xs
xsm
sm
md
lg

“ชวน” ข้องใจ “แม้ว” รีรอสู้คดีหนุน คตส.เอาคนผิดมาลงโทษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชวน” ไม่สน “แม้ว” จะกลับไทยวันไหน ชี้ไม่ใช่สาระ ข้องใจไม่รีบมาสู้ดีมัวรออะไรอยู่ตั้งนาน พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานยุติธรรมผนึกกำลังนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย พร้อมให้กำลังใจ คตส.ทำงานเป็นที่พึ่งของสังคมต่อไป เตือน “เหลิม” อย่าพูดดับไฟใต้-ปราบยาเสพติด เอามันต้องยึดกฎหมายและต้องสรุปบทเรียนในอดีตไม่ให้ปัญหาซ้ำรอยเดิม

วันนี้ (22 ก.พ.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ระบุว่า จะนัดพบฝ่ายค้านรับฟังข้อเสนอแนะจากฝ่ายค้านในทุกเดือนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสถานการณ์ภาคใต้ ว่า ดูเหมือนการพูดกับการปฏิบัติจะเป็นคนละเรื่องกัน โดยตั้งข้อสังเกตให้เห็นว่าตอนที่ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรค เสนอความเห็นตอนแถลงนโยบายรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิมไม่ค่อยพอใจ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หาก ร.ต.อ.เฉลิม สนใจจะฟังข้อมูลจริง ส.ส.ในภาคใต้ซึ่งมีข้อมูลในพื้นที่เป็นอย่างดีก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม เตรียมทำประชาพิจารณ์ เรื่องเขตปกครองพิเศษนั้น นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการศึกษาเพราะต้องยอมรับว่า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ มาเกิดขึ้นในช่วงภายใต้ระบอบทักษิณ หรือภายใต้ระบบนโยบายคิดใหม่ทำใหม่ เป็นจุดที่ก่อให้เกิดความรุนแรง หลังจากที่มีการยกเลิกหน่วยงานต่างๆ ที่เคยดูแลปัญหาความไม่สงบในภาคใต้เป็นอย่างดี และปัญหาส่วนหนึ่งที่ชัดเป็นเพราะมีการทดลองนโยบายโดยไม่ได้ศึกษาให้ถ่องแท้

ดังนั้น พอเกิดความเสียหายแล้วทำให้แก้ยาก ซึ่งเหตุรุนแรงที่เรื้อรังมีการสูญเสียทุกวันก็เป็นผลพวงมาจากความผิดพลาดในครั้งนั้น ดังนั้น จึงเห็นว่า เป็นบทเรียนที่ดีในแง่ว่าเราจะต้องไม่เอาเรื่องของความมั่นคงของชาติ มาทดลองนโยบายโดยไม่ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน จึงขอแนะนำว่าไม่ว่าจะใช้ระบบใดก็ตามอย่าทำโดยไม่ศึกษาให้ครบถ้วนอย่างถ่องแท้ ชัดเจน ไม่เช่นนั้นปัญหาจะย้อนกลับไปสู่ปี 2544 และเมื่อเกิดความผิดพลาดแล้วก็แก้ยาก ซึ่งวันนี้ปัญหาก็แก้ได้ไม่ง่ายนัก ทั้งที่ควรทำได้ดีตั้งแต่ยุคที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานท์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตอนนั้นรัฐาลกลับโยนเรื่องเปล่านี้ให้กับ คมช.

สำหรับกรณีที่ รมว.มหาดไทย มีนโยบายปราบยาเสพติดอย่างเด็ดขาดและประกาศว่า หากปราบยาเสพติดแล้วต้องมีคนตายอีกสามหรือสี่พันคนก็ต้องทำนั้น นายชวน กล่าวว่า จะเอาความแน่นอนจาก ร.ต.อ.เฉลิม มากก็ไม่ได้ และเข้าใจว่าตอนที่ประกาศในสภาคงพูดให้เกิดความคึกคัก เพราะเวลาพูดในตอนหนึ่งก็บอกว่า จะปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ซึ่งตนก็เห็นว่าเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดหรือการดำเนินการใดๆ ควรต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้จัดการ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาเหมือนในอดีต ที่ต้องมีการสูญเสียคนบริสุทธิ์ หรือแม้แต่ว่าคนนั้นกระทำผิดเราก็ไม่ควรไปฆ่าโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม

นายชวน ยังกล่าวด้วยว่า การฆ่าตัดตอนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่ทำให้สถานการณ์ในภาคใต้รุนแรงมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ต้องยอมับว่าเบื้องต้นที่เกิดปัญหามาจากการอุ้มฆ่า ที่นายกรัฐมนตรีในยุคนั้นประกาศว่าทุกอย่างต้องเสร็จภายใน 3 เดือน ส่วนการฆ่าตัดตอนมาเกี่ยวโยงกับยาเสพติดในภายหลัง

นอกจากนี้ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเดือนมีนาคมว่า การจะกลับมาประเทศไทยหรือไม่ ตนคิดว่าไม่ได้เป็นสาระอะไรและได้พูดมาตลอดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศไทยเมื่อไหร่ก็ได้เพราะเป็นคนไทย ไม่มีใครไปสกัดได้ ดังนั้นคนไทยเมื่อไปอยู่ที่ไหนหากจะกลับประเทศไทยก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ที่ไม่กลับมาคงต้องถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เอง ว่า รออะไรอยู่ ซึ่งเกี่ยวกับส่วนตัวเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีคดีที่ถูกกล่าวหาจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)

นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ต้องให้กำลังใจกับคตส.เพราะขณะนี้ประชาชนมีความรู้สึกว่าบ้านเมืองเหมือนกับไม่มีที่พึ่งหรือมีกฎเกณฑ์กติกาที่ศักดิ์สิทธิ์พอที่จะใช้กฎหมายลงโทษบุคคลที่กระทำผิดได้ คนจึงไม่ค่อยเชื่อมั่น ซึ่งคตส.ก็ทำให้ประชาชนมีความหวัง ดังนั้นคิดว่าขณะนี้ประชาชนกังวล ทั้ง คตส.อัยการ และศาลที่มีเรื่องขัดแย้งในคำพูดกันอยู่ เพราะ ถือเป็นกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นความหวังที่มีอยู่ไม่มากนักในสังคมทุกวันนี้ จึงอยากขอให้หน่วยงานเหล่านี้ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าทะเลาะกัน แต่ขอให้ร่วมกันทำงาน ซึ่งขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย เพราะเชื่อว่าใน คตส.มีคนดีทำงานอยู่ และคนเหล่านี้ก็กล้าพอที่จะทำงานในช่วงที่ถูกกดดันทุกอย่าง แต่แน่นอนว่าฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการทำงานของ คตส. ย่อมมีความรู้สึกกลัวและให้ร้าย คตส. ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา

นายชวน กล่าวเรียกร้องให้หน่วยงานหลักของบ้านเมืองเหล่านี้มีกำลังใจเป็นความหวังของประชาชนต่อไป ทั้งนี้ยังเชื่อว่าพอมีเวลา ซึ่ง คตส.เองคงรู้ดีว่า เวลาที่เหลืออยู่จำกัด ต้องรีบทำงาน ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งที่ต้องใช้เวลาในการสรุปคดีนั้นคงเป็นเพราะต้องทำงานอย่างรอบคอบ ไม่ทำอะไรลวกๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาภายหลัง เพราะวันหน้าไม่มีใครรู้ว่า กระบวนการยุติธรรมจะถูกแทรกแซงวิ่งเต้นหรือไม่

/0110
กำลังโหลดความคิดเห็น