xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการชี้ทางรอดบัตรทอง โยกลูก-เมียใช้สิทธิประกันสังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิชาการทีดีอาร์ไอ เสนอขึ้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงน้ำมันขาลง หรือโยกคู่สมรส บุตรแรงงานไปอยู่ประกันสังคม ช่วยให้โครงการบัตรทองอยู่รอด

วานนี้ (3 มิ.ย.) สำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) เพื่อสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ในการประชุมโครงการศึกษาภาพอนาคตและเส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ยั่งยืนของประเทศไทย นางวรวรรณ ชาญด้วยวิทย์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสประจำมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ได้ทำการศึกษาการหาแหล่งเงินเพิ่มเติมสำหรับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าล่าสุด เนื่องจากโครงการดังกล่าวประสบปัญหางบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวที่รัฐบาลจัดสรรให้ไม่เพียงพอมาโดยตลอด ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพการบริการให้กับประชาชน ดังนั้น เพื่อหาทางออกให้กับรัฐบาลจึงได้ทำการศึกษาการหาแหล่งเงินเพิ่มเติมพบว่า แนวทางที่จะหางบประมาณเพิ่มเติมทำได้อย่างน้อย 2 วิธีคือ 1 การหารายได้ให้เพิ่มขึ้น อาทิ การจัดเก็บภาษีให้เพิ่มขึ้น 2 การลดค่าใช้จ่ายเงินงบประมาณ

“หากรัฐบาลต้องการแนวทางในการหารายได้เพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนด้านการเงินให้โครงการนี้ แนวทางที่เป็นไปได้ทางหนึ่ง คือ การขึ้นอัตราภาษีของสินค้าความบันเทิง น้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้า การรักษาพยาบาล และเครื่องนุ่งห่ม วิธีที่ดีที่สุด คือ การเพิ่มภาษีสรรพสามิตที่เก็บจากการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง หากขึ้นเพียง 30% จะมีปัญหา ขณะที่แพทย์ส่วนใหญ่สนับสนุนให้ขึ้นภาษีบุหรี่เหล้ามากกว่าเพราะเป็นภาษีบาป แต่ทางด้านเศรษฐศาสตร์ถือว่า การบริโภคเหล้าบุหรี่เป็นฐานแคบ ต้องขึ้นภาษีอีก 40-70% ถึงจะเพียงพอมากพอในช่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า”นางวรวรรณ กล่าว

นางวรวรรณ กล่าวว่า ถ้าเป็นภาษีจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีฐานบริโภคที่ใหญ่มาก หากในช่วงที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงก็ให้รัฐบาลคงราคาน้ำมันไว้ อีกเพียง 50-60 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้นเหมือนกับการจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะนี้ที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งจะได้งบประมาณประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพียงเท่านี้รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากเดิมแต่อย่างใด

“ขณะนี้ภาวะราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น อาจทำให้เกิดความขัดแย้งต่อความรู้สึกต่อการขึ้นราคาภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งหากในอนาคตราคาน้ำมันเชื้อเพลิงกลับสู่ภาวะปกติ ภาวะแวดล้อมต่างๆไม่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอีกก็สามารถนำแนวคิดดังกล่าวมาดำเนินการได้ เพราะเป็นข้อมูลทางวิชาการ” นางวรวรรณ กล่าว

นางวรวรรณ กล่าวว่า ในส่วนของการลดค่าใช้จ่ายงบประมาณนั้น โดยโยกย้ายผู้มีสิทธิรับบริการในโครงการนี้ ไปยังสวัสดิการประกันสังคม เช่นให้คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตนเข้าสู่ประกันสังคม โดยไม่มีการเก็บเงินเพิ่มเติม จากข้อมูลการสำรวจความต้องการเข้าร่วมในระบบประกันสังคมในปี 2546 พบว่า 20.96% มีคู่สมรสที่ได้รับสิทธิบัตรทอง และ 42.71% ของผู้ประกันตนมีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ใช้สิทธิบัตรทองด้วย

“นอกจากนี้ ยังต้องรวมถึงผู้ประกันตนที่เกษียณอายุและคู่สมรสที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ควรโยกให้กลุ่มทั้งหมดนี้อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งจะช่วยลดจำนวนคนในโครงการได้ถึง 6.7-7.2 ล้านคน ที่อยู่ในโครงการช่วงปี 2548-2552”นางวรวรรณ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น