สสส.เผยปี 50 มีผีพนันเยาวชนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13.84% คิดเป็นล้านกว่าคน อาชีวะเล่นสูงสุดพร้อมเตือนภัยพ่อแม่จับ 10 สัญญาณอันตรายนักพนันรุ่นเยาว์ในเทศกาลฟุตบอลยูโร ดร.อมรวิชช์ ชี้จะมีเด็กเล่นพนันสูงขึ้นเป็น 2 เท่า สะกิดมหาดไทย-ไอซีที เข้าควบคุม ด้านอดีตเด็กติดบอลตีแผ่ประสบการณ์หลังติดหนี้ 2 แสนต้องหนีหัวซุกหัวซุน แนะวิธีดูบอลให้สนุกต้องดูเอาทักษะ เอาวิธีการ
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดแถลงข่าว “พนันบอล พนันชีวิต” โดยโครงการเฝ้าระวังเด็ก Child Watch ซึ่งกว่า 3 ปีที่ผ่านมาหัวข้อเรื่องการพนันฟุตบอลเป็นปัญหาที่น่าจับตามากที่สุดปัญหาหนึ่งนั้น ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลการเล่นพนันฟุตบอลของเด็กและเยาวชนไทยทั่วประเทศ ในปี 2550 พบว่าทุกระดับเล่นพนันฟุตบอลเพิ่มขึ้น ประถมศึกษา 6.03% มัธยมต้น 13.30% มัธยมปลาย 15.88% อาชีวศึกษา 18.21% มีเพียงระดับอุดมศึกษาเท่านั้นที่มีจำนวนลดลงจาก 17.10% เป็น 16.45% ซึ่งโดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา มีเด็กไทยเล่นพนันฟุตบอล 13.84% แยกเป็นชาย 21.78% และหญิง 5.82% รวมแล้วเฉพาะในเยาวชนที่เล่นการพนันฟุตบอลเป็น 1 ล้านคนจากจำนวนเยาวชนทั้งหมด และเชื่อว่าในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร 2008 นี้ จะมีนักพนันหน้าใหม่เกิดขึ้นโดยอาจจะเพิ่มเป็น 2 เท่า
“สถิติจากผลสำรวจพบว่าพื้นที่ที่มีเยาวชนเล่นพนันบอลมากที่สุดคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 16.74 ภาคเหนือตอนล่าง ร้อยละ 15.40 กทม.และปริมณฑล ร้อยละ 15.07 ภาคกลาง ร้อยละ 14.05 ภาคตะวันออก ร้อยละ 12.09 งานวิจัยของนิสิตจุฬา ตามลำดับ การแทงในแต่ละครั้งจะมีตั้งแต่ 500-1,000 บาท ซึ่งเงินสะพัดแต่ละครั้งกว่าหมื่นล้านบาท”
ดร.อมรวิชช์ กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้เด็กเล่นพนันบอล คือ 1.ตามเพื่อนหรือคนรู้จัก 2.อยากได้เงิน 3.อยากลอง 4.สภาพแวดล้อม ที่มีพ่อแม่หรือคนรู้จักเล่นการพนันให้เห็น ซึ่งสถิติที่พบและช่องทางการเล่นที่มากขึ้น เชื่อว่าปีนี้จะมีเด็กที่เล่นพนันบอลจะมีเพิ่มขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงได้ง่าย ได้เงินง่าย อีกทั้งการแทงที่โต๊ะบอลให้เครดิตไม่ต้องจ่ายสด การแทงผ่านโทรศัพท์ และเว็บไซต์เครือข่ายจากต่างประเทศที่กำลังระบาดในขณะนี้ด้วย
“ต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง ครู โรงเรียน ที่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็ก อีกทั้งต้องมีทางเลือกให้เขามากเพียงพอ เพราะอย่างที่บอกว่าเด็กไม่มีทางเลือกมากนัก ดังนั้น การหากิจกรรมสร้างสรรค์ให้เขาก็จะเป็นการหาทางออกได้ อีกประการหนึ่งต้องฝากผู้ว่าราชการจังหวัดให้กวดขัน กระทรวงมหาดไทย และไอซีทีที่ต้องเข้ามาจัดการเว็บไซต์พนัน เพราะการกวดล้างเฉพาะหน้าของตำรวจไม่พอ” ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าว
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ รองผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า ข้อมูลจากเครือข่ายเยาวชนระบุว่ามีเด็กที่เล่นพนันฟุตบอลอายุน้อยที่สุดเพียง 7 ขวบเท่านั้น โดยเงินแทงขั้นต่ำอยู่ที่ 50 บาท สำหรับเยาวชนอายุ 18-24 ปีจะเริ่มจาก 50-100,000 บาท โดยช่องทางที่เด็กใช้พนันบอลมากที่สุด ผ่านคนเดินโพย โทรศัพท์ โต๊ะบอล สถานบริการอื่น เช่น โต๊ะสนุ๊ก ร้านอาหาร ผับ บาร์ หอพัก เป็นต้น
“แต่ละคืนกว่าจะแข่งเสร็จก็เกือบตี 4 เด็กต้องไปเรียนหนังสือ ที่สำคัญขอให้สื่อมวลชน รายงานผลกีฬาอย่างคำนึงถึงผลกระทบที่ตามา ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิตของเด็ก” ทพ.กฤษดา กล่าว
ด้าน นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ประสานงานศูนย์กิจกรรมเยาวชนเพื่อชุมชนและสังคม และอดีตเซียนพนันฟุตบอล กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้ามือโต๊ะบอลรายใหญ่ คาดว่ามีโต๊ะบอลทั่วประเทศ 6,000 โต๊ะ โต๊ะใหญ่ที่รับพนันตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท มีประมาณ 700-1,000โต๊ะ ขนาดกลางและเล็ก 5,000 โต๊ะ ซึ่งการพนันบอลมีมากที่สุดในช่วง พรีเมียร์ลีก แต่จริงๆ แล้วก็มีการแทงฟุตบอลกันทุกวัน คนเดินโพยที่เข้าถึงเด็กมากที่สุด ก็คือเพื่อนนักเรียนด้วยกันเอง
นายวันเฉลิม กล่าวอีกว่า เด็กที่เล่นเสียแล้วไม่มีเงินจ่าย ถ้าเป็นเงินน้อยๆ โชคดีอาจแค่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าเงินเป็นหลักหมื่นขึ้นไป บางคนต้องเสียอนาคต ตนเคยมีเพื่อนที่เป็นหนี้พนันฟุตบอลหลักแสน ขณะนี้ต้องออกจากมหาวิทยาลัย ไม่กล้าไปเรียน กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวก็ไม่ได้ บางรายถูกเล่นงานถึงตาย นักศึกษาหญิงบางคนติดหนี้จนต้องขายรถ ขายคอนโดและยอมเสียตัวให้เจ้ามือเพื่อผ่อนหนี้ก็มี นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น การพนันบอลเป็นวงจรอุบาทว์ไม่แพ้ยาเสพติด ที่จะทำลายเราทั้งชีวิต
“ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยเป็นเหยื่อพนันบอล เคยแทงมากที่สุดทีเดียว 5 หมื่นบาท และเป็นหนี้สูงสุด 2 แสนบาท แล้วผมก็เริ่มเดินโพยเอง ตอนนี้ผมเลิกเล่นแล้วแต่ก็ยังติดหนี้อยู่ 5 หมื่นบาท แต่ผมก็คงไม่จ่ายหนี้แล้ว ซึ่งไม่ทำให้เจ้ามือขาดทุน ยูโรนี้ดูบอลเฉยๆ ก็สนุกแล้วครับ คงไม่ต้องเล่นพนันด้วยเงินมากๆ หรอก มีแต่เสียกับเสีย อย่าเล่นเพื่อหวังว่าจะเอาเงินไปเลี้ยงแฟน ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ หรือทำอะไรฟุ่มเฟือยเลย เพราะไม่มีใครรวยเพราะมันครับ” นายวันเฉลิม ทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ปกครองที่สงสัยพฤติกรรมของลูกหลานในช่วงเทศกาลฟุตบอล สสส.มี 10 สัญญาณอันตรายที่ชี้ว่าเด็กอาจมีแนวโน้มติดพนันฟุตบอล ได้แก่ 1.อดหลับ อดนอน ไม่พลาดแม้แต่คู่เดียว แม้จะดึกแค่ไหน 2.เชียร์ทุกคู่แม้ไม่รู้จัก 3.มีอาการลับๆ ล่อๆ เวลาคุยโทรศัพท์ ใช้ภาษาแปลกๆ เช่น ลูกครึ่ง ครึ่งควบลูก 4.พกหนังสือพิมพ์กีฬา คัมภีร์แทงบอลติดตัว 5.ไม่ใช้เงินตามปกติ ไม่กิน เก็บเงินแทงบอล 6.เงินเริ่มขาดมือ ขอยืมทุกคน ทั้งเพื่อนสนิท ไม่สนิท ญาติ พี่ น้อง 7.ของที่เคยมี มือถือ นาฬิกา กล้องถ่ายรูป หายไป และอาจนำของในบ้านไปขายหรือจำนำ 8.ซึม เศร้า เครียด เวลาทีมที่เชียร์แพ้แม้จะไม่ใช่ทีมที่ชอบ 9.รวยผิดปกติ ใช้เงินมากกว่าที่เคยมี เช่น เปลี่ยนมือถือใหม่ เลี้ยงเพื่อนฝูง กินเที่ยวไม่ยั้ง 10.ถูกข่มขู่ โดนตามทวงหนี้ มีคนแปลกหน้ามาตามหา
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดแถลงข่าว “พนันบอล พนันชีวิต” โดยโครงการเฝ้าระวังเด็ก Child Watch ซึ่งกว่า 3 ปีที่ผ่านมาหัวข้อเรื่องการพนันฟุตบอลเป็นปัญหาที่น่าจับตามากที่สุดปัญหาหนึ่งนั้น ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลการเล่นพนันฟุตบอลของเด็กและเยาวชนไทยทั่วประเทศ ในปี 2550 พบว่าทุกระดับเล่นพนันฟุตบอลเพิ่มขึ้น ประถมศึกษา 6.03% มัธยมต้น 13.30% มัธยมปลาย 15.88% อาชีวศึกษา 18.21% มีเพียงระดับอุดมศึกษาเท่านั้นที่มีจำนวนลดลงจาก 17.10% เป็น 16.45% ซึ่งโดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา มีเด็กไทยเล่นพนันฟุตบอล 13.84% แยกเป็นชาย 21.78% และหญิง 5.82% รวมแล้วเฉพาะในเยาวชนที่เล่นการพนันฟุตบอลเป็น 1 ล้านคนจากจำนวนเยาวชนทั้งหมด และเชื่อว่าในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร 2008 นี้ จะมีนักพนันหน้าใหม่เกิดขึ้นโดยอาจจะเพิ่มเป็น 2 เท่า
“สถิติจากผลสำรวจพบว่าพื้นที่ที่มีเยาวชนเล่นพนันบอลมากที่สุดคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 16.74 ภาคเหนือตอนล่าง ร้อยละ 15.40 กทม.และปริมณฑล ร้อยละ 15.07 ภาคกลาง ร้อยละ 14.05 ภาคตะวันออก ร้อยละ 12.09 งานวิจัยของนิสิตจุฬา ตามลำดับ การแทงในแต่ละครั้งจะมีตั้งแต่ 500-1,000 บาท ซึ่งเงินสะพัดแต่ละครั้งกว่าหมื่นล้านบาท”
ดร.อมรวิชช์ กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้เด็กเล่นพนันบอล คือ 1.ตามเพื่อนหรือคนรู้จัก 2.อยากได้เงิน 3.อยากลอง 4.สภาพแวดล้อม ที่มีพ่อแม่หรือคนรู้จักเล่นการพนันให้เห็น ซึ่งสถิติที่พบและช่องทางการเล่นที่มากขึ้น เชื่อว่าปีนี้จะมีเด็กที่เล่นพนันบอลจะมีเพิ่มขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงได้ง่าย ได้เงินง่าย อีกทั้งการแทงที่โต๊ะบอลให้เครดิตไม่ต้องจ่ายสด การแทงผ่านโทรศัพท์ และเว็บไซต์เครือข่ายจากต่างประเทศที่กำลังระบาดในขณะนี้ด้วย
“ต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง ครู โรงเรียน ที่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็ก อีกทั้งต้องมีทางเลือกให้เขามากเพียงพอ เพราะอย่างที่บอกว่าเด็กไม่มีทางเลือกมากนัก ดังนั้น การหากิจกรรมสร้างสรรค์ให้เขาก็จะเป็นการหาทางออกได้ อีกประการหนึ่งต้องฝากผู้ว่าราชการจังหวัดให้กวดขัน กระทรวงมหาดไทย และไอซีทีที่ต้องเข้ามาจัดการเว็บไซต์พนัน เพราะการกวดล้างเฉพาะหน้าของตำรวจไม่พอ” ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าว
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ รองผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า ข้อมูลจากเครือข่ายเยาวชนระบุว่ามีเด็กที่เล่นพนันฟุตบอลอายุน้อยที่สุดเพียง 7 ขวบเท่านั้น โดยเงินแทงขั้นต่ำอยู่ที่ 50 บาท สำหรับเยาวชนอายุ 18-24 ปีจะเริ่มจาก 50-100,000 บาท โดยช่องทางที่เด็กใช้พนันบอลมากที่สุด ผ่านคนเดินโพย โทรศัพท์ โต๊ะบอล สถานบริการอื่น เช่น โต๊ะสนุ๊ก ร้านอาหาร ผับ บาร์ หอพัก เป็นต้น
“แต่ละคืนกว่าจะแข่งเสร็จก็เกือบตี 4 เด็กต้องไปเรียนหนังสือ ที่สำคัญขอให้สื่อมวลชน รายงานผลกีฬาอย่างคำนึงถึงผลกระทบที่ตามา ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิตของเด็ก” ทพ.กฤษดา กล่าว
ด้าน นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ประสานงานศูนย์กิจกรรมเยาวชนเพื่อชุมชนและสังคม และอดีตเซียนพนันฟุตบอล กล่าวว่า จากการสอบถามเจ้ามือโต๊ะบอลรายใหญ่ คาดว่ามีโต๊ะบอลทั่วประเทศ 6,000 โต๊ะ โต๊ะใหญ่ที่รับพนันตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท มีประมาณ 700-1,000โต๊ะ ขนาดกลางและเล็ก 5,000 โต๊ะ ซึ่งการพนันบอลมีมากที่สุดในช่วง พรีเมียร์ลีก แต่จริงๆ แล้วก็มีการแทงฟุตบอลกันทุกวัน คนเดินโพยที่เข้าถึงเด็กมากที่สุด ก็คือเพื่อนนักเรียนด้วยกันเอง
นายวันเฉลิม กล่าวอีกว่า เด็กที่เล่นเสียแล้วไม่มีเงินจ่าย ถ้าเป็นเงินน้อยๆ โชคดีอาจแค่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าเงินเป็นหลักหมื่นขึ้นไป บางคนต้องเสียอนาคต ตนเคยมีเพื่อนที่เป็นหนี้พนันฟุตบอลหลักแสน ขณะนี้ต้องออกจากมหาวิทยาลัย ไม่กล้าไปเรียน กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวก็ไม่ได้ บางรายถูกเล่นงานถึงตาย นักศึกษาหญิงบางคนติดหนี้จนต้องขายรถ ขายคอนโดและยอมเสียตัวให้เจ้ามือเพื่อผ่อนหนี้ก็มี นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น การพนันบอลเป็นวงจรอุบาทว์ไม่แพ้ยาเสพติด ที่จะทำลายเราทั้งชีวิต
“ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยเป็นเหยื่อพนันบอล เคยแทงมากที่สุดทีเดียว 5 หมื่นบาท และเป็นหนี้สูงสุด 2 แสนบาท แล้วผมก็เริ่มเดินโพยเอง ตอนนี้ผมเลิกเล่นแล้วแต่ก็ยังติดหนี้อยู่ 5 หมื่นบาท แต่ผมก็คงไม่จ่ายหนี้แล้ว ซึ่งไม่ทำให้เจ้ามือขาดทุน ยูโรนี้ดูบอลเฉยๆ ก็สนุกแล้วครับ คงไม่ต้องเล่นพนันด้วยเงินมากๆ หรอก มีแต่เสียกับเสีย อย่าเล่นเพื่อหวังว่าจะเอาเงินไปเลี้ยงแฟน ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ หรือทำอะไรฟุ่มเฟือยเลย เพราะไม่มีใครรวยเพราะมันครับ” นายวันเฉลิม ทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ปกครองที่สงสัยพฤติกรรมของลูกหลานในช่วงเทศกาลฟุตบอล สสส.มี 10 สัญญาณอันตรายที่ชี้ว่าเด็กอาจมีแนวโน้มติดพนันฟุตบอล ได้แก่ 1.อดหลับ อดนอน ไม่พลาดแม้แต่คู่เดียว แม้จะดึกแค่ไหน 2.เชียร์ทุกคู่แม้ไม่รู้จัก 3.มีอาการลับๆ ล่อๆ เวลาคุยโทรศัพท์ ใช้ภาษาแปลกๆ เช่น ลูกครึ่ง ครึ่งควบลูก 4.พกหนังสือพิมพ์กีฬา คัมภีร์แทงบอลติดตัว 5.ไม่ใช้เงินตามปกติ ไม่กิน เก็บเงินแทงบอล 6.เงินเริ่มขาดมือ ขอยืมทุกคน ทั้งเพื่อนสนิท ไม่สนิท ญาติ พี่ น้อง 7.ของที่เคยมี มือถือ นาฬิกา กล้องถ่ายรูป หายไป และอาจนำของในบ้านไปขายหรือจำนำ 8.ซึม เศร้า เครียด เวลาทีมที่เชียร์แพ้แม้จะไม่ใช่ทีมที่ชอบ 9.รวยผิดปกติ ใช้เงินมากกว่าที่เคยมี เช่น เปลี่ยนมือถือใหม่ เลี้ยงเพื่อนฝูง กินเที่ยวไม่ยั้ง 10.ถูกข่มขู่ โดนตามทวงหนี้ มีคนแปลกหน้ามาตามหา