เผยผลสอบประเมินความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมนักศึกษาแพทย์ ม.อ.ได้รับคะแนนเฉลี่ย 65.6% สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ขณะที่จำนวนนักศึกษาที่สอบผ่านสูงสุดเป็นอันดับ 2 อธิการบดีมั่นใจตอกย้ำความรู้ความสามารถด้านวิชาการโดยเฉพาะความเป็น “โรงเรียนแพทย์” ลั่นเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง ลุยบ่มเพาะทั้งวิชาการคุณธรรมและจริยธรรม
รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า ในการสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมขั้นตอนที่ 2 ซึ่งเป็นการประเมินความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิกแก่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 จัดโดยแพทยสภา เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ามีนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าสอบเพื่อประเมินความรู้ดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 107 คน โดยมีผู้สอบผ่าน 105 คน คิดเป็นร้อยละ 98.1 สูงสุดเป็นอันดับที่ 2
โดยนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสามารถทำคะแนนได้สูงถึงร้อยละ 65.6 ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรงเรียนแพทย์ทั่วประเทศ โดยคะแนนเฉลี่ยของนักศึกษาที่เข้าทดสอบทั้งหมด 1,391 คนจาก 11 สถาบัน อยู่ที่ร้อยละ 61.3
สำหรับการสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมนั้น จัดขึ้นโดยศูนย์ประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมคุณภาพของการประเมินความรู้ความสามารถของนักศึกษาระหว่างการฝึกอบรมในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และรับรองความรู้ความสามารถของบัณฑิตแพทย์ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยบริหารจัดการสอบเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา
ทั้งนี้ การสอบดังกล่าวเริ่มใช้กับนักศึกษาแพทย์ที่เข้าศึกษาในปีการศึกษา 2546 โดยขั้นตอนการสอบมี 3 ขั้นตอน ประกอบด้วยขั้นตอนที่ 1 สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 3 เพื่อประเมินความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 เพื่อประเมินความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก และขั้นตอนที่ 3 สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 เพื่อประเมินความรู้ความสามารถทางคลินิก
อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวด้วยว่า ผลการสอบในครั้งนี้ซึ่งเป็นระดับขั้นที่ 2 เป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งถึงคุณภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้ว่านักเรียนอาจจะไม่ได้เลือก ม.อ.เป็นสถาบันการศึกษาอันดับแรกในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เมื่อผ่านการบ่มเพาะทั้งด้านวิชาการ และคุณธรรมจริยธรรม จากสถาบันแห่งนี้แล้วนักศึกษาสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ในหลายสนามของการแข่งขันทางวิชาการ
เช่นเดียวกับที่บัณฑิตเภสัชศาสตร์มีอัตราการสอบใบประกอบวิชาชีพสูงถึงร้อยละ 90.1 ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ทั้งๆ ที่ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักศึกษาเลือกมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นอันดับ 8 เป็นต้น
“มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ยังคงเดินหน้าพัฒนาและผลิตบัณฑิตที่มีทั้งความสามารถทางวิชาการความพร้อมด้านคุณธรรมและจริยธรรมต่อไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทย” รศ.ดร.บุญสม กล่าวปิดท้าย
รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า ในการสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมขั้นตอนที่ 2 ซึ่งเป็นการประเมินความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิกแก่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 จัดโดยแพทยสภา เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ามีนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าสอบเพื่อประเมินความรู้ดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้น 107 คน โดยมีผู้สอบผ่าน 105 คน คิดเป็นร้อยละ 98.1 สูงสุดเป็นอันดับที่ 2
โดยนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสามารถทำคะแนนได้สูงถึงร้อยละ 65.6 ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรงเรียนแพทย์ทั่วประเทศ โดยคะแนนเฉลี่ยของนักศึกษาที่เข้าทดสอบทั้งหมด 1,391 คนจาก 11 สถาบัน อยู่ที่ร้อยละ 61.3
สำหรับการสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมนั้น จัดขึ้นโดยศูนย์ประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมคุณภาพของการประเมินความรู้ความสามารถของนักศึกษาระหว่างการฝึกอบรมในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต และรับรองความรู้ความสามารถของบัณฑิตแพทย์ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยบริหารจัดการสอบเพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา
ทั้งนี้ การสอบดังกล่าวเริ่มใช้กับนักศึกษาแพทย์ที่เข้าศึกษาในปีการศึกษา 2546 โดยขั้นตอนการสอบมี 3 ขั้นตอน ประกอบด้วยขั้นตอนที่ 1 สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 3 เพื่อประเมินความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 เพื่อประเมินความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก และขั้นตอนที่ 3 สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 เพื่อประเมินความรู้ความสามารถทางคลินิก
อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวด้วยว่า ผลการสอบในครั้งนี้ซึ่งเป็นระดับขั้นที่ 2 เป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งถึงคุณภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้ว่านักเรียนอาจจะไม่ได้เลือก ม.อ.เป็นสถาบันการศึกษาอันดับแรกในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เมื่อผ่านการบ่มเพาะทั้งด้านวิชาการ และคุณธรรมจริยธรรม จากสถาบันแห่งนี้แล้วนักศึกษาสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ในหลายสนามของการแข่งขันทางวิชาการ
เช่นเดียวกับที่บัณฑิตเภสัชศาสตร์มีอัตราการสอบใบประกอบวิชาชีพสูงถึงร้อยละ 90.1 ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ทั้งๆ ที่ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักศึกษาเลือกมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นอันดับ 8 เป็นต้น
“มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ยังคงเดินหน้าพัฒนาและผลิตบัณฑิตที่มีทั้งความสามารถทางวิชาการความพร้อมด้านคุณธรรมและจริยธรรมต่อไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทย” รศ.ดร.บุญสม กล่าวปิดท้าย