แพทย์ศิริราชเตือนมีอาการเวียนหัว บ้านหมุนอย่าวางใจ เสี่ยงหกล้มเกิดอุบัติเหตุ พบได้ในผู้สูงอายุ 60 ปี ถึงร้อยละ 30 ขณะที่แพทย์จุฬาฯ เตือนกระดูกเริ่มพรุนตั้งแต่อายุ 30 ปี แนะใช้ท่าทางในกิจวัตรประจำวันถูกวิธี ป้องกันอาการปวดชา
ศ.เกียรติคุณ พญ. สุจิตรา ประสานสุข แพทย์โสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลศิริราชพยาบาล กล่าวถึงอาการเวียนหัว บ้านหมุนในการจัดกิจกรรมสำหรับคนรักสุขภาพ “Eisai Day รถด่วน ขบวนคนรักสุขภาพ ”ว่า อาการเวียนหัว บ้านหมุนเป็นโรคที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบมากในผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ถึงร้อยละ 30 สาเหตุมาจากระบบการทรงตัวผิดปกติ หูน้ำหนวก การไหลเวียนของกระแสโลหิตบกพร่องจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ แม้กระทั่งเนื้องอกในสมอง หากผู้สูงอายุปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้หกล้ม ได้รับอุบัติเหตุนำไปสู่ความพิการ อัมพาตได้ แนะให้ดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ การเวียนหัวบ้านหมุนในเด็ก อาจเกิดจากการขึ้นรถ-ลงเรือ จึงไม่ควรให้กินยาแก้เวียนศีรษะเพียงอย่างเดียว ให้พักดูอาการจนแน่ชัด ก่อนไปพบแพทย์
ศ.เกียรติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์พื้นฟู โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ประธานมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาวะกระดูกพรุนเกิดจากความเสื่อมของสภาพร่างกาย โดยพบกระดูกเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป สาเหตุมาจากท่าทางในการประกอบกิจวัตรประจำวันไม่เหมาะสม ตั้งแต่การขับรถ นั่ง นอน เดิน ยืน ผิดวิธี ผิดท่า เกิดการกดทับเส้นประสาท หากเส้นประสาทเส้นไหนถูกกดทับจะเกิดการปวดชา แนวทางรักษา คือ การทำกายภาพบำบัด หากไม่หายต้องทำการผ่าตัด แนะวิธีป้องกันคือใช้ท่าทางในชีวิตประจำวันให้ถูกวิธี เช่น ท่ายกของ การหนุนหมอนให้หนุนตั้งแต่คอขึ้นไป ไม่ใช่หนุนศีรษะเพียงอย่างเดียว
