xs
xsm
sm
md
lg

กรมสุขภาพจิต เร่งเยียวยาใจ “น้องอัน” มอบ “วัน” ถก “พ่อ” ตามเส้นทางค้าแรงงานเด็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมช.สธ.สั่งการกรมสุขภาพจิต เยียวยาใจ “น้องอ้น” ใกล้ชิด หลังถูกลักพาตัวบังคับขายของ ทำร้ายร่างกาย ด้านจิตแพทย์แนะครอบครัวและคนแวดล้อม ต้องช่วยกันให้กำลังใจเด็ก อย่าบังคับให้พูดถึงเหตุการณ์รุนแรงที่ผ่านมา


วันนี้ (17 เม.ย.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือกรณีที่ เด็กชายชัยยันต์ อุทัยแสง หรือ น้องอ้น อายุ 10 ขวบ ถูกลักพาตัวไปจากครอบครัวตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา และถูกบังคับให้ขายของ หากไม่ได้ตามเป้าจะถูกทำร้ายร่างกาย จนมีร่องรอยบาดแผลเต็มตัว ว่า หลังทราบข่าวรู้สึกเป็นห่วงจิตใจของเด็กอย่างมาก เนื่องจากเด็กอายุยังน้อย จึงได้โทรศัพท์พูดคุยให้กำลังใจพ่อแม่ของเด็ก และสั่งการไปยังกรมสุขภาพจิต ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจิตแพทย์ไปพบพ่อแม่เด็กที่อุดรธานี เพื่อให้พ่อแม่เด็กได้ทราบแนวทางในการดูแลเด็กให้ดีที่สุด ไม่ให้เด็กมีปมด้อย ลดผลกระทบด้านจิตใจให้เร็วที่สุด

“นอกจากนี้ ได้ประสานงานกับตำรวจ เพื่อดูแลสุขภาพจิตของเด็กระหว่างมีการดำเนินการทางกฎหมายด้วย พร้อมทั้งมอบหมายให้ นายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อติดตามเส้นทางของขบวนการค้าแรงงานเด็ก และนำไปสู่ดำเนินการอย่างเด็ดขาด” นายชวรัตน์ กล่าว

รมช.สธ.กล่าวด้วยว่า สำหรับการดูแลสุขภาพจิตของเด็กรายนี้ ได้สั่งการให้โรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์ขอนแก่น และศูนย์สุขภาพจิตขอนแก่น สำนักงานสาธารณสุขอำเภอกุมภวาปี จัดทีมสุขภาพ ประกอบด้วย จิตแพทย์ พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ดูแลประเมินสภาพจิตใจของเด็กและวางแผนให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ จิตแพทย์กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในกรณีที่เด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว พบว่า เด็กจะยังหวาดกลัวและฝังใจกับเหตุการณ์รุนแรงที่ผ่านมา ครอบครัวตลอดจนคนแวดล้อม เช่น เพื่อนบ้าน ครู เพื่อนๆ ที่โรงเรียน ควรให้กำลังใจเด็ก ช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม ควรหลีกเลี่ยงการกดดันเพื่อซักถามถึงเหตุร้ายที่ผ่านมา เพราะจะยิ่งทำให้กระทบกระเทือนจิตใจและทำให้เด็กฝังใจมากขึ้น อาจส่งผลให้เด็กเกิดอาการซึมเศร้ามากขึ้น หรือจดจำพฤติกรรมร้ายก้าวร้าวและนำไปกระทำต่อคนอื่นเมื่อเป็นผู้ใหญ่

“กรณีเช่นนี้ สิ่งสำคัญผู้ปกครองจะต้องช่วยกันให้กำลังใจเด็ก หากไม่เด็กยังไม่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก็อย่าบังคับให้พูด ขอให้รอจนกว่าเด็กจะมีความพร้อมทางจิตใจ และรู้สึกอยากบอกอยากเล่าเอง ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้ระบายความรู้สึกที่เก็บกดไว้ออกมา เกิดความอบอุ่นและมั่นคงทางอารมณ์มากขึ้น” พญ.อัมพร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น