xs
xsm
sm
md
lg

เตือนอันตรายผงชูรส กินมากอาจป่วยเป็นโรคภัตตาคารจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เตือนอันตรายผงชูรส ชี้กินมากอาจป่วยเป็นโรคภัตตาคารจีน ย้ำผงชูรสไม่ใช่สิ่งจำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ แถมยังมีอันตรายต่อสุขภาพหากกินผงชูรสปลอม

นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงอันตรายจากการกินผงชูรสในปริมาณที่มากเกินไปว่า ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังนิยมใส่ผงชูรสในอาหารจำนวนมากขึ้น โดยเชื่อว่าผงชูรสจะช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อย ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ผงชูรสจะละลายไขมันให้ผสมกลมกลืนกับน้ำ ทำให้มีรสเหมือนน้ำต้มเนื้อ และกระตุ้นปุ่มปลายประสาทของลิ้นกับคอทำให้อาหารมีรสหวานอร่อย แต่ถ้าหากกินมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการแพ้ผงชูรสที่เรียกว่า ไชนีสเรสเตอรองต์ซินโดรม หรือรู้จักกันในชื่อของโรคภัตตาคารจีน ทำให้รู้สึกชาที่ปาก ลิ้น ปวดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม ต้นคอ หน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก ปวดท้องคลื่นไส้ อาเจียน กระหายน้ำ นอกจากนี้ บริเวณผิวหนังบางส่วนอาจมีผื่นแดงเนื่องจากเส้นเลือดรอบนอกบางส่วนขยายตัว

และในผู้ที่แพ้ผงชูรสมากๆ จะเกิดอาการชาบริเวณใบหน้า หู วิงเวียน หัวใจเต้นเร็ว จนอาจเป็นอัมพาตตามแขนขาชนิดชั่วคราวได้ แต่อาการเหล่านี้จะหายเองภายในเวลา2 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ อีก โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ไม่ควรกินผงชูรสเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลต่อมารกในครรภ์ได้ สำหรับทารกแรกเกิดถึง 3 เดือนนั้น หากได้กินผงชูรสเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสมองในเด็กวัยนี้อีกด้วย

นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากความนิยมกินผงชูรสกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ ทำให้ผู้ผลิตบางรายใช้สารปลอมปนในผงชูรสเพื่อลดต้นทุนการผลิต และสารที่ใช้มีทั้งที่เป็นวัตถุไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค ได้แก่ เกลือ น้ำตาล แป้ง ส่วนวัตถุที่เป็นอันตราย เช่น บอแรกซ์ ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในอาหาร เพราะหากร่างกายได้รับในปริมาณสูงอาจทำให้เสียชีวิตได้ หรือถ้าได้รับในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้งจะสะสมในร่างกาย ก่อให้เกิดอาการพิษแบบเรื้อรัง ทำให้เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย สับสน ระบบย่อยอาหารถูกรบกวน ผิวหนังอักเสบ

นอกจากนี้ยังมีสารอีกชนิดที่นิยมใส่ปะปนในผงชูรสคือ โซเดียมเมตาฟอสเฟต ซึ่งปกติจะใช้เป็นน้ำยาล้างหม้อน้ำรถยนต์ เมื่อคนเรารับประทานเข้าไปจะออกฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง

ดังนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าผงชูรสที่ใช้นั้นปลอดภัยจากสารปลอมปนหรือไม่ สามารถตรวจสอบด้วยวิธีการง่ายๆ คือ ให้นำผงชูรสที่สงสัยประมาณครึ่งช้อนชาใส่ลงในช้อนโลหะ เผาจนไหม้ หากเป็นผงชูรสแท้สารนั้นจะไหม้ไฟเป็นถ่านสีดำที่ช้อน แต่ถ้าเป็นผงชูรสที่มีส่วนผสมของบอแรกซ์ หรือโซเดียมเมตาฟอตเฟตผสมอยู่ จะพบว่ามีทั้งส่วนที่ไหม้เป็นสีดำและส่วนที่เหลือค้างเป็นสีขาวที่ช้อน

“การกินผงชูรสมากเกินไปนอกจากจะเสี่ยงต่ออาการแพ้ผงชูรสแล้ว ยังเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากผงชูรสปลอม ดังนั้น แม่บ้านที่มีฝีมือในการปรุงอาหารหรือใช้น้ำเคี่ยวกระดูกสัตว์อยู่แล้ว ผงชูรสก็ไม่จำเป็นต้องใช้ในการปรุงประกอบอาหาร แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ผงชูรสจริงๆ ผู้บริโภคควรเพิ่มความพิถีพิถันในการเลือกซื้อโดยการสังเกตหีบห่อหรือกระป๋องบรรจุ ขอบผนึกต้องไม่มีรอยตำหนิ ฉลากพิมพ์เป็นตัวหนังสือภาษาไทยชัดเจน ไม่เลอะเลือน และต้องระบุชื่ออาหารแสดงคำว่า “ผงชูรส” ตลอดจนมีเลขทะเบียนตำรับอาหาร (อย.) ระบุชื่อ ที่ตั้งของผู้ผลิต เดือนปีที่ผลิต รวมทั้งน้ำหนักสุทธิอย่างชัดเจน” นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น