นายกสมาคมบ้านเรียนไทยโวย ศธ.วัดผลเด็กโฮมสกูลด้วยวิธีการเดียวกับเด็กในโรงเรียน โดยใช้ข้อสอบตัดสิน เตรียมเสนอ สพฐ.ตั้งคณะบุคคลที่มีเข้าใจการศึกษาที่หลากหลายติดตามประเมินผลการเรียนรู้แทน
นายยุทธชัย เฉลิมชัย นายกบ้านเรียนไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ พ.ศ.2548 ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เปิดให้ครอบครัวที่จัดการศึกษาแบบบ้านเรียนไทย หรือโฮมสกูล ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย จนถึงขณะนี้ปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจในการยื่นจดทะเบียนที่เคยเกิดขึ้นหมดไปแล้ว แต่กลับมีปัญหาเรื่องการวัดประเมินผลนักเรียนบ้านเรียน เนื่องจากภาครัฐที่ดูแลการศึกษาบ้านเรียนยังเคยชินกับการวัดผลในระบบการศึกษา จึงใช้วิธีการวัดผลโดยจับเด็กสอบด้วยข้อสอบที่ใช้วัดผลในโรงเรียน แต่กระบวนการเรียนของเด็กบ้านเรียนไทยกับเด็กในระบบการศึกษามีความแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นใจศึกษานิเทศก์ของเขตพื้นที่การศึกษา เพราะการดูแลเด็กในระบบการศึกษาสามารถดูแลผ่านสถานศึกษาได้ แต่การดูแลเด็กบ้านเรียนทำให้ศึกษานิเทศก์มีภาระเพิ่มมากขึ้น เพราะเด็กเพียงคนเดียวศึกษานิเทศก์ต้องออกติดตามประเมินผลถึงที่บ้าน ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องหนักสำหรับเด็กบ้านเรียนเพราะต้องถูกประเมินผลจากศึกษานิเทศก์ถึง 7-8 คนตามจำนวนวิชาที่เรียน จึงเกิดภาวะศึกษานิเทศก์มีภาระเพิ่มขึ้นมาก และเด็กกรอบจากการประเมิน
“ผมคิดว่าจะเสนอวิธีการใหม่ ซึ่งบางประเทศใช้วิธีให้คนกลางร่วมวัดและประเมินผล เช่น อาจเป็นศึกษานิเทศก์ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว หรือผู้ที่มีความเข้าใจการศึกษาที่หลากหลายในมิติต่างๆ ในรูปคณะบุคคล วิธีการประเมินไม่ควรใช้การสอบแต่ต้องพิจารณาทั้งแฟ้มสะสมผลงาน สิ่งที่เด็กได้เรียนรู้สะสมมา และมีเวลาเพียงพอที่จะติดตามการเรียนการสอนของครอบครัวบ้านเรียนแต่ละหลัง โดยเขตพื้นที่การศึกษาและพ่อแม่ต้องมาช่วยกันด้วย เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะทำให้การศึกษาแบบบ้านเรียนเกิดการพัฒนา และเด็กมีคุณภาพ” นายยุทธชัยกล่าว
