xs
xsm
sm
md
lg

ราชสกุลประวิตร-วัดกัลยาณ์ ทางออกหลังรื้อเจดีย์ “เจ้าจอมมารดาแช่ม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจดีย์ราชสกุลประวิตร (ขวามือ)  ที่ขณะนี้ถูกรื้อไปแล้ว
เป็นกรณีที่มีประชาชนสนใจไม่น้อยทีเดียว สำหรับข่าวคราวการรื้อเจดีย์เก่าแก่อายุเฉียดศตวรรษ ภายในวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร ที่บรรจุพระอัฐิเจ้าจอมมารดาแช่ม พระชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งบรรจุเอาไว้ที่เดียวกับพระอัฐิของสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปราจิณกิติบดี กรมหลวงประวิตรวัฒโนดม พระโอรสในสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงและเจ้าจอมมารดาแช่ม

นอกจากนั้น จากการรื้อค้นภายหลังยังพบว่ามีการบรรจุพระอัฐิและอัฐิของพระญาติวงศ์และสายราชสกุล “ประวิตร” อื่นๆ เอาไว้ด้วยได้แก่ ของ หม่อมชื่น ประวิตร ,มจ.จิตรปรีดี ประวิตร,มจ.วิกรมสุรสีห์ ประวิตร,มจ.กนิฐากุมารี ประวิตร,ท่านผู้หญิงพุ่ม สุรสีห์วิสิษฐศักดิ์และมล.เหมือนจันทน์ ประวิตร

ล่าสุดด้าน “พระธรรมเจดีย์” เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร เจ้าคณะภาค 13 ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าว รวมถึงเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เข้าฟังการเจรจาเบื้องต้นระหว่างทางวัดและราชสกุลประวิตร โดยมีพล.ต.มล.สุปรีดี ประวิตร รองเจ้ากรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศ กระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทน
เจ้าอาวาสวัดกัลยาณ์ฯ ได้อธิบายถึงจุดประสงค์หลักของการทุบเจดีย์พระอัฐิของสายราชสกุลประวิตรว่า เป็นการทุบโดยไม่ได้มีเจตนาทำลาย เพียงแต่ต้องการพื้นที่บริเวณนั้นเพื่อสร้างศาลาราย ที่จะเป็นที่เรียนของภิกษุสงฆ์ตลอดจนนักเรียนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์
“ไม่ได้เอาไปใช้เป็นพื้นที่ขายธูปเทียนอย่างที่เป็นข่าว เอามาสร้างศาลารายให้พระ ให้เณร แล้วก็นักเรียนมาเรียนหนังสือ เมื่อเขาถวายเงินมาแล้ว หน้าที่ของเจ้าอาวาสก็จำเป็นต้องดำเนินการ ไม่ใช่ว่ารับเงินแล้วไม่ได้เอาไปทำอะไร”

พระธรรมเจดีย์กล่าวต่อไปอีกว่า สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะการติดต่อกับราชสกุลประวิตรนั้นเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก ทำให้ไม่รู้ว่าที่อยู่ในเจดีย์ราชสกุลนั้น คือพระอัฐิและอัฐิบุคคลสำคัญต่างๆ ในสายราชสกุลประวิตร ประกอบกับวันที่มีการทุบนั้น เป็นวันที่ติดภารกิจประชุม และหัวหน้าช่างก็ไม่อยู่ ทำให้ช่างที่เหลือดำเนินการทุบด้วยรถแบ็คโฮอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

“ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดในการสื่อสารที่ไม่สามารถติดต่อทายาทสายราชสกุลประวิตรได้ และผิดพลาดในเรื่องที่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ภายในเจดีย์ เมื่อเกิดเหตุขึ้น ทางวัดก็ขอเสนอแนวทางแก้ไข คือจะทำศาลารายประวัตราชสกุลประวิตร และนำพระอัฐิมาบรรจุไว้ในศาลาราย หรืออาจจะทำพิพิธภัณฑ์และจำลองเจดีย์ขึ้นใหม่ไว้ในศาลาราย ก็ต้องพูดคุยกันอีกที”

ด้านตัวแทนราชสกุลประวิตรรายหนึ่งระบุว่า ภายหลังเกิดเหตุ ก็ได้ประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาร่วมช่วยกันแยกเศษอัฐิที่กระจัดกระจายปนอยู่กับดินและซากเจดีย์ รวมถึงการตามหาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร พระเครื่องอื่นๆ และวัตถุโบราณที่หายไปจากเจดีย์ภายหลังโดนทุบทลาย

“แต่ในเมื่อมันเกิดเหตุขึ้นแล้ว มันก็เป็นความสูญเสีย ผมเองรู้สึกผิดมาก และต้องทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษที่ปกป้องเจดีย์สำคัญของราชสกุลเอาไว้ไม่ได้ รวมถึงทูลเกล้าฯ ถวายรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย แต่สำหรับกับทางวัด ก็ไม่ได้ต้องการจะพูดถึงความผิดพลาดให้บอบช้ำมากไปกว่านี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันสูญเสียพอแล้ว ถึงตรงนี้ก็ควรจะหาทางออก หารือเพื่อแก้ปัญหา”

พล.ต.มล.สุปรีดีกล่าวว่า ภายหลังการเข้าไปเก็บอัฐิ พระพุทธรูป พระเครื่อง และวัตถุโบราณต่างๆ และมีการสูบน้ำออกจากพื้นที่ ก็พบว่าใต้ฐานเจดีย์ใหม่ที่ได้รับการบูรณะเมื่อ 20 ปีก่อนโดยมล.เหมือนจันทร์ (ดารากร) ประวิตรมีฐานเจดีย์เก่าที่สร้างเมื่อ 99 ปีที่แล้วอยู่ และทิศทางของการวางฐาน ทำให้เห็นว่า ผู้สร้างตั้งใจจะหันด้านหน้าเจดีย์ไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา จึงคิดว่าอยากเสนอให้มีการถวายพระเกียรติคืนแบบเดิม ณ จุดเดิม

“ทางราชสกุลไม่ได้มีเจตนาที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการสร้างศาลารายของวัด แต่เมื่อพบเห็นฐานเจดีย์เก่าและพบว่ามุมการหันของเจดีย์หันลงแม่น้ำ ก็อยากให้ถวายพระเกียรติคืนแบบเดิม ณ จุดเดิม และยิ่งเมื่อค้นประวัติราชสกุล ก็พบว่าเจ้าจอมมารดาแช่มสิ้นพระชนม์เมื่อปีพ.ศ.2442 ก่อนพระพุทธเจ้าหลวงที่เสด็จสวรรคตปีพ.ศ.2443 ทำให้เชื่อได้แน่ว่า การนำอัฐิของเจ้าจอมมารดาแช่มมาไว้ในเจดีย์วัดกัลยาณ์ฯ ต้องทรงทราบถึงพระเนตรพระกรรณและเป็นพระราชประสงค์ส่วนพระองค์ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5”

“ถามว่าทำไมถึงนำอัฐิเจ้าจอมมารดาหรือพระอัฐิของพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ มาไว้ที่นี่ ไม่เอาไว้ในสุสานหลวงวัดราชบพิธ ก็เพราะท่านผูกพันกับวัดมาก ในสมัยที่ยังมีพระชนม์ เจ้าจอมมารดาแช่มเคยขอพระราชทานทรัพย์บางส่วน เพื่อนำมาพัฒนาวัด แล้วกรมหลวงปราจิณฯ เอง ก็เคยรับพระบรมราชโองการจากรัชกาลที่ 6 ไปเป็นมัคทายกวัดกัลยาณ์ด้วย ทำให้ท่านทั้งสองรวมถึงราชสกุลประวิตรอื่นๆ ผูกพันกับวัดนี้มาก”

สุดท้ายในการหารือเบื้องต้นระหว่างวัดกับตัวแทนฝั่งราชสกุลประวิตร ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนนัก ด้านตัวแทนราชสกุล ได้เสนอหนทางแก้ไข วอนให้ทางวัด ดำรงพระเกียรติยศ พระเกียรติศักดิ์ ของดวงพระวิญญาณอันล่วงลับ และถวายพระเกียรติดังเดิม

“ส่วนทางท่านเจ้าอาวาสที่เสนอให้ทำศาลารายและติดพระนามเจ้าจอมหรือกรมหลวง หรือเสนอทำพิพิธภัณฑ์ หรือสร้างเจดีย์จำลองไว้ในศาลาราย ก็ขอให้ไตร่ตรองให้ดี ว่าสมพระเกียรติพอหรือไม่” พล.ต.มล.สุปรีดีทิ้งท้าย
มล.ภัทรชาติ ประวิตร แสดงภาพแผ่นจารึกหน้าฐานพระประจำพระชนมวารที่ขณะนี้องค์พระยังคงสูญหายแก่พระธรรมเจดีย์ เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร
ฐานเจดีย์ราชสกุลประวิตรเดิมที่สร้างคู่มากับเจดีย์อายุ 99 ปี
พล.ต.มล.สุปรีดี ประวิตร โชว์เศษกระเบื้องซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นโกศไชน่าโบนที่บรรจุพระอัฐิหรืออัฐิของท่านใดท่านหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น