ถ้าพูดถึงความงามของผู้หญิง “ดวงตา” นับเป็นปราการด่านแรกที่ส่งประกายทักทายหรือ อาจสะกดใจผู้ที่พบเห็น…
ดวงตาที่กลมโตพร้อมขนตายาวดำขลับ จึงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั้งหลายใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ แต่ธรรมชาติมักไม่สร้างความสมบูรณ์พร้อมมาให้ โดยเฉพาะสาวไทยซึ่งบ้างก็ตาเล็ก ตาใหญ่ ชั้นตาลึก ดังนั้น เพื่อให้ได้ความงามดั่งใจ สาวๆ หลายคนจึงคิดหาสารพัดวิธีเพื่อให้ดวงตากลมโต
ตั้งแต่การติดสก็อตเทปที่เปลือกตา ใส่คอนแทกต์เลนส์ตาโต ไปจนถึงใช้เทคนิคเมกอัพเพื่อให้ตาโตสวยดั่งใจ ในขณะที่หลายคนอาจเลือกเสริมความมั่นใจให้กับตัวเองด้วยการ พึ่งพาการศัลยกรรม โดยเฉพาะการทำตาสองชั้นที่ติดอันดับฮอตฮิตการศัลยกรรมของคุณสาวๆ เพราะทำให้สวยขึ้นได้ในพริบตา
แต่การทำตาสองชั้นนั้นก็มีเทคนิคที่หลากหลายเพื่อให้ได้ความงามดั่งใจ ควรศึกษาถึงเทคนิคต่างๆ ของการทำตาสองชั้น จะได้สวยแบบไม่ต้องเจ็บตัวอีกต่อไป
นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน โสต ศอ นาสิก และศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ให้คำแนะนำสำหรับคุณสาวๆที่ต้องการมีตาสองชั้นว่า
“ในขณะนี้การทำตาสองชั้นเป็นที่นิยมมากและถือเป็นการศัลยกรรมตกแต่งอันดับต้นๆ ของสาวไทย
ซึ่งวิธีที่แพทย์ส่วนใหญ่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ การกรีดเปลือกตา การผ่าตัดและเย็บเป็นแผลยาว การใช้เลเซอร์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของบุคคล แต่ละรายด้วยว่าเหมาะสมกับวิธีการใด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ของผู้หญิงไทยที่ตัดสินใจมาทำศัลยกรรมนั้นล้วนต้องการแก้ปัญหาความบกพร่องของดวงตาที่เล็กเรียวให้โตขึ้นและมีชั้นตาสวยงาม โดยมักทำในกลุ่มของผู้ที่มีอายุน้อย
ในอีกกรณีคือ การผ่าตัดสำหรับผู้ที่มีตาสองชั้นอยู่เดิม แต่เมื่ออายุมากขึ้นหนังตาจะตกมาบังสายตาทำให้เกิดอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตจึงต้องพึ่งการศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งก่อนตัดสินใจทำตาสองชั้นผู้บริโภคควรศึกษาผลข้างเคียง การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา ตลอดจนศึกษาผลดีผลเสียของการทำตาสองชั้นให้ละเอียดก่อนทำการรักษา”
นพ.ชลธิศ เล่าถึงความแตกต่างของเทคนิคการทำตาสองชั้นแต่ละวิธีเพื่อเป็นประโยชน์แก่ คุณสาวๆ ที่จะตัดสินใจทำตาสองชั้นว่า “การเย็บเปลือกตาด้านใน” ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมสมัยหนึ่งในอดีต ซึ่งวิธีนี้ทำกันมานานกว่า 20-30 ปี โดยแพทย์จะเย็บเปลือกตาจากด้านใน วิธีนี้จะมีระยะเวลาความคงทนแค่เพียง 1-2 ปี จากนั้นชั้นตาจะหลุดทำให้ต้องกลับมาแก้ไขใหม่ “การตัดหนังตาออกและเย็บ” โดยกรีดเปลือกตาบนเป็นทางยาวเพื่อเอาไขมันส่วนเกินออกแล้วจึงเย็บตามรอยแผลที่กรีดไว้ วิธีนี้จะมีข้อเสียคือชั้นตาเป็นตะเข็บ รอยแผลหยาบและเป็นรอยยาว “การกรีดเปลือกตา” วิธีนี้ไม่แตกต่างจากวิธีที่ 2 แผลที่ได้อาจดูเล็กและเนียนกว่า แต่มีระยะเวลาความคงทนเท่ากัน “การใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัด” จะทำให้มีเลือดออกน้อย แต่ไม่ได้ทำให้แผลสวยกว่าการผ่าตัดปกติ
ส่วน “วิธีการดูดไขมัน” เป็นเทคนิคการเจาะรูเล็กๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร ที่เปลือกตาบนและดูดไขมันออก วิธีนี้ถ้าทำถูกจุดและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะได้ชั้นตาสวยและดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือหลังการผ่าตัดจะเกิดอาการบวมช้ำน้อยมาก เนื่องจากแพทย์ใช้เวลาในการผ่าตัดเพียงช่วงสั้นๆ”
ทั้งนี้ ปัจจุบันวงการศัลยกรรมของประเทศไทย มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยแพทย์ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของหญิงสาวที่รักสวยรักงามโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมี ตาสองชั้นแต่กลัวเจ็บจากแผลผ่าตัดรวมถึงมีความกังวลถึงผลข้างเคียงอย่าง อาการช้ำ บวมและแผลเป็น จึงมีนวัตกรรม “ดูดไขมันร่วมกับการใช้ Microscopic Surgery” ที่ช่วยมาตอบรับความต้องการของผู้หญิงที่อยากสวยขึ้นในพริบตาแต่กลัวเจ็บตัว เนื่องจากวิธีนี้จะมีรอยแผลที่เปลือกตาเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น ไม่มีอาการบวมช้ำ และสามารถไปทำงานหรือเดินช้อปปิ้งได้ทันทีหลังเข้ารับการผ่าตัด ที่สำคัญ คือ ดูเป็นธรรมชาติจนแทบแยกไม่ออกว่าไปทำศัลยกรรมมาหรือไม่
ดังนั้น กล่าวโดยสรุปก็คือ การทำตาสองชั้นโดยวิธีศัลยกรรม จึงมีวิธีการหลากหลาย ถึง 4-5 วิธี ซึ่งหมายถึงผลการรักษา ความเนียน ความละเอียด ความหยาบ จนถึงขั้นดูเป็นธรรมชาติสวยหมดจดไร้ร่องรอยแผลเป็น ซึ่งคุณผู้หญิงทั้งหลายควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมนั้นเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งที่ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของคุณให้ดูดี แต่หากคุณสาวๆละเลยที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเคล็ดลับง่ายๆ สู่ประตูของการมีสุขภาพดีที่เงิน ก็ซื้อไม่ได้แต่เริ่มต้นได้ที่ตัวคุณเองตั้งแต่วันนี้...
