สคบ.แถลงข่าวผลงานรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ต.ค.50-มี.ค.51 ระบุอสังหาริมทรัพย์ถูกร้องเรียนกว่า 50% ของการร้องทั้งหมด ส่วนสินค้าและบริการยังคงเป็นรถมือสอง-ฟิตเนส-การบริการการท่องเที่ยวที่ครองแชมป์ เผยปีนี้ผู้บริโภคจะได้สิทธิเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคลอด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค 2 ฉบับแล้ว
วันนี้ (18 เม.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักนายกรัฐมนตรี นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการ สคบ. พร้อมด้วยผู้บริหาร สคบ.เปิดแถลงข่าวผลงาน สคบ.ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 จนถึงเดือนมีนาคม 2551
เลขาธิการ สคบ.เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้น ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในกรณีของการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะการผ่านกฎหมาย พ.ร.บ.2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ความรับผิดอันเกิดจากความเสียหายของสินค้าไม่ปลอดภัย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 1 ปี หลังลงราชกิจจานุเบกษา คือจะมีผลในวันที่ 20 ก.พ.2552 โดย พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเพิ่มสิทธิผู้บริโภคให้ได้รับความคุ้มครองมากขึ้น จากเดิมที่มีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากความเสียหายอันเกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว
ฉบับที่ 2 คือ พ.ร.บ.พิจารณาคดีผู้บริโภค ที่จะสามารถบังคับใช้ได้ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ซึ่ง พ.ร.บ.นี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมจากกระบวนการศาลในกรณีการร้องเรียนขึ้นสู่ขั้นตอนการฟ้องร้องมากขึ้น รวมถึงจุดเด่นที่ พ.ร.บ.นี้จะคุ้มครองผู้บริโภคที่ต้องการจะร้องเรียนต่อศาล สามารถเดินทางไปร้องเรียนต่อศาลทั่วประเทศโดยการร้องปากเปล่าได้
“ความก้าวหน้าอีกประการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของเรานั้นก็คือ การบูรณาการการทำงานโดยการทำความตกลงกับกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เป็นการดำเนินการเชิงรุกเพื่อดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย เช่นปัญหาแชร์ลูกโซ่ ปัญหารถมือสอง เป็นต้น โดยเราได้ความร่วมมือจากทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ปปง. หน่วยสอบสวนคดีพิเศษ สตช. รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ อีก 19 หน่วย ซึ่งการที่เราสามารถให้การดูแลผู้บริโภคได้ทั่วถึง ก็มาจากความร่วมมือจากหน่วยงานที่ร่วมกันบูรณาการการทำงานของเรานี่เอง”
นางรัศมี กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของอัตรากำลังของ สคบ.นี้ น่าดีใจที่ผู้ใหญ่ให้ความสำคัญและอนุมัติเพิ่มตำแหน่งข้าราชการประจำอีก 21 ตำแหน่ง เป็นตำแหน่งข้าราชการระดับ 3-8 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีที่มีการปรับอัตรากำลัง และในส่วนของเจ้าหน้าที่สัญญาจ้างนั้นได้มีการอนุมัติให้จ้างได้อีก 120 อัตรา ซึ่งเชื่อว่าการปรับอัตรากำลังเช่นนี้จะทำให้ขีดความสามารถในงานดูแลผู้บริโภคตลอดจนขั้นตอนการบริการต่างๆ จะเร็วกว่าเดิมและให้บริการประชาชนได้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ สำหรับข้อมูลการร้องเรียนในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมานั้น นางรัศมี ระบุว่า มีทั้งสิ้น 2,977 เรื่อง เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับด้านอสังหาริมทรัพย์เกือบ 50% รองลงมาเป็นกรณีการร้องเรียนสินค้าและบริการ โดยสินค้าและบริการที่ยังคงครองแชมป์การถูกร้องเรียนก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก คือเป็นกลุ่มของรถยนต์มือสอง, ฟิตเนส และการบริการด้านการท่องเที่ยว
ส่วนงานดูแลคุ้มครองผู้บริโภคที่ผ่านมาในรอบ 6 เดือนนั้น ได้มีประกาศคำสั่งสำคัญๆ คือ ประกาศห้ามผลิตและจำหน่ายสารต้องห้าม 3 คำสั่ง คือ กรณีการร้องเรียนวิธีการเสริมสวยแบบ "ไบโอพลาสติก" ที่มีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากวิธีดังกล่าวเข้าร้องเรียน,ประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวเชื่อมประสาน และห้ามใช้ภาชนะหุงต้มที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวเชื่อมประสาน โดบสองกรณีหลังสคบ.ได้เดินสายทำความเข้าใจกับโรงเรียนต่างๆที่มีตู้น้ำเย็นไว้บริการนักเรียน และพ่อค้าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่ใช้หม้อเชื่อมตะกั่วปรุงให้ลูกค้า โดยขอความร่วมมือกับธนาคารออมสินให้ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้ามีโอกาสซื้อหม้อก๋วยเตี๋ยวที่มีคุณภาพด้วย
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ สคบ.ได้กล่าวเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้บริโภคที่สนใจว่า ในวันที่ 29-30 เมษายนที่จะถึงนี้ เป็นวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย โดยปีนี้จะมีการจัดใหญ่กว่าทุกทีที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจะมีกิจกรรมน่ารู้น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการหรือจะเป็นเวทีเสวนาที่จะมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาร่วมให้ความรู้ในสิทธิของผู้บริโภค ภายใต้ชื่องาน “เพิ่มสิทธิ เติมพลัง ผู้บริโภคเป็นใหญ่ ปลอดภัยถ้วนหน้า” ผู้บริโภคสามารถเข้าชมได้ฟรี