อภ. สุดทนถูกบ.ยาข้ามชาติแทรกแซงการทำงาน เผยผลิตยาชนิดใหม่สำเร็จเป็นรายแรกของไทย แต่ยื่นขอจดทะเบียนกับอย.ไม่ได้ แฉหน.โครงการวิจัยถูกล็อบบี้บีบให้ยื่นใบลาออก เสียเวลาฟอร์มทีมวิจัยใหม่ ใช้เวลาอีก 6 เดือน “หมอวิชัย” ชี้เตรียมขายยาราคาถูก ประหยัดงบปีละ 500 ล้านบาท
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม(อภ.) กล่าวว่า ขณะนี้อภ. ประสบปัญหาถูกแทรกแซงการทำงานจากหน่วยงานภายนอกอย่างมาก โดยเฉพาะการผลิตตัวยาชนิดใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งอภ. มีโครงการศึกษาและแผนการผลิตยาชนิดใหม่จำนวน 15 รายการ โดยโครงการที่ถูกแทรกแซงอย่างเห็นได้ชัดที่สุดคือ การผลิตยาชนิดหนึ่ง (ไม่สามารถบอกได้) ซึ่งปัจจุบันบริษัทยาในประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตได้เอง จะต้องนำเข้าจากตลาดประเทศ ซึ่งยาชนิดนี้มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี
นพ.วิชัยกล่าวต่อว่า อภ. ได้เล็งเห็นความสำคัญจึงได้ศึกษาและพัฒนาเทคนิคการผลิตยาชนิดดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายเดือน โดยล่าสุดอภ. ประสบความสำเร็จสามารถผลิตยาที่มีคุณภาพทัดเทียมยาจากต่างประเทศได้แล้ว แต่ไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนตำรับยาใหม่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้ เนื่องจากหัวหน้าโครงการวิจัยได้ลาออกไปในช่วงที่กำลังยื่นขอจดทะเบียน ซึ่งระเบียบการจดทะเบียนตำรับยาของอย. กำหนดให้ทีมวิจัยทั้งหมดต้องเป็นทีมเดียวกันตลอดทั้งโครงการ เพื่อความสมบูรณ์ของงานวิจัย อย่างไรก็ตาม ซึ่งหากอภ. ยื่นจดทะเบียนสำเร็จ จะสามารถผลิตยาดังกล่าวในราคาถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก โดยประหยัดงบประมาณไปได้อีก ปีละ 500 ล้านบาท
“อภ. ไม่สามารถเปลี่ยนหัวหน้าโครงการวิจัยได้ เพราะระเบียบไม่รองรับ ทำให้อภ. ต้องเสียเวลาฟอร์มทีมวิจัยใหม่ และหาหัวหน้าโครงการวิจัยใหม่ และเริ่มโครงการศึกษาใหม่ทั้งหมด ซึ่งทำให้เสียเวลาอีกอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะสามารถยื่นขอจดทะเบียนตำรับยาได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการยืดเวลาให้บริษัทยาข้ามชาติยังสามารถขายยาได้อีกอย่างน้อยก็ประมาณ 1,000 ล้านบาท การที่หัวหน้าโครงการวิจัยลาออกโดยไม่มีเหตุผลก็ชัดเจนว่าถูกบีบคั้นจากบริษัทยาข้ามชาติ เพราะหากอภ. ผลิตยาได้เองเมื่อไร เขาก็ไม่สามารถขายยาราคาแพงได้อีกต่อไป"นพ.วิชัยกล่าว