xs
xsm
sm
md
lg

กทม.แจกสมอลทอล์ก 3 พันชุดแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กทม.ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ร่วมรณรงค์ลดโทรไม่ถือแจกสมอลทอล์ก 3,000 ชุด แก่ผู้ขับขี่รถแท้กซี่ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง ขณะที่ 20 พ.ค.นี้ ตำรวจจับปรับจริงแน่

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในพิธีเปิดการรณรงค์โครงการโทร.ไม่ถือ โดยมีนายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ในฐานะประธานโครงการโทร.ไม่ถือ และพล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบ.ชน) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายร่วมงาน

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า กทม.ร่วมมือกับมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุทั้งภาครัฐเอกชน เพื่อขับเคลื่อนรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทั้งนี้ จากสถิติข้อมูลในต่างประเทศ พบว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 2-4 เท่า เนื่องจากผู้ขับขี่เสียสมาธิเกิดจากความผิดพลาดในการมองเห็นป้ายสัญลักษณ์จราจร และไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ทำให้เบรกช้าลง 0.5 วินาที เทียบเท่ากับผู้ขับขี่ที่มีแอลกอฮอล์ในเลือก 80 มิลลิกรัม หรือเมาแล้วขับนั้นเอง
ดังนั้น หากผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎหมายหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หรือใช้อุปกรณ์เสริมแทน อย่าง สมอลทอล์ก บลูทูธ จะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน ตลอดจนความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้ที่ร่วมเดินทางด้วย โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถสาธารณะทั้งรถโดยสารประจำทาง รถตู้ รถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่จะต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งในวันนี้ได้มีการแจกสมอลล์ทอล์คจำนวน 3,000 ชุดซึ่งภาคเอกชนได้มอบให้ กทม.นำไปแจกกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ กทม.ด้วย

นายแพทย์แท้จริง กล่าวว่า หลังจากที่ พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับที่ 8 ว่าด้วยการห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยกเว้นใช้อุปกรณ์เสริม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.เป็นต้นมา พบว่า ยังมีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก ทางมูลนิธิอยากฝากไปถึงผู้ขับขี่รถทุกท่านโดยเฉพาะผู้ขับขี่รถสาธารณะทั้งรถโดยสารประจำทาง รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้ รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก เมื่อจะใช้โทรศัพท์ขอให้ใช้อุปกรณ์เสริมแทนเพราะวันที่ 20 พ.ค.นี้ตำรวจจะเริ่มกวดขันจับกุมอย่างจริงจังแล้วซึ่งจะไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนอย่างที่ผ่านมาโดยจะมีโทษปรับ 400-1,000 บาท และโดยเฉพาะผู้ขับขี่รถสาธารณะหากโดนจับจะต้องถูกปรับในอัตราสูงสุดคือ 1,000 บาท ทั้งนี้อยากเชิญชวนประชาชนเฝ้าระวัง ซึ่งหากประชาชนพบผู้ฝ่าฝืนใช้โทรศัพท์ขณะขับรถสามารถส่งภาพถ่าย หรือภาพคลิปวิดีโอมาที่ www.trafficepolice.go.th และ www.ddd.co.th (คลิปอันตราย) โดยทุกภาพ-คลิปที่ส่งมาทางมูลนิธิฯ จะมอบของที่ระลึกให้ด้วย

ด้าน พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า จากสถิติ 8 วันที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ฝ่าฝืนใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจำนวน 1,444 ราย 2 วันแรกจะมี 200 รายขึ้นไป แต่หลังจากนั้น จะมีกาตักเตือนวันละกว่า 100 ราย โดยส่วนใหญ่พบบริเวณแยกรถติดไฟแดงโดยเฉพาะช่วงเย็นและเมื่อถูกจับก็มักจะอ้างว่าง อุปกรณ์เสริมยังไม่มี โทรศัพท์รุ่นเก่า ใช้บลูธูทไม่ได้ รวมถึงอ้างยังไม่รู้พรบ.ดังกล่าวแต่ก็มีจำนวนน้อยลงแล้ว นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังขอให้ขยายเวลาการแจ้งเตือนออกไปอีกเพราะค่าปรับแพง ขณะเดียวกันผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายส่วนใหญ่จะเป็นผู้ขับขี่รถส่วนบุคคลมากกว่ารถสาธารณะ นอกจากนี้ในส่วนของกล้องดิจิตอลที่เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะนี้สถานีตำรวจ นครบาลโชคชัย 4 และดินแดง มีกล้องครบทุกนายแล้ว อย่างไรก็ตาม วันที่ 20 พ.ค.นี้ จะจับปรับจริงแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น