“ไชยา” เด้งรับ “เหลิม” ออก กม.ห้ามขายเหล้าช่วงเทศกาล

“ไชยา” เด้งรับ “เหลิม” ออกกฎหมายห้ามขายเหล้าช่วงเทศกาล ลั่นจับขังคุกเมาแล้วขับ ยึดรถให้สร่างเหล้า ไม่มีหมวกกันน็อกไล่ไปซื้อ หน่ายเมาไม่รักชีวิต ไม่เคารพกฎหมาย พร้อมเร่งออกกฎกระทรวงกำกับ พ.ร.บ.เหล้า คาดเสร็จทันปีหน้า

วันนี้ (17 เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการรดน้ำขอพรปีใหม่ แพทย์อาวุโสอดีตผู้บริหาร สธ.เนื่องในวันสงกรานต์ว่า ปีนี้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังมีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุดเกิด 70-80% รองลงมา คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถเร็ว ผ่าผืนกฎจราจร ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ถือเป็นความผิดซ้ำซาก ขณะที่ข้าราชการทุกหน่วยงานทั้งแพทย์ โรงพยาบาล ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุอย่างเต็มที่ แต่คนเหล่านี้ไม่เคารพกฎหมาย และไม่รักชีวิตตัวเอง ก็เหนื่อย ดังนั้น คงจะต้องกวดขัดเอาจริงเอาจังมากยิ่งขึ้น

“สงกรานต์ปีหน้าจะเสนอให้ใครที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดให้ติดคุก หรือกักตัวไว้จนกว่าฤทธิ์สุราจะหมด และผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยให้ยึดรถจักรยานยนต์ไว้จนว่าจะไปซื้อหมวกนิรภัยมาสวมใส่ และผู้ที่ไม่ประสงค์เล่นน้ำสงกรานต์ ก็ให้สวมหมดนิรภัยแสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่อยากถูกสาดน้ำหรือประแป้ง” นายไชยากล่าว

นายไชยา กล่าต่อว่า ขณะนี้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ได้ประกาศบังคับใช้แล้ว แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการร่างระเบียบการสรรหาคณะกรรมการนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคืบหน้าแล้ว 80% คาดว่าจะได้คณะกรรมการชุดนี้ ในเดือนเมษายนนี้ โดยคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ร่างกฎกระทรวงซึ่งเป็นกฎหมายลูกเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติ และคาดว่าจะสามารถร่างกฎกระทรวงเสร็จทันภายในต้นปีหน้านี้

“ส่วนข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทยที่ให้งดจำหน่ายเหล้าช่วงสงกรานต์ก็เห็นด้วย คือ มันก็เหมือนช่วงการเลือกตั้ง ส.ว. ส.ส. ที่ยังมีกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลากลางคืนได้ ผมไม่กลัวเรื่องแรงกดดันของภาคธุรกิจเพราะการทำธุรกิจที่มีผลกระทบต่อภาพรวมของสังคมก็ควรจะให้ความร่วมมือ ไม่ใช่ต้องการจะขายเพียงอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงคนอื่นไม่ได้ กลุ่มธุรกิจก็ควรฟังและให้เกียรติกัน” นายไชยากล่าว

นายไชยากล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา จะขอตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงประวัติว่า อยากตรวจสอบก็ตรวจสอบไป ไม่ได้ว่าอะไร จะไปบอกไม่ให้มาตรวจได้อย่างไร