สภากาชาดใจอ่อน ยอมปรับเกณฑ์การบริจาคโลหิตลดความเจาะจงกลุ่ม ตามที่กลุ่มเกย์การเมืองร้อง วอนกลุ่มเพศที่ 3 เร่งรณรงค์ลดอัตราการติดเอดส์ ย้ำใครไม่แน่ใจเลือดตัวเองอย่าบริจาค
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมือง และผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ได้เดินทางมามอบช่อดอกไม้แสดงความขอบคุณให้กับ พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เนื่องจากทางศูนย์บริการโลหิตฯ ได้ยอมปรับรายละเอียดในใบสมัครลงทะเบียนแจ้งความจำนงในการบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง ตามที่กลุ่มเกย์การเมือง และเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศเรียกร้อง
พญ.สร้อยสอางค์ กล่าวว่า หลังจากที่ทาง กลุ่มเกย์การเมือง และเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ได้ยื่นข้อเรียกร้องในเรื่องดังกล่าว ศูนย์บริการโลหิตฯ ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการวิชาการของศูนย์บริการโลหิตฯ เพื่อพิจารณาตามที่เครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศเรียกร้อง ทั้งนี้ ผลจากการประชุมโดยใช้เหตุผลทางวิชาการ และอาศัยข้อมูลทางสถิติในเรื่องของความชุกในการติดเชื้อเอดส์ในพฤติกรรมต่างๆ ที่ถามไว้ในใบสมัครลงทะเบียนแจ้งความจำนงบริจาคโลหิต
ที่ประชุมมีมติว่า ให้ตัดข้อ 12 ที่ระบุว่าท่านหรือคู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ใช่หรือไม่ ออก เพื่อลดความเจาะจงกลุ่ม แต่จะนำไปเพิ่มในข้อ 11 ที่ระบุว่า ท่านหรือคู่ของท่านมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับผู้อื่น ใช่หรือไม่ โดยจะเพิ่มเป็นข้อย่อยอีก 4 ข้อย่อย เน้นพฤติกรรมของทุกเพศ ซึ่งจะให้ตอบว่าใช่หรือไม่ ประกอบด้วย 1.ท่านมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นที่ไม่ใช่คู่ของท่าน 2.ท่านมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน (ตอบเฉพาะเพศชาย) 3.คู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น 4.คู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน(ตอบเฉพาะเพศหญิงที่มีคู่เป็นเพศชาย) อย่างไรก็ตามจะต้องมีการปรับในรายละเอียดอีกครั้งเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
ผอ.ศูนย์บริการโลหิตฯ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติที่ต้องการให้กลุ่มเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน ช่วยกันรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยที่ต้องรับบริจาคโลหิต และขอความร่วมมือกลุ่มองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ รณรงค์ให้อัตราการติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มเพศที่ 3 ลดลง และพิจารณาตนเองในการบริจาคโลหิตเพื่อผลประโยชน์อันใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้ป่วยที่จะต้องรับโลหิต ซึ่งหากใครที่ไม่แน่ใจในเลือดของตัวเองก็ไม่ควรที่จะมาบริจาคโลหิต
ด้าน นายนที กล่าวว่า ตามที่มีผู้ร้องเรียนมายังเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ ว่า ในใบสมัครลงทะเบียนแจ้งความจำนงในการบริจาคโลหิตข้อ 12 ซึ่งระบุว่า ท่านหรือคู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ใช่หรือไม่ เหมือนเป็นการจำกัดสิทธิของเพศที่ 3 เมื่อทราบว่าทางศูนย์บริการโลหิตฯ ยอมปรับเปลี่ยนรายละเอียดในข้อดังกล่าว เครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศก็ยอมรับได้ จึงเดินทางมามอบดอกไม้ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อ พ.ญ.สร้อยสอางค์ ที่ช่วยแก้ไขในข้อตกลงการบริจาคโรหิตดังกล่าว