xs
xsm
sm
md
lg

ศธ.ระบุเด็กประถม-มัธยมต้นนิยมดมกาว ม.ปลายชอบยาบ้า มีฐานะเล่นยาไอซ์ ภาคใต้สี่คูณร้อยยังมาแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศธ.เตรียมรับมือยาเสพติดรอบใหม่ ระบุเด็กประถมถึงมัธยมต้นนิยมดมกาวและสารระเหยมากสุด ขณะที่ม.ปลายนิยมใช้ยาบ้า ส่วนครอบครัวมีฐานะเล่นยาไอซ์ ภาคใต้สี่คูณร้อยยังมาแรง ตัวเลขฟ้องมีนักเรียนต้องสงสัยค้ายาบ้าอยู่ด้วย ระบุ ศธ.ถือเด็กติดสารระเหยเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัดโดยสถานภาพนักเรียนยังคงอยู่ จับมือ สสส. ปปส.ค้นหาโรงเรียนต้นแบบอำเภอและ 1 แห่งทั่วประเทศ และคัดโรงเรียน 10 แห่ง สุดยอดต้นแบบ เร่งแก้ปัญหายาเสพติด

นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการหารือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ว่า ที่ประชุมมีความกังวลถึงปัญหายาเสพติดที่จะกลับมาระบาดรอบใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มเด็กและเยาวชน โดยพบว่าปัจจุบันปัญหายาเสพติดที่พบในเด็กระดับชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการดมกาวและสารระเหย
ขณะที่เด็กในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะพบปัญหาเรื่องยาบ้า ส่วนกลุ่มเด็กที่ครอบครัวมีฐานะจะมีปัญหาการใช้ยาไอซ์ ขณะที่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ภาคใต้นิยมใช้ยาเสพติดประเภทสี่คูณร้อย

ทั้งนี้ จากรายงานสภาพการใช้สารเสพติดของสถานศึกษาในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งสำรวจโดยกลุ่มนโยบายพิเศษ สำนักกิจการพิเศษ สำนักงานปลัด ศธ. เมื่อปี 2550 จากจำนวนนักเรียนที่รายงานมาทั้งสิ้น จำนวน 5,785,442 คน พบเป็นกลุ่มที่เคยใช้ยาและเลิกใช้แล้ว จำนวน 1,531 คน หรือคิดเป็น 0.026% โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ใช้สารเสพติดประเภทยาบ้ามากสุดถึง 639 คน กัญชา 332 คน สารระเหย 234 คน กระท่อม 168 คน ยาอีและฝิ่น ประเภทละ 20 คน ยาเค 17 คน โคเคน 10 คน เฮโรอีน 8 คน และอื่นๆ 83 คน

“ส่วนกลุ่มที่ยังใช้ยาอยู่ มีจำนวน 689 คน คิดเป็น 0.012% จำแนกเป็น กระท่อม 331 คน ยาบ้า 138 คน กัญชา 119 คน สารระเหย 42 คน ฝิ่น 10 คน ยาเค 4 คน กัญชา 1 คน และอื่นๆ 44 คน ส่วนกลุ่มที่ติดยาและบำบัดรักษาหายแล้ว จำนวน 520 คน คิดเป็น 0.008 ขณะเดียวกันพบเด็กนักเรียนที่สงสัยว่าจะค้ายาบ้า จำนวน 41 คน คิดเป็น 0.007%% อย่างไรก็ตามพบกลุ่มที่ใช้เหล้าและบุหรี่ จำนวน 120,488 คน คิดเป็น 2.08%

สำหรับเด็กที่พบว่าใช้ยาเสพติด ศธ.จะถือว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นผู้ป่วย จะถูกส่งตัวไปบำบัดรักษา โดยสถานภาพความเป็นนักเรียนยังคงอยู่ และจะเก็บข้อมูลเป็นความลับ ส่วนสถานศึกษาที่พบนักเรียนใช้สารเสพติดก็ต้องรีบแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนด้วย”ปลัด ศธ.กล่าว

นางจรวยพร กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ประชุมมีข้อเสนอร่วมกันว่า เห็นด้วยกับยุทธศาสตร์ของ สสส.ที่จะค้นหาโรงเรียนต้นแบบในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอำเภอละ 1 แห่ง จาก 926 อำเภอทั่วประเทศ และจะคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบดีเด่น จำนวน 10 แห่ง โดยจะพิจารณาคัดเลือกจากสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อส่งเสริมสถานศึกษาที่มีมาตรการดูแลปัญหายาเสพติดที่ดี และให้เป็นต้นแบบขยายผลไปสู่โรงเรียนอื่นๆ โดย ศธ. ปปส.และ สสส.จะมีคณะกรรมการที่จะพิจารณาเรื่องคุณธรรม และพฤติกรรมของนักเรียน โดยโรงเรียนจะต้องมีระบบการดูแลเด็ก มีแผนงาน และให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะถึงแม้เราจะดูแลเด็กในสถานศึกษาได้ แต่เมื่อเขาออกไปเจอกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่วยุ ก็อาจจะเสี่ยงต่อการใช้สารเสพติดได้ ดังนั้น การดึงชุมชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดจึงเป็นเรื่องสำคัญ

นอกจากนี้ สสส.ยังมีสื่อการสอนที่เป็นซอฟแวร์ที่เน้นเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดที่จะแจกให้กับโรงเรียนได้นำไปใช้ด้วย โดยการดำเนินการทั้งหมดจะใช้งบประมาณ 20 ล้าน ซึ่ง ศธ.จะทำรายละเอียดเพื่อเสนอขอความสนับสนุนงบฯ จาก สสส.ในการดำเนินงานต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น