คุรุสภา คลอดหลักเกณฑ์การต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพรุ่นแรก ซึ่งจะครบกำหนด 8 ธ.ค.52 จะต้องยื่นขอต่ออายุภายใน 180 วัน หรือ 8 มิ.ย.52
ศ.ดร.เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้จัดทำระเบียบหลักเกณฑ์การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อประกาศให้ทันใช้กับผู้ที่จะยื่นต่อใบอนุญาตฯ รุ่นแรก ที่จะหมดอายุในวันที่ 8 ธันวาคม 2552 ทั้งนี้ จะต้องยื่นขอต่ออายุภายใน 180 วันก่อนหมดอายุ โดยเริ่มยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2552
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพ ประกอบด้วย 1.มีความรู้วิชาชีพครู คือ 1.มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง หรือมีคุณวุฒิตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้ 1.1.มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และมีวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูที่คุรุสภารับรอง หรืออยู่ระหว่างศึกษาตามหลักสูตรดังกล่าว 1.2 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และมีวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพครูที่สำเร็จ การศึกษาก่อนประกาศหลักเกณฑ์การต่อใบอนุญาตใช้บังคับ 1.3 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูของคุรุสภา หรืออยู่ระหว่างการเสนอขอรับรอง(การเทียบโอน การทดสอบ การฝึกอบรม) 1.4 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และได้ศึกษาความรู้วิชาชีพครู ไม่น้อยกว่า 15 หน่วยกิต 1.5 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา และอยู่ระหว่างศึกษาให้มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาที่คุรุสภารับรอง
2.หากไม่มีวุฒิตามข้อ 1 ต้องมีประสบการณ์การสอนดังนี้ 2.1 มีวุฒิปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.2 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 3.หากไม่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ ให้เสนอคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
ส่วนเกณฑ์ผู้มีความรู้วิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา และบริหารการศึกษา คือ 1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและมีวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตทางการบริหารการศึกษาที่คุรุสภารับรอง หรืออยู่ระหว่างศึกษาตามหลักสูตรดังกล่าว 1.2 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาจากคุรุสภา หรืออยู่ระหว่างการเสนอขอรับรอง (การเทียบโอน การทดสอบ การฝึกอบรม) 1.3 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบริหารการศึกษา และอยู่ระหว่างศึกษาให้มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบริหารการศึกษาที่คุรุสภารับรอง 2.หากไม่มีวุฒิตามข้อ 1 ต้องมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษาดังนี้ 2.1 มีวุฒิปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.2 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 3.หากไม่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ ให้เสนอคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
สำหรับผู้มีความรู้วิชาชีพศึกษานิเทศก์ คือ 1.มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโททางการศึกษาหรือเทียบเท่า หรือคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง หรืออยู่ระหว่างศึกษาให้มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโททางการศึกษา หรือผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพศึกษานิเทศก์ของคุรุสภา หรืออยู่ระหว่างการเสนอขอรับรอง (การเทียบโอน การทดสอบ การฝึกอบรม) 2.หากไม่มีวุฒิตามข้อ 1 ต้องมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษา ดังนี้ 2.1 มีวุฒิปริญญาโทและมีประสบการณ์ในการนิเทศการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.2 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการนิเทศการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 3.หากไม่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ ให้เสนอคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
ศ.ดร.เสริมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา สามารถเลือกกิจกรรมการพัฒนากี่กิจกรรมก็ได้ โดยสะสมให้ได้ 50 หน่วยคะแนน ดังรายการต่อไปนี้ 1.การเข้ารับการศึกษาให้มีวุฒิเพิ่มขึ้นในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา 2.การเข้ารับการอบรมและได้รับวุฒิบัตรแสดงความชำนาญการในการประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา 3.การผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ 4.การผ่านการประเมิน เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะที่สูงขึ้น หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาประเมิน 5.การเป็นวิทยากรในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษา 6.การเขียนตำรา บทความ ผลงานทางวิชาการ ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษา 7.การสร้างนวัตกรรมที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ หรือที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา 8.การทำวิจัย ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้และการศึกษา 9.การได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลของคุรุสภา หรือของหน่วยงานอื่น 10.การเข้าฟังการบรรยาย อภิปราย ประชุมปฏิบัติการ การประชุมสัมมนา หรืออื่นๆ โดยมีการลงทะเบียนและมีหลักฐานแสดงการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ขอต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งรับรองโดยผู้บังคับบัญชาของผู้ต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ศ.ดร.เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้จัดทำระเบียบหลักเกณฑ์การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อประกาศให้ทันใช้กับผู้ที่จะยื่นต่อใบอนุญาตฯ รุ่นแรก ที่จะหมดอายุในวันที่ 8 ธันวาคม 2552 ทั้งนี้ จะต้องยื่นขอต่ออายุภายใน 180 วันก่อนหมดอายุ โดยเริ่มยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2552
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพ ประกอบด้วย 1.มีความรู้วิชาชีพครู คือ 1.มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง หรือมีคุณวุฒิตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้ 1.1.มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และมีวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูที่คุรุสภารับรอง หรืออยู่ระหว่างศึกษาตามหลักสูตรดังกล่าว 1.2 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และมีวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพครูที่สำเร็จ การศึกษาก่อนประกาศหลักเกณฑ์การต่อใบอนุญาตใช้บังคับ 1.3 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูของคุรุสภา หรืออยู่ระหว่างการเสนอขอรับรอง(การเทียบโอน การทดสอบ การฝึกอบรม) 1.4 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี และได้ศึกษาความรู้วิชาชีพครู ไม่น้อยกว่า 15 หน่วยกิต 1.5 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา และอยู่ระหว่างศึกษาให้มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาที่คุรุสภารับรอง
2.หากไม่มีวุฒิตามข้อ 1 ต้องมีประสบการณ์การสอนดังนี้ 2.1 มีวุฒิปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.2 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 3.หากไม่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ ให้เสนอคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
ส่วนเกณฑ์ผู้มีความรู้วิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา และบริหารการศึกษา คือ 1. มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและมีวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตทางการบริหารการศึกษาที่คุรุสภารับรอง หรืออยู่ระหว่างศึกษาตามหลักสูตรดังกล่าว 1.2 มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาจากคุรุสภา หรืออยู่ระหว่างการเสนอขอรับรอง (การเทียบโอน การทดสอบ การฝึกอบรม) 1.3 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบริหารการศึกษา และอยู่ระหว่างศึกษาให้มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบริหารการศึกษาที่คุรุสภารับรอง 2.หากไม่มีวุฒิตามข้อ 1 ต้องมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษาดังนี้ 2.1 มีวุฒิปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.2 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 3.หากไม่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ ให้เสนอคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
สำหรับผู้มีความรู้วิชาชีพศึกษานิเทศก์ คือ 1.มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโททางการศึกษาหรือเทียบเท่า หรือคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง หรืออยู่ระหว่างศึกษาให้มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโททางการศึกษา หรือผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพศึกษานิเทศก์ของคุรุสภา หรืออยู่ระหว่างการเสนอขอรับรอง (การเทียบโอน การทดสอบ การฝึกอบรม) 2.หากไม่มีวุฒิตามข้อ 1 ต้องมีประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษาหรือการบริหารการศึกษา ดังนี้ 2.1 มีวุฒิปริญญาโทและมีประสบการณ์ในการนิเทศการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.2 มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และมีประสบการณ์ในการนิเทศการศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี 3.หากไม่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ทั้ง 2 ข้อ ให้เสนอคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี
ศ.ดร.เสริมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา สามารถเลือกกิจกรรมการพัฒนากี่กิจกรรมก็ได้ โดยสะสมให้ได้ 50 หน่วยคะแนน ดังรายการต่อไปนี้ 1.การเข้ารับการศึกษาให้มีวุฒิเพิ่มขึ้นในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา 2.การเข้ารับการอบรมและได้รับวุฒิบัตรแสดงความชำนาญการในการประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา 3.การผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ 4.การผ่านการประเมิน เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะที่สูงขึ้น หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาประเมิน 5.การเป็นวิทยากรในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษา 6.การเขียนตำรา บทความ ผลงานทางวิชาการ ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษา 7.การสร้างนวัตกรรมที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ หรือที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา 8.การทำวิจัย ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้และการศึกษา 9.การได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลของคุรุสภา หรือของหน่วยงานอื่น 10.การเข้าฟังการบรรยาย อภิปราย ประชุมปฏิบัติการ การประชุมสัมมนา หรืออื่นๆ โดยมีการลงทะเบียนและมีหลักฐานแสดงการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ขอต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งรับรองโดยผู้บังคับบัญชาของผู้ต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ