xs
xsm
sm
md
lg

สุขภาพดี...อยู่เกิน 100 ปี ไม่มีปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.เฉก ธนะสิริ
เมื่อไม่นานมานี้สำนักงานสถิติแห่งชาติได้เปิดเผยข้อมูลสถิติของประชากรไทยประจำปี 2550 โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ หนึ่งในนั้นพบข้อมูลที่น่าสนใจมากเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพ กล่าวคือ สถิติการตรวจสุขภาพประจำปีของผู้สูงอายุนั้น มีถึงร้อยละ 52.3 ที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพ มีเพียงร้อยละ 47.7 ที่มีการตรวจสุขภาพ จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตัวของผู้สูงอายุ และคนที่ให้การดูแลไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพเท่าที่ควร นี่จึงเป็นเหมือนปัญหาด้านสุขภาพของผู้สูงอายุที่สำคัญเรื่องหนึ่ง

ยิ่งใกล้วันผู้สูงอายุ 13 เม.ย.เข้ามาทุกขณะ จึงควรมีการตระหนักในเรื่องนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ และผู้สูงอายุก็ควรหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยเช่นกัน เพื่อการรักษาร่างกายให้แข็งแรง อยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่างที่ นพ.เฉก ธนะสิริ ในฐานะประธานมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิมฯ และประธานกิตติมศักดิ์ชมรมอยู่ 100 ปี – ชีวีเป็นสุข ในวัย 83 ปี ชายชราผู้ซึ่งมีสภาพร่างกายแข็งแรง เดินเหินได้อย่างคล่องแคล่ว จนหลายคนต้องแปลกใจหากเทียบกับอายุ และการใช้ชีวิตจนถึง 120 ปี เป็นสิ่งที่เขาตั้งเป้าเอาไว้

แน่นอนว่า สิ่งที่เขามุ่งมั่นและตั้งใจนั้น อาจจะดูเหมือนสิ่งที่ยากหากมองกับสภาวะในปัจจุบันที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่เข้ามารุมเร้าในชีวิตของคนๆ หนึ่ง แต่หากมองถึงการใช้ชีวิตของหมอเฉกก็ต้องตกตะลึง เพราะตลอดชีวิตการทำงานจนกระทั่งเกษียณตัวเองออกมานั้น ไม่เคยเจ็บป่วย ไม่เคยลาป่วย ไม่เคยเบิกค่ารักษาพยาบาล ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ และไม่เคยกินยาบำรุงหรืออาหารเสริมทั้งสิ้น

หมอเฉก เผยเคล็ดลับของการมีสุขภาพดีให้ฟังว่า สิ่งที่ยึดถือมาตลอดคือการทำให้ร่างกายอยู่ได้อย่างยืนยาวจนถึงอายุ 120 ปี ซึ่งแนวทางปฏิบัตินั้นมีหลายด้านเช่น “อยากมีแรง ต้องออกแรง” คือ การหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะหนักเบาก็ตามแต่อายุ โดยในผู้สูงอายุนั้นควรออกกำลังกายประเภท เดิน วิ่งเบาๆ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก เล่นโยคะ รำไทเก๊ก ทั้งหมดนี้เป็นการออกกำลังกายที่ให้พลัง
 จิตใจที่แจ่มใส และ การออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุ
ส่วนในเรื่องของการกินนั้น ต้องกินอาหารธรรมชาติ ยึดหลัก “กินอาหารอายุยืน จะทำให้อายุสั้น” ในที่นี้คือ อาหารอายุยืน เช่น อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูปต่างๆ ที่มีสารเคมีหลายอย่างเป็นส่วนประกอบ อย่างสารกันบูด ที่จะช่วยรักษาคุณภาพของอาหารไว้ได้นาน แต่กลับส่งผลร้ายต่อร่างกายอย่างมาก จึงต้องหันมาใส่ใจกับอาหารที่เน่าเสียได้ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ต่างๆ ลดการกินเนื้อสัตว์ จะช่วยให้ร่างกายอยู่ได้นานขึ้น อีกทั้งการดื่มน้ำก็มีความสำคัญ โดยที่ในหนึ่งวันควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้ 10-12 แก้ว

นอกจากนี้ หมอเฉก ยังบอกอีกว่า การนอนหลับให้สนิทและการทำจิตใจให้สงบ ต้องมาคู่กัน การนอนหลับถือเป็นการพักผ่อนร่างกายที่ดีที่สุด และยังช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่ตัวเอง อีกทั้งยังเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่ครอบครัว สังคมตามมาด้วย และหากเป็นไปได้ก็ควรหมั่นฝึกสมาธิ รักษาศีล 5 ตามหลักพุทธศาสนา ดำเนินชีวิตทุกๆ ด้านด้วยปัญญา ซึ่งจะเป็นพลังสูงสุดแก่ร่างกาย

“หมั่นสร้างความดี ละเว้นความชั่ว สร้างแต่บุญกุศล และพยายามตั้งโปรแกรมจิตใจของตนเองทุกวัน ที่จะมีชีวิตยืนยาวจนถึง 120 ปี อย่างมีคุณภาพ และให้พิจารณาลงลึกไปถึงการเปรียบ ร่างกาย เป็น “ฮาร์ดแวร์” ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะต้องดูแลระมัดระวังให้ทำหน้าที่ของร่างกายให้ดีอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของโปรแกรมที่จะถูกป้อนเข้าไปเพื่อเป็นการสั่งการให้ร่างกายทำงานคือ “ซอฟต์แวร์” ที่เปรียบได้กับ จิตใจ เมื่อจิตใจมีความคิด หรือการนึกคิดแต่เรื่องที่ดี ผลที่ออกมาจากการกระทำก็จะทำแต่เรื่องดีๆ เช่นกัน” หมอเฉก เพิ่มเติม

ในวันผู้สูงอายุปีนี้ อยากให้ผู้สูงอายุหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ สถิติข้างต้นเป็นตัวบ่งบอกได้ดีในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ และหากนำหลักปฏิบัติเหมือนอย่างที่หมอเฉกแนะนำมาปรับใช้ เชื่อได้ว่าในปีต่อไป สถิติคงมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เหมือนอย่างคำพระที่ว่า “อโรคยา ปรมา ลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น