xs
xsm
sm
md
lg

“หมอเทพ” ขู่ “ไชยา” ถอนคำสั่งห้ามตัดไข่ รอ 15 วันไม่กระเตื้องลั่นฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไชยา สะสมทรัพย์
“หมอเทพ” ห้าวบุกยื่นอุทธรณ์ “ไชยา” ให้เพิกถอนคำสั่งห้ามตัดไข่ชั่วคราวของกองการประกอบโรคศิลปะ ขู่ให้เวลา 15 วัน ไม่ทบทวนคำสั่งฟ้องศาลปกครองแน่ ชี้เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลั่นไม่เห็นด้วยแปลงเพศ ตัดไข่ต้องผ่านจิตแพทย์ ศัลยแพทย์ตัดสินได้ พร้อมติงไม่ควรออกกฎข้อบังคับให้ยุ่งยากมากเรื่อง กีดกันการแข่งขันระดับโลก

วันนี้ (8 เม.ย.) นพ.เทพ เวชวิสิฐ เจ้าของคลินิกประตูน้ำการแพทย์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ. เรื่องอุทธรณ์คำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข ที่สธ. 0702.06/1325 ลงวันที่ 2 เม.ย.สั่งให้ระงับการตัดอัณฑะในสถานพยาบาล จนกว่าแพทยสภาจะมีวินิจฉัย

โดยในหนังสือระบุว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเป็นการออกโดยไม่มีอำนาจทางกฎหมายจึงไม่สามารถบังคับใช้ได้ โดยกองการประกอบโรคศิลปะอ้างว่าใช้กฎหมายตามมาตรา 45 พ.ร.บ.สถานพยาบาล ทั้งๆ ที่กองการประกอบโรคศิลปะ มีหน้าที่เพียงตรวจตราสถานที่ เครื่องมือเครื่องใช้ อยู่ในสภาพเรียบร้อยและมีบุคลากรครบถ้วนตามเกณฑ์หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล คลินิกการแพทย์ คลินิกทันตกรรม หากมีความผิดพลาดเกิดข้อบกพร่องก็สามารถออกคำสั่งให้แก้ไขหรือสั่งปิดสถานพยาบาลนั้นๆ แต่ไม่สามารถออกคำสั่งบังคับให้แพทย์ พยาบาล หรือทันตแพทย์ เกี่ยวกับกระบวนการรักษาได้ แต่ต้องให้สภาวิชาชีพ อาทิ แพทย์สภา สภาการพยาบาล เป็นผู้สั่งการวินิจฉัยชี้ขาด

“พ.ร.บ.สถานพยาบาล ตามชื่อก็บอกชัดอยู่แล้วว่า เกี่ยวกับสถานพยาบาล เช่น หม้อนึ่งจะระเบิดทำอันตรายต่อแพทย์และพยาบาลหรือคนไข้ในโรงพยาบาล หรือกรณีเตาเผาขยะส่งควันรบกวนคนไข้ในโรงพยาบาล หรือรบกวนชาวบ้านใกล้เคียง ก็ต้องสั่งให้แก้ไข มิฉะนั้นก็จะปิดโรงพยาบาลแต่การทำงานของแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัช นักกายภาพบำบัด หรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขอื่นๆ จะมีกฎหมายของสภาวิชาชีพบังคับอีกทีหนึ่ง ว่าทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้”หนังสือระบุ

หนังสือระบุอีกว่า นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผ่าตัดอัณฑะว่า เทคนิคดังกล่าวมีให้บริการทางการแพทย์มานานแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะมีการผ่าตัดแปลงเพศเสียอีก และปัจจุบันยังมีการผ่าตัดแบบนี้ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งมีการโฆษณาให้บริการตามโรงพยาบาลและคลินิกหลายแห่ง ซึ่งมีราคาแพง 1,000-3,000 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยกับการต้องประเมินทางจิตเป็นปี ก่อนที่จะผ่าตัดแปลงเพศได้ เพราะ ยิ่งสร้างความสับสนและทำร้ายจิตใจ ทั้งๆ ที่ได้มีการตัดสินใจแล้ว อีกทั้งการที่ศัลยแพทย์เป็นผู้ประเมิน ไม่จำเป็นต้องมีใบส่งตัวมาจากจิตแพทย์ ซึ่งจิตแพทย์ที่มีอยู่ก็ยังดูแลคนบ้าไม่ไหว เป็นการลดขั้นตอนไม่ยุ่งยากมากเรื่อง อันเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่ทำให้ประเทศไทยเป็นดินแดนสวรรค์ของการบริการทางด้านการผ่าตัดแบบนี้ รวมทั้งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งหากจะมีการออกกฎระเบียบมาจำกัดการแข่งขันในระดับโลก

“ขณะนี้เกิดความสับสนในสังคมว่า ผ่าตัดแล้วจะทำให้พิการหรือสืบพันธุ์ไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริง กลุ่มผู้หญิงข้ามเพศ (Transexual) หรือกะเทย ไม่ได้ต้องการที่จะมีอัณฑะหรือองคชาติ หรือไม่ได้ต้องการร่วมเพศกับสตรีเพื่อสืบพันธุ์ แต่มีความต้องการจะมีเต้านมแบบสตรี และร่วมเพศกับชายที่เขารัก และคนกลุ่มนี้ซื้อยาฮอร์โมนเพศหญิงหรือยาคุมกำเนิดและกินยาต้านฮอร์โมนเพศชายตั้งแต่วัยรุ่นจนอัณฑะฝ่อและผิดปกติไปหมดแล้ว แม้หยุดกินยาก็ไม่สามารถจะกลับมามีอัณฑะเป็นปกติได้ จนวันหนึ่งก็ตัดสินใจไปผ่าตัดอัณฑะหรือแปลงเพศเมื่อมีเงิน เพื่อผลดีทางร่างกายไม่ต้องกินฮอร์โมนมากๆ ประหยัดเงินกว่าการกินยาอย่างเดียว”หนังสือระบุ

หนังสือระบุด้วยว่า คำสั่งระงับการตัดอัณฑะของคนกลุ่มนี้ ยังเป็นการละเมิดสิทธิของเขาที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 37 ทั้งนี้ส่วนใหญ่ที่ทำการผ่าตัดก็เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ และเป็นบุคคลที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่จะผ่าตัด ไม่เคยผ่าตัดในเด็กอายุ 15-16 ปี จึงมิใช่เรื่องที่จะเสียหาย หรือทำมิได้แต่ประการใด ซึ่ง สธ.ก็ไม่เคยให้การบริการอย่างเป็นรูปธรรมแก่คนกลุ่มนี้มาก่อน ขณะที่ประเทศอังกฤษมีการให้บริการด้านฮอร์โมน ตัดอัณฑะหรือแปลงเพศฟรี ดังนั้น หากโครงการ 30 บาท ของ สธ.จะรับไว้พิจารณาก็จะเป็นที่สรรเสริญของคนกลุ่มนี้ หากใครพูดถึงโครงการสาวประเภทสองรักษาฟรี ก็ต้องเอ่ยชื่อ ฯพณฯ ไชยา เหมือนดังหากพูดถึงยาบ้าก็ต้องบอกว่าเป็นคำที่ ฯพณฯ ท่านเสนาะ เทียนทอง บัญญัติศัพท์ไว้

ทั้งนี้ จึงขอให้รัฐมนตรีทบทวนเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนี้ และเนื่องจากเรื่องนี้เป็นข้อกฎหมายที่ไม่ยุ่งยากต่อการพิจารณา หากไม่เพิกถอนคำสั่งภายใน 15 วัน ก็จะใช้สิทธิทางศาลปกครองต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น