“สุเมธ” เผยเสนอให้ ครม.ตัดสินงบประมาณที่รัฐต้องจัดสรรให้ ม.ในกำกับ 7 แห่ง ระบุตัวเลขที่เหมาะสม 1.6% ขณะที่สำนักงบฯ ให้แค่ 1.4%
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้างบประมาณที่รัฐต้องสนับสนุนเพิ่มเติมให้ ม.ในกำกับทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ผลการหารือร่วมกับตัวแทน ม.ในกำกับ และได้มีการสรุปตัวเลขที่เหมาะสมว่าควรจะอยู่ที่ 1.6% ไม่ใช่ 1.4% ตามที่สำนักงบประมาณเสนอมา ตนได้เสนอเรื่องนี้ให้กับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนต รีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับทราบและกำลังจะนำเข้าสู่การพิจารณาขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
สำหรับเรื่องนี้ หากเข้า ครม.คงจะมีการต่อรองกันอีกครั้งว่าควรจะอยู่ที่เท่าไร ซึ่งตัวเลขที่นำเสนอไปนั้น มีเหตุผลและงบประมาณที่ขอไปเพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการบุคลากร หลังจากออกนอกระบบไปแล้วมหาวิทยาลัยต้องเน้นคุณภาพ และงานวิจัย ทำให้บุคลากรต้องทำงานหนักมากขึ้น เมื่อทำงานหนักก็ควรได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมด้วย
“ทางสำนักงบฯมีจุดยืนอยู่ที่ 1.4% ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะมาทะเลาะหรือเถียงกัน จึงให้ ครม.ตัดสินเลยดีกว่า เพราะมติ ครม.เดิมสมัยที่ให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี( มจธ.) คือ 1.6% ผมก็เห็นว่าน่าจะยึดตามนั้นเช่นกัน” ดร.สุเมธ กล่าวด้วยว่า จะพยายามนำเรื่องนี้เข้า ครม.ให้ทันปีงบประมาณ 2551
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้างบประมาณที่รัฐต้องสนับสนุนเพิ่มเติมให้ ม.ในกำกับทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ผลการหารือร่วมกับตัวแทน ม.ในกำกับ และได้มีการสรุปตัวเลขที่เหมาะสมว่าควรจะอยู่ที่ 1.6% ไม่ใช่ 1.4% ตามที่สำนักงบประมาณเสนอมา ตนได้เสนอเรื่องนี้ให้กับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนต รีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับทราบและกำลังจะนำเข้าสู่การพิจารณาขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
สำหรับเรื่องนี้ หากเข้า ครม.คงจะมีการต่อรองกันอีกครั้งว่าควรจะอยู่ที่เท่าไร ซึ่งตัวเลขที่นำเสนอไปนั้น มีเหตุผลและงบประมาณที่ขอไปเพื่อนำไปใช้ในการบริหารจัดการบุคลากร หลังจากออกนอกระบบไปแล้วมหาวิทยาลัยต้องเน้นคุณภาพ และงานวิจัย ทำให้บุคลากรต้องทำงานหนักมากขึ้น เมื่อทำงานหนักก็ควรได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมด้วย
“ทางสำนักงบฯมีจุดยืนอยู่ที่ 1.4% ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะมาทะเลาะหรือเถียงกัน จึงให้ ครม.ตัดสินเลยดีกว่า เพราะมติ ครม.เดิมสมัยที่ให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี( มจธ.) คือ 1.6% ผมก็เห็นว่าน่าจะยึดตามนั้นเช่นกัน” ดร.สุเมธ กล่าวด้วยว่า จะพยายามนำเรื่องนี้เข้า ครม.ให้ทันปีงบประมาณ 2551
