กทม.จัดพิมพ์หนังสือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา...น้ำพระราชหฤทัย...น้ำใส...ให้ชีวิต” รวบรวมความเป็นมา เผยแพร่พระปรีชาสามารถของในหลวง มอบให้สถานศึกษา-สถานที่ราชการต่างๆ พร้อมฟุ้งปีเศษคน กทม.ชอบสวนแนวตั้งตามป้ายรถเมล์ ยันทำโครงการต่อแน่นอน
วันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ โดยมีพลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนาใน “โครงการจัดสร้างกังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระชนมพรรษา 80 พรรษา” ที่กรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้น โดยการเปิดประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนาในครั้งนี้เป็นเครื่องที่ 2 หลังจากได้ทำพิธีเปิดครั้งแรกที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กทม.ได้น้อมนำกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการฟื้นฟูสภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม โดยได้ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา และกรมชลประธานจัดโครงการดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ กทม.ได้จัดพิมพ์หนังสือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา... น้ำพระราชหฤทัย... น้ำใส... ให้ชีวิต” ขนาด 9x9 นิ้ว จำนวน 10,080 เล่ม เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสเปิดประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนา โดยภายในเล่มมีเนื้อหาประมวลความเป็นมาและการพัฒนากังหันน้ำชัยพัฒนา พระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และการประดิษฐ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนโครงการบำบัดน้ำเสียในโครงการต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งบทให้สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” อาทิเช่น พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรีและประธานมูลนิธิสวนหลวง ร.9 นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายธีระ วงศ์สมุทร อธิบดีกรมชลประทาน เป็นต้น โดยจะส่งให้สถานที่ราชการและสถานศึกษาต่างๆ เพื่อเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์สืบไป
สำหรับโครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา 80 พรรษา ประกอบด้วย การสร้างประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนา ด้วยวัสดุกัดกรด ขนาดเท่าของจริง ติดตั้งบนฐานทำด้วยวัสดุแกรนิต และมีข้อความจารึกบอกถึงประวัติความเป็นมา 4 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษ จีนกลาง และฝรั่งเศส นอกจากนี้ กทม.ยังดำเนินการติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนาจำนวน 80 เครื่อง บริเวณสระน้ำภายในสวนสาธารณะของกรุงเทพฯ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้
ด้าน นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวชี้แจงกรณีสวนแนวตั้งของกทม.หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการทำสวนแนวตั้งตามป้ายรถเมล์และเสาตอม่อรถไฟฟ้าเป็นนโยบายที่ไม่ยั่งยืน และสิ้นเปลืองงบประมาณว่า โครงการดังกล่าว นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการ กทม.ต้องการให้ชาว กทม.เห็นว่า แม้จะมีพื้นที่เพียงน้อยนิด ก็สามารถปลูกพืชให้ความร่มรื่นสวยงามได้ ซึ่งหลังจากทำโครงการดังกล่าวมาได้ปีกว่าก็มีเสียงตอบรับและคำชื่นชมจากประชาชนว่าทำได้ดี ส่วนที่วิจารณ์ว่าสิ้นเปลืองงบนั้น กทม.สามารถเพาะขยายพันธุ์ต้นไม้ได้เอง ไม่ต้องใช้งบประมาณ หากต้นไม้เหี่ยวเฉาก็สามารถนำมาเปลี่ยนได้ ดังนั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละคน เปรียบเสมือนกับคนที่ชอบกินผักก็ออกมาวิจารณ์เป็นธรรมดา
นายถนอม กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวมีผลดีมากกว่าผลเสียแน่นอน เพราะนอกจากจะสร่างความร่มรื่นให้แก่เมืองแล้วยังเป็นต้นแบบให้ประชาชนสามารถนำไปปรับใช้กับการปลูกต้นไม้ที่บ้าน หรือที่ทำงาน ทั้งนี้ สวนแนวตั้งที่ประชาชนชื่นชมมากที่สุด คือ ถนนสุขุมวิท-สีลม อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาดูงานต่างประเทศ พบว่า เมืองใหญ่หลายเมืองก็นิยมเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้ตามเสาตอหม้อ หรือเสาไฟฟ้าในลักษณะเดียวกับ กทม. ดังนั้น กทม.จะไม่ยกเลิกโครงการดังกล่าว แต่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
วันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ โดยมีพลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนาใน “โครงการจัดสร้างกังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระชนมพรรษา 80 พรรษา” ที่กรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้น โดยการเปิดประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนาในครั้งนี้เป็นเครื่องที่ 2 หลังจากได้ทำพิธีเปิดครั้งแรกที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กทม.ได้น้อมนำกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการฟื้นฟูสภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม โดยได้ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา และกรมชลประธานจัดโครงการดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ กทม.ได้จัดพิมพ์หนังสือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา... น้ำพระราชหฤทัย... น้ำใส... ให้ชีวิต” ขนาด 9x9 นิ้ว จำนวน 10,080 เล่ม เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสเปิดประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนา โดยภายในเล่มมีเนื้อหาประมวลความเป็นมาและการพัฒนากังหันน้ำชัยพัฒนา พระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และการประดิษฐ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนโครงการบำบัดน้ำเสียในโครงการต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งบทให้สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” อาทิเช่น พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรีและประธานมูลนิธิสวนหลวง ร.9 นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายธีระ วงศ์สมุทร อธิบดีกรมชลประทาน เป็นต้น โดยจะส่งให้สถานที่ราชการและสถานศึกษาต่างๆ เพื่อเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์สืบไป
สำหรับโครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา 80 พรรษา ประกอบด้วย การสร้างประติมากรรมกังหันน้ำชัยพัฒนา ด้วยวัสดุกัดกรด ขนาดเท่าของจริง ติดตั้งบนฐานทำด้วยวัสดุแกรนิต และมีข้อความจารึกบอกถึงประวัติความเป็นมา 4 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษ จีนกลาง และฝรั่งเศส นอกจากนี้ กทม.ยังดำเนินการติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนาจำนวน 80 เครื่อง บริเวณสระน้ำภายในสวนสาธารณะของกรุงเทพฯ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้
ด้าน นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวชี้แจงกรณีสวนแนวตั้งของกทม.หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการทำสวนแนวตั้งตามป้ายรถเมล์และเสาตอม่อรถไฟฟ้าเป็นนโยบายที่ไม่ยั่งยืน และสิ้นเปลืองงบประมาณว่า โครงการดังกล่าว นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการ กทม.ต้องการให้ชาว กทม.เห็นว่า แม้จะมีพื้นที่เพียงน้อยนิด ก็สามารถปลูกพืชให้ความร่มรื่นสวยงามได้ ซึ่งหลังจากทำโครงการดังกล่าวมาได้ปีกว่าก็มีเสียงตอบรับและคำชื่นชมจากประชาชนว่าทำได้ดี ส่วนที่วิจารณ์ว่าสิ้นเปลืองงบนั้น กทม.สามารถเพาะขยายพันธุ์ต้นไม้ได้เอง ไม่ต้องใช้งบประมาณ หากต้นไม้เหี่ยวเฉาก็สามารถนำมาเปลี่ยนได้ ดังนั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละคน เปรียบเสมือนกับคนที่ชอบกินผักก็ออกมาวิจารณ์เป็นธรรมดา
นายถนอม กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวมีผลดีมากกว่าผลเสียแน่นอน เพราะนอกจากจะสร่างความร่มรื่นให้แก่เมืองแล้วยังเป็นต้นแบบให้ประชาชนสามารถนำไปปรับใช้กับการปลูกต้นไม้ที่บ้าน หรือที่ทำงาน ทั้งนี้ สวนแนวตั้งที่ประชาชนชื่นชมมากที่สุด คือ ถนนสุขุมวิท-สีลม อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาดูงานต่างประเทศ พบว่า เมืองใหญ่หลายเมืองก็นิยมเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้ตามเสาตอหม้อ หรือเสาไฟฟ้าในลักษณะเดียวกับ กทม. ดังนั้น กทม.จะไม่ยกเลิกโครงการดังกล่าว แต่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
