ปลัด สธ.นำทีมผู้บริหารชุดแรก 5 คน ไปพม่า หารือ เตรียมความพร้อมให้หน่วยแพทย์พระราชทานฯ ลงพื้นที่พรุ่งนี้ คาดมีแนวโน้มลงพื้นที่ส่วนกลางช่วงปากแม่น้ำอิรวดีเพราะได้รับผลกระทบมาก มั่นใจแพทย์ทุกคนมีความพร้อม เตรียมสนับสนุนกำลังคน เวชภัณฑ์ เต็มที่ถ้าขาดแคลน ขณะที่ทีมหมอเผยยังไม่รู้สถานการณ์จนกว่าจะลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์จริง จิตแพทย์ชี้ต้องเยียวยาจิตใจเป็นลำดับแรก
เมื่อเวลา 07.50 น.วันนี้ (16 พ.ค.) นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง รวม 5 คน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสู่กรุงย่างกุ้ง เพื่อหารือกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขพม่า พร้อมสำรวจพื้นที่ประสบภัยที่หน่วยแพทย์พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 32 ราย จะเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในวันที่ 17 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ ทีมผู้บริหาร สธ.ชุดนี้จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. วันเดียวกัน เพื่อนำข้อมูลที่ได้ตกลงกันทั้งหมดมาประเมิน และเตรียมการช่วยเหลือต่อไป
นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้วางแนวทางการช่วยเหลือไว้ 3 ส่วน คือ การรักษาพยาบาล, การควบคุมโรคระบาด และการเยียวยาสุขภาพจิต ส่วนรายละเอียดจะต้องหารือกันกับพม่าอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากยังไม่ทราบเป้าหมายแน่ชัดว่า ทีมแพทย์จะต้องลงพื้นที่จุดใด แต่มีความเป็นไปได้ว่า จะเข้าไปถึงพื้นที่ส่วนกลางช่วงปากแม่น้ำอิระวดี ซึ่งเป็นจุดที่ประสบภัยอย่างหนัก และอาจจะได้เข้าเจรจาและวางแผนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลพม่า เพื่อพิจารณาว่าพม่าต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อย่างไร หรือจำเป็นต้องมีโรงพยาบาลชั่วคราวหรือไม่นั้น คงจะต้องมีการประเมินสถานการณ์ที่เป็นจริงในพื้นที่ก่อน
“มั่นใจว่าทีมแพทย์ทุกคนมีประสบการณ์การทำงานมาก เชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างเต็มที่ และการเดินทางไปพม่าในวันนี้ สธ.ได้จัดเตรียมอาหารแห้ง และยารักษาโรคไปด้วยจำนวนหนึ่ง และจะส่งไปเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ ทั้งวัคซีนชนิดต่างๆ ยา, รองเท้าบูต, มุ้ง และคลอรีน” นพ.ปราชญ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยแพทย์พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมเครื่องเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ จะเดินทางออกจากสนามบิน บน.6 ท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 08.00 น. และจะอยู่ให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวพม่า ถึงวันที่ 31 พ.ค.
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข หนึ่งในคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เดินทางไปประสานความช่วยเหลือที่ประเทศพม่า กล่าวว่า ลำดับแรก คงจะต้องเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาทางด้านจิตใจของประชาชนชาวพม่าที่ได้รับผลกระทบจากการถูกพายุถล่มก่อน โดยจะได้อบรมประชุมและรับรู้ถึงปัญหาและความต้องการของผู้ประสบภัย ซึ่งจะได้แนะนำว่าควรจะต้องทำอย่างไรต่อไป รวมถึงจะมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายพม่าด้วย
“สำหรับแผนงานใน 2 สัปดาห์แรก ของทีมแพทย์จากกรมสุขภาพจิต จะเน้นการถ่ายทอดเทคนิค และประสบการณ์ให้กับบุคคลที่ใกล้ชิด กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีโดนพายุถล่มมากที่สุด เพื่อที่จะได้นำไปเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของเหยื่อให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว” นพ.วชิระ กล่าว
ขณะที่ รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า คณะแพทย์ของ รพ.จุฬาฯ มีความพร้อม ที่จะลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวพม่าเต็มที่ เพราะทีมมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการให้ความช่วยเหลือนานาประเทศตลอดเวลา ในฐานะสภากาชาด โดยแพทย์ที่เข้าไปในรอบแรก จะประเมินสถานการณ์กลับมาเป็นระยะ เพื่อวางแผนการให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไป ขณะนี้ยังประเมินอะไรได้ไม่มาก เพราะยังไม่เห็นและทราบสถานการณ์จริง ส่วนทางด้านเวชภัณฑ์นั้น มีการเตรียมอุปกรณ์ทั้งยา ทั้งเครื่องมือสำหรับการผ่าตัดไว้ แต่จะเพียงพอหรือไม่ คงต้องรอทีมแรกที่เดินทางลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์กลับมาอีกครั้ง
“ตอนนี้เราไม่สามารถประเมินอะไรได้เลย คงต้องรอทีมแพทย์ชุดแรกลงพื้นที่ก่อน หลังจากนั้นหากมีความต้องการแพทย์ เวชภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ หรือยาเพิ่มเติม ก็จะมีการจัดส่งไปสนับสนุน ส่วนสถานการณ์การระบาดของโรคในพม่านั้น ทีมแพทย์จะรับมือได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค แต่เชื่อว่าทีมแพทย์ทุกคนมีความพร้อม” รศ.นพ.อดิศรกล่าว
