“เหลิม” เตรียมต่อยอดนโยบายผู้ว่าฯ ซีอีโอ ปราบยาเสพติดยุคแม้ว เตรียมนัดผู้ว่าฯ หารือทั่วประเทศหลังแถลงนโยบาย ให้ความสำคัญปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ นัด ศอ.บต.หารือจันทร์นี้ ยันจะไม่รวบอำนาจ
วันนี้ (8 ก.พ.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุพล ฟองงาม และนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้ากระทรวงเป็นวันแรก เมื่อเดินทางมาถึงทั้ง 3 คนได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ประกอบด้วย ศาลพระภูมิ ศาลพระกาฬ และพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่ามกลางการให้การต้อนรับจากข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย นำโดย นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ ส.ส. และสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ที่มารอมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีแก่รัฐมนตรีใหม่ทั้ง 3 คนอย่างเนืองแน่น ขณะที่บริเวณรอบๆ กระทรวงมหาดไทยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ใกล้เคียงมาคอยให้การรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเป็นจำนวนมาก
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คนจะไม่ยึดรูปแบบเดิมที่ผ่านมา แต่จะเชิญทั้ง 2 คนมาคุยว่าต้องการจะรับผิดชอบงานส่วนใดบ้าง เพราะสุดท้ายแล้วรัฐมนตรีว่าการก็จะต้องรับผิดชอบด้วย จึงไม่ต้องการให้มีภาพออกมาว่ารัฐมนตรีว่าการเข้าไปควบคุมกรมสำคัญๆ เป็นการรวบอำนาจ
“ยุคของผมไม่มีเรื่องแบบนี้ ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยเฉพาะรัฐมนตรีช่วยคนหนึ่งก็มาจากพรรคเดียวกัน ส่วนอีกคนมาจากพรรคร่วมรัฐบาลต้องให้เกียรติกัน ผมยืนยันว่าไม่รวบอำนาจ แต่เวลานี้ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดการแบ่งงาน ต่อไปจะเป็นยุคที่กระทรวงมหาดไทยไม่มีความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ รัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ต่อข้อถามถึงการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้จะพูดเร็วไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ความมั่นใจแก่ข้าราชการว่าจะต้องเติบโตในกระทรวงมหาดไทยใช่หรือไม่ ร.ต.อเฉลิม กล่าวว่า คงต้องเป็นเช่นนั้น
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการนำระบบผู้ว่าฯ ซีอีโอกลับมาใช้ว่า จะหารือกับนายพงศ์โพยม เพราะกระทรวงมหาดไทยไม่เหมือนกระทรวงอื่น เป็นกระทรวงที่มีความรับผิดชอบสูงมาก
“ผมจะปลุกวิญญาณความเป็นเจ้าเมือง ส่วนนายอำเภอ ผมจะให้ไปดูหนังเรื่องนายอำเภอ Morgan ส่วนผมจะสวมวิญญาณ Gorge C Scott คือตำรวจตรวจแหลกมาร่วมกันทำงาน หมดยุครัฐมนตรีมหาดไทยต้องเป็นเจ้าขุนมูลนาย เมื่อไปต่างจังหวัด ผู้ว่าฯ ต้องมีภาระขนคนมารอรับ แต่ต้องร่วมกันทำงาน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ส่วนปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปัญหาภาคใต้จะเป็นวาระแห่งชาติไม่ได้ จะต้องเป็นเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ การที่จะกำหนดนโยบายในส่วนของกระทรวงมหาดไทยลงไปแก้เพียงอย่างเดียว เป็นเรื่องลำบาก ต้องมีการประสานกันหลายหน่วยงาน มีแผนยุทธศาสตร์แล้วต้องมียุทธวิธี คนปฏิบัติตามยุทธวิธีมี 3 ส่วน คือ ทหาร ฝ่ายปกครอง และที่สำคัญคือตำรวจ
“ผมมีแนวคิดว่า จะเชิญผู้ว่าฯ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายอำเภอ 4 อำเภอใน จ. สงขลา รวมถึง ผอ.ศอ.บต. และปลัดกระทรวงมหาดไทย มาพูดคุยในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ ในเวลา 13.30 น. ผมยังไม่อยากพูดอะไรมากในตอนนี้ อยากจะรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามหลักการบริหารราชการบ้านเมือง หลังจากนั้นจะเดินหน้าทำงานในทันที” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หลังการแถลงนโยบายรัฐบาลแล้ว จะเชิญผู้ว่าฯ ทั่วประเทศมาพบ เพราะไม่นิยมระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และส่วนตัวไม่มีนโยบายลงตรวจพื้นที่บ่อยๆ เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะเดือดร้อน ต้องเตรียมการเรื่องรักษาความปลอดภัยและบรรยายสรุป ในยุคนี้จะไม่มีการบรรยายสรุป แต่จะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการวางนโยบายเรื่องการจัดระเบียบสังคม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวย้ำว่า จะไม่เป็นมือปราบสายเดี่ยว แต่จะเป็นมือปราบมาเฟีย นักเลงตามภูมิภาค ตามสถานบันเทิง ผู้ว่าฯ และนายอำเภอต้องลงไปช่วยดูแลแก้ไข ที่สำคัญบ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย รวมทั้งปัญหายาเสพติด และทรัพยากรธรรมชาติ ที่ต้องดูแลอย่างจริงจัง
“ผมไม่มีนโยบายไปตรวจสถานบันเทิง เพราะเคยทำมาแล้ว ผมจะไม่เข้าไปยุ่งในลักษณะการไปยืนหน้าผับหน้าบาร์ แต่จะให้ปฏิบัติตามกฎหมาย งานหลักของผมจะเน้นในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด และเฉียบขาด โดยเอานโยบายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยทำไว้มาใช้อย่างต่อเนื่อง มีผู้รับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ต่อข้อถามว่า นโยบายปราบปรามยาเสพติดที่จะทำให้มีความชัดเจนภายใน 90 วัน จะมีการชี้วัดและให้คุณให้โทษต่อผู้ว่าฯ อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การให้โทษไม่มี มีแต่ให้คุณมากหรือน้อยกับผู้ว่าฯ เชื่อว่าผู้ว่าฯ คงรู้ แต่จะทำอย่างไรให้เป็นภารกิจหลัก เป็นระเบียบปฏิบัติประจำ ส่วนการปราบปรามจะมาคู่กับความรุนแรงหรือไม่นั้น เห็นว่าบางครั้งถ้าเบาก็ไม่ได้ เหมือนรถยนต์ เพราะถ้าเบาแล้วเครื่องจะดับ มันต้องเฉียบขาดทันเหตุการณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปฏิวัติรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อย่าไปพยากรณ์ ฝนไม่ตก อย่าเพิ่งกางร่ม ยังไม่นอนจะไปฝันได้อย่างไร ไม่ขอตอบเรื่องนี้