“เฉลิม” ประกาศ 6 มาตรการแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน กทม.พร้อมลั่นยังไงก็ไม่ออกเพราะรอมา 30 ปีแล้ว ชี้แผนที่เขาพระวิหารรัฐบาลไม่มีเอี่ยว มีทหารยศพลโทเป็นคนทำ ขณะที่ผู้นำชุมชนจำนวนมากไม่พอใจ “เป็ดเหลิม” โจมตีพันธมิตร Walk Out ออกจากห้องประชุม
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน และมี นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวรายงานในโครงการ “รวมพลังชุมชน คนกรุงเทพฯ เอาชนะยาเสพติด” โดยมีประธานกรรมการชุมชนและผู้นำชุมชนทั้ง 50 เขตเข้าร่วมรับฟังกว่า 500 คน
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวมอบนโยบายด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้แก่ผู้นำชุมชน ว่า วันนี้คนกรุงเทพฯมีกลุ่มที่อยู่กับความจริง และกลุ่มที่อยู่กับกระแส เมื่อคนส่วนมากอยู่กับกระแส ตนจึงต้องตั้งหลักให้ดี ทั้งนี้ ตนเริ่มปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดเมื่ออายุ 26 ปี และเมื่อได้มาเป็น มท.1 จึงมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะปราบปรามยาเสพติดตามเจตนารมณ์โดยไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลใดๆ และตนได้ขอตัวลูกชายคือว่าที่ร.ต.ดวง อยู่บำรุง จากกระทรวงหลาโหมให้มาช่วยราชการอยู่ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย เพื่อปราบปราบเรื่องยาเสพติดโดยเฉพาะ
เนื่องจาก ว่าที่ ร.ต.ดวง มีเพื่อนสนิทอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดของนายเหว่ย เซี๊ยะ กัง ชื่อว่า “อ้ายโจ” ซึ่งเป็นคนคุมยา และทางอ้ายโจบอกว่าทางนั้นต้องการที่จะหารือกับตนในเรื่องที่ตนได้เคยพูดคุยไว้เมื่อครั้งที่ตนศึกษาในระดับปริญญาเอกและมีโอกาสเข้าไปที่พม่าและได้พบปะหารือ เนื่องจากตนเองรู้จักกับน้องชายของ นายเหว่ย เซี๊ยะ กัง
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดตั้งแต่ต้นการผลิต ทั้งนี้ ตนขอให้ผู้นำชุมชนปฏิบัติตามประกาศ 6 ข้อเพื่อให้ทุกชุมชนปราศจากยาเสพติด ได้แก่ 1.ต้องช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบว่าใครเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทรแจ้งที่สายด่วน ป.ป.ส.1386 2.ต้องร่วมมือกับทางสำนักงานเขตในการค้นหาผู้เสพและบอกกับเขาว่าผู้เสพคือผู้ป่วยต้องเข้ารับการบำบัดรักษา 3.ต้องรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างกระแสต่อต้านโดยบอกกับผู้ขายว่าโทษสูงสุดต้องถูกยึดทรัพย์ 4.ต้องทำให้ชุมชุนของท่านเป็นสีขาว ใสสะอาด ปราศจากยาเสพติด มีการจัดระบบเวรยาม ตั้งจุดตรวจในชุมชน 5.สำรวจแหล่งมั่วสุมร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ตในชุมชนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล และ 6.การแก้ไขยาเสพติดในครั้งนี้ไม่มีกรแบ่งฝ่ายประชาธิปัตย์ หรือพลังประชาชน เพราะเราจะทำงานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นเอกภาพ แต่เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งค่อยมาแข่งขันกันใหม่
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า สำหรับการปราบปรามยาเสพติดจะใช้หลัก 3 ลด 3 เพิ่ม 3 เน้น ได้แก่ 3 ลด หมายถึง การลดปัจจัยปัญหายาเสพติดทั้งผู้ค้า ผู้เสพ กลุ่มเสี่ยงและปัจจัยเสี่ยง 3 เพิ่ม คือ เพิ่มมาตรการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้เข้มแข็ง เพิ่มบทบาทภาคประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มบทบาทช่องทางสาธารณะร่วมเฝ้าระวังยาเสพติด 3 เน้น คือ เน้นกทม.และปริมณฑลบางพื้นที่ เน้นพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเน้นพื้นที่นำเข้าและพื้นที่ต่อเนื่องซ้ำซาก
ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ส่วนตัวแล้ว ตนกับ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รักกันดี เพราะนายอภิรักษ์เป็นเด็กดีมีมารยาท ตอนหาเสียงสมัยเลือกตั้งผู้ว่าฯเมื่อ 4 ปีก่อน นายอภิรักษ์ ก็เรียกตนว่าพี่เสมอ ไม่เคยพูดกระทบกระทั่งบนเวทีหาเสียงเลยสักครั้ง และวันนี้เมื่อ คตส.มีมติให้ นายอภิรักษ์ หลุดคดีรถดับเพลิง ก็เป็นไปตามที่ตนเคยบอกเอาไว้ ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องคดี เพราะเชื่อว่ายังไงก็หลุดแน่ ให้ทำงานไปอย่างเต็มที่ ไม่เชื่อให้ถามรองผู้ว่าฯ วัลลภ สุวรรณดี ก็ได้เพราะเคยกระซิบบอกเอาไว้ และการลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ พรรคพลังประชาชนยังไม่มีการวางตัวผู้สมัคร แต่ถ้านายอภิรักษ์จะลงสมัครอีกครั้ง ตนยินดีที่จะนำปราศรัยให้ แต่ถ้า ปชป.ไม่ส่งอภิรักษ์ ลง ตนก็จะไม่เล่นการเมือง
ร.ต.อ. เฉลิม ยังกล่าวถึงประเด็นเขาพระวิหารด้วยว่า แผนที่ที่มีการพูดถึงขณะนี้รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำแผนที่แต่มีนายทหารยศพลโท ของกรมแผนที่ทหารเป็นผู้จัดทำขึ้นมา ซึ่งไทยทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีอะไรอะไรเสียหายเลย และที่สำคัญรัฐบาลชุดนี้ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติโครงการใดๆเลย แต่กลุ่มพันธมิตรฯก็เอามาโจมตีแล้ว และบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่จงรักภักดี
“หากถามถึงความจงรักภักดี นายสนธิ เคยได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินสักครั้งหรือไม่ ผมรับมาแล้ว 3 ครั้ง และได้สายสะพาย อยากถามว่าที่ นายสนธิ บอกว่า ผมไม่จงรักภักดีแล้ว นายสนธิ จงรักภักดีกว่าผมตรงไหน และขอยืนยันว่า เรื่องที่จะให้ผมลาออกคงเป็นไปไม่ได้ เพราะผมรอมาตั้ง 30 ปีกว่าจะได้เป็น มท.1 และจะเพิ่งจะได้เป็น ไอ้ห่า จะให้ลาออก กูไม่ไปหรอก ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรฯบุกทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ ถ้าผมรับผิดชอบทำเนียบรัฐบาล ผมจะปล่อยให้พวกม็อบเข้ามา อยากบุกก็บุกเข้ามาดูสิว่าเข้ามาแล้วจะทำอะไร แต่ผมไม่ได้รับผิดชอบทำเนียบ คุณสมัครเป็นผู้รับผิดชอบ” มท.1 กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวโต้ตอบกระแสการเมือง อย่างดุเด็ดเผ็ดมันนั้น ประชาชนที่เข้ารับฟังเดินออกจากห้อง (Walk Out) เป็นจำนวนมาก เนื่องจากอาจไม่พอใจที่ปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ และมีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง และพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการแก้ไขยาเสพติด
