ศูนย์บริจาคโลหิตร่วมกาชาดระนองหาแนวทางเพิ่มผู้บริจาคโลหิตมากขึ้น

ระนอง -ศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง ประชุมเชิงปฏิบัติการผู้ประสานงาน ด้านการจัดหาโลหิตจังหวัดระนอง เพื่อหาแนวทางให้มีผู้บริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้น

วันนี้ (20 มี.ค.) ศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการผู้ประสานงาน ด้านการจัดหาโลหิตจังหวัดระนอง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำรองในจังหวัดระนอง โดยให้มีผู้บริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้นในทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลระนอง

นางสาวทัศนีย์ สกุลดำรงพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมปริมาณโลหิตสำรองของประเทศไทย ถือว่าขาดแคลนในขั้นวิกฤตก็ว่าได้ เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครมีความต้องการโลหิตวันละ 1,500 ยูนิต แต่สามารถรับบริจาคได้เพียงวันละ 1,000 ยูนิตเท่านั้น

ส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขาดแคลนโลหิตอย่างมาก เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกปฏิบัติงานรับบริจาคโลหิตได้ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่นั่นเอง ซึ่งต้องส่งโลหิตสำรองจากที่อื่นไปสนับสนุน

ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวด้วยว่า ในช่วงฤดูแล้งจะมีความต้องการโลหิตปริมาณเพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วงอื่นๆ แต่การบริจาคโลหิตกลับลดลง เนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง หรือครู อาจารย์ จะเข้ารับการผ่าตัดกันมากขึ้น เพราไม่มีภาระในการดูแลบุตรหลานหรือสอนหนังสือ ส่วนผู้บริจาคโลหิตส่วนใหญ่ก็เป็นนักเรียนนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ เมื่อปิดเทอมก็ไม่สามารถรับบริจาคโลหิตได้

ดังนั้น เพื่อขยายฐานผู้บริจาคโลหิตให้กว้างขึ้นและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ และเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีผู้ประสานงานด้านการจัดหาโลหิต ในการสร้างความรู้ความเข้าใจ และความจำเป็นในการบริจาคโลหิต และเชิญชวนให้มีผู้บริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำมาเก็บสำรองไว้ในธนาคารเลือดของโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่จำเป็น

ทั้งนี้ ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป สามารถติดต่อขอบริจาคโลหิตได้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัด หรือโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ