“สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เดินหน้าลุยปราบเครือข่ายค้ายานรกตามตะเข็บชายแดน พร้อมประสาน ปปง.ตรวจเส้นทางฟอกเงินกับญาติพี่น้อง เพื่อขยายผลอายัดทรัพย์ เชือดคดีอาญา
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 (ป.ป.ส.ภาค 5) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังเดินทางตรวจราชการในพื้นที่ภาคเหนือว่า การปราบปราบยาเสพติดในพื้นที่ปปส.ภาค 5 ปี 2551 สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้148 คดี ของกลางยาบ้า 89,495 เม็ด เฮโรอีน 6,430 กรัม ฝิ่น 23.02 กิโลกรัม ยาไอซ์ 1,000 กิโลกรัม ได้ตัวนักค้ายารายสำคัญ 103 ราย เป็นคดียาไอซ์ 82 ราย จับกุมนักค้ารายย่อย 632 ราย สามารถขยายผลจับกุมเครือข่ายนักค้ายาได้ 59 ราย อายัดทรัพย์สินของเครือข่ายได้ 76.31 ล้านบาท ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการร่วมปราบปรามเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ได้ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 5 กองบัญชาการตำรวจภูธร 5 ได้กำหนดเป้าหมายปราบเครือข่ายนักค้ารายสำคัญ 2 เครือข่าย พร้อมระบุเป้าหมายปราบคดีสำคัญ 10 เป้าหมาย
นายสมพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ได้กล่าวมอบนโยบายให้ปปส.ภาค 5 เน้นแก้ปัญหาปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ และพร้อมจะประกาศสงครามปราบยาเสพติดในเร็ว ๆนี้ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องเข้มงวดปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะด้านการข่าวต้องรวดเร็ว และต้องมีแผนงานที่สกัดกั้นไม่ให้ขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนทะลักเข้าประเทศไทย ต้องเน้นปราบในพื้นที่เป้าหมายที่เกิดขึ้นซ้ำซากเป็นที่แรก และเน้นปราบกลุ่มเคืรอข่ายที่สำคัญ และผู้ค้ายาและหนีหมายจับ
ทางการดำเนินคดีทางอาญามาลงโทษตาม กม. โดยให้ประสานงานกับสำนักป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กรมสรรพากร เพื่อทำการตรวจสอบทรัพย์สิน และการหลีกเลี่ยงเสียภาษี แต่ต้องไม่กระทบถึงสิทธิคนที่ไม่เกี่ยว จึงควรทำในทางลับแบบปูพรม สืบกับผู้ต้องสงสัยและจากญาติพี่น้อง หากพบมีรายได้ที่ไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ และไม่เคยเสียภาษี ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ผมมีขอกังวลเรื่องการอายัดทรัพย์กับเครือข่ายผู้ค้ายา โดยจากที่เห็นตัวเลขการยึดทรัพย์ที่ได้รับรายงาน ตัวเลขเป็นเพียงหลัก 10 ล้านบาท ถือว่าน้อยมาก เพราะขบวนการค้ายาต้องมีการหมุนเงินในการผลิตยาไม่ต่ำกว่า 100-1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการผลิตยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน ที่ผ่านมาเรายังเคาะไม่ถูกจุด จับได้แต่รายเล็ก” นายสมพงษ์ กล่าว
ส่วนกรณีผู้ที่เสพยาเลิกยาแล้วกลับมาเสพใหม่ ขณะนี้หน่วยงานราชการยังขาดคแคลนงบประมาณ และบุคลากร สถานที่บำบัดผู้ติดยา ดังนั้น ตนเองจึงพร้อมผลัก ป.ป.ส.ให้สนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้เพิ่มทุกหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม การบำบัดของผู้ติดยาต้องบำบัดไม่เกิน 3 เดือน ต้องเข้มงวดในมาตรการเพื่อไม่ให้กลับมาติดยาซ้ำซาก
พล.ต.ต.ชวลิต ศิริกิจ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า จากสถิติการปลูกฝิ่นในพื้นที่ปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปี 2550 ซึ่งพบว่าผู้ปลูกเป็นชนเผ่าต่างๆ รับจ้างปลูกจากนายทุน จากนั้นนายทุนจะนำผลผลิตไปผลิตยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเครือข่ายนักค้าจะส่งกลับเข้ามาตามแนวชายแดนไทยมาจำหน่ายให้กับผู้เสพ และลักลอบส่งไปขายยังประเทศที่ 3 ทั้งนี้ จากการตั้งด่านตรวจสะกัดจับ พบว่านักค้ายาจะใช้เส้นทางลำเลียงในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งต่อไปยัง จ.ตาก