กระบี่ - ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 ร่วมกับป่าไม้จังหวัดกระบี่ บุกยึดไม้เถื่อนล็อตใหญ่ ยึดของกลางได้ 19 ท่อน ส่วนผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบหนีลอยนวล เบื้องต้นยังไม่ชี้ชัดเป็นของนายทุนหรือไม่
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.ปานเทพ ปาณะดิษ ผบ.ร้อย (สบ 2) ตชด.426 กระบี่ แถลงผลการออกกวาดล้างผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ สามารถตรวจยึดไม้เถื่อนของกลางเป็นไม้กระยาเลย แต่ละท่อน ยาวประมาณ 5-10 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30-70 เซนติเมตร จำนวน 19 ท่อน แต่ไม่พบผู้กระทำผิด เหตุเกิดบริเวณสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ 8 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการลักลอบตัดไม้ในเขตป่า และชักลากนำไปแปรรูปภายในสวนปาล์ม เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ หมู่ที่ 8 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.ชนวีร์ เกื้อพันธุ์ ผบ.มว.(สบ 1) ตชด.426 พร้อมพวกรวม 7 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กบ.2 (คลองท่อม) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม จำนวน 21 นาย เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบไม้กระยาเลย จำนวน 19 ท่อน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และยังตรวจพบว่า บริเวณกองไม้ มีขี้เลื่อยเป็นร่องรอยการแปรรูปไม้จำนวนมาก จากลักษณะของขี้เลื้อย คาดว่า คนร้ายน่าจะใช้เลื่อยวงเดือน ติดกับมอเตอร์เครื่องยนต์ในการเลื่อย และคงจะไหวตัวทัน หลังจากทำการแปรรูปแล้วก็ขนยายไม้ออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าถึง
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีนายทุนอยู่เบื้องหลังการลักลอบตัดไม้หรือไม่ ซึ่งจะสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.ปานเทพ ปาณะดิษ ผบ.ร้อย (สบ 2) ตชด.426 กระบี่ แถลงผลการออกกวาดล้างผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ สามารถตรวจยึดไม้เถื่อนของกลางเป็นไม้กระยาเลย แต่ละท่อน ยาวประมาณ 5-10 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30-70 เซนติเมตร จำนวน 19 ท่อน แต่ไม่พบผู้กระทำผิด เหตุเกิดบริเวณสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ 8 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการลักลอบตัดไม้ในเขตป่า และชักลากนำไปแปรรูปภายในสวนปาล์ม เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ หมู่ที่ 8 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.ชนวีร์ เกื้อพันธุ์ ผบ.มว.(สบ 1) ตชด.426 พร้อมพวกรวม 7 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กบ.2 (คลองท่อม) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม จำนวน 21 นาย เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบไม้กระยาเลย จำนวน 19 ท่อน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และยังตรวจพบว่า บริเวณกองไม้ มีขี้เลื่อยเป็นร่องรอยการแปรรูปไม้จำนวนมาก จากลักษณะของขี้เลื้อย คาดว่า คนร้ายน่าจะใช้เลื่อยวงเดือน ติดกับมอเตอร์เครื่องยนต์ในการเลื่อย และคงจะไหวตัวทัน หลังจากทำการแปรรูปแล้วก็ขนยายไม้ออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าถึง
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีนายทุนอยู่เบื้องหลังการลักลอบตัดไม้หรือไม่ ซึ่งจะสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป