่อนให้เกิดความเสียหายในกระทรวงสาธารณสุขนั้น จะมอบหมายให้ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัด สธ.และหัวหน้าผู้ตรวจราชการเป็นผู้ดำเนินการ
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ดีใจ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีการตัดสินคดีนี้ เนื่องจากการปัญหานี้คาราคาซังมานาน การทำงานของข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข มีแต่ความสับสนว่ารัฐมนตรีมีอำนาจในการสั่งการ บริหารกระทรวงหรือไม่ ซึ่งรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาแทนนั้น ควรจะต้องมีความรู้ความเข้าใจงานด้านสาธารณสุขมองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ช่วยให้ประชาชนเจข้าถึงระบบบริการสุขภาพและยามากขึ้น มองซีแอลด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่มองจากมุมของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับขับเคลื่อน กระทรวงให้มีเอกภาพ
“สธ.ไม่ใช่ไม่ใช่สมบัติประจำตระกูลของใคร คงจะมาผูกขาด เป็นรัฐมนตรีอยู่ไม่ได้ ยิ่งในสถานการณ์บ้านเมืองและรัฐบาลเป็นเช่นนี้ คงไม่ตัดสินใจให้คนที่ไม่เหมาะสม เข้ามาทำงาน แต่ถ้าจะมาจริงถึงเวลาก็ต้องแก้ไขกันไป ซึ่งหากมีการปรับครม.ก็น่าจะเป็นการปรับในหลายๆ กระทรวงไม่ใช่สธ.เพียงกระทรวงเดียว”นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจรัฐมนตรี ที่ต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งหากมีงานอำลากระทรวงก็จะมามอบดอกไม้ให้ และถ้านายไชยา จะกลับมาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขอีก ก็ยินดีรับใช้ หากต้องการที่จะให้ทำงานเรื่องการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) ในส่วนคดีความที่ตนได้ฟ้องต่อศาลปกครองกรณีโยกย้ายไม่ชอบนั้น ก็เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองยังไม่ได้เรียกไต่สวน ซึ่งนอกจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ได้ยื่นต่อศาลไปแล้วนั้น หากต้องการพยานบุคคลเพิ่มเติมก็มีความพร้อมอยู่แล้ว
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวว่า ตนไม่อย่างแสดงความเห็นเพราะอาจเป็นการซ้ำเติม นายไชยา เนื่องจากมีข้อพิพากกันอยู่ ให้เป็นไปตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า รัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข อาจเป็นพรรคพวกของนายไชยาหรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นอาจทำให้การทำงานมีความลำบาก ซึ่งตนไม่ได้ตั้งความหวังมากนัก แต่ถ้าถามว่า อยากได้รัฐมนตรีแบบไหน ก็คงเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดี ตั้งใจที่จะทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง และขอให้ปฏิบัติตามคำปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดี ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคดีข้อพิพากระหว่าง บอร์ด อภ.รมว.สธ.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น เมื่อรัฐมนตีรีพ้นจากตำแหน่งไป ก็คงมีการแต่งตั้งมาใหม่ อีกทั้ง ครม.ก็ยังสามารถเป็นผู้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวบอร์ด อภ.ได้
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาเช่นนี้ ครม.ก็ไม่ควรยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองคุ้มครองบอร์ด อภ.ชั่วคราว อย่านำเรื่องไปให้รกศาล เพราะผลตัดสินอย่างนี้ก็น่าจะชัดเจนแล้ว ควรหยุดได้แล้ว ส่วนกรณีการยื่นถอดถอนรัฐมนตรีสาธารณสุข 20,000 รายชื่อ ก็คงยุติโดยอัติโนมัติ
“สิ่งสำคัญ คือ ถึงเวลาแล้วที่ปลัดสธ.ต้องมานั่งพิจารณาว่า มีงานเรื่องใดบ้างที่เกิดขึ้น แล้วเกิดปัญหาบ้างหรือไม่ เมื่อศาลไม่รับรองการทำงานของรัฐมนตรี หลังวันที่ 6 มีนาคม”น.ส.สารี กล่าว