ผบก.น.7 คาด คดีแก๊ง ตชด.จะสอบสวนเสร็จภายใน 1 เดือน รอเก็บพยานวัตถุ หลังจากไม่ได้รับความร่วมมือจากพยานและผู้เสียหาย พร้อมส่งทีมตามล่าผู้ต้องหาที่เหลือ ด้านเจ้าของสวนทุเรียนร้องเพิ่ม ถูกลูกน้องผู้กองณัฎฐ์ กับ พ.ต.ท.หัวหน้าชุดปราบยาเสพติด จ.ชุมพร อุ้มยัดยา รีดเงิน
วันนี้ (6 ก.พ.) พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 กล่าวภายหลังเรียกประชุมพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีแก๊ง ตชด.ว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวน คืบหน้าไปมาก คาดว่า ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน จึงจะเสร็จสิ้น เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องการเก็บวัตถุพยานหลักฐานบางอย่าง เช่น อาวุธปืน ซึ่งไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรจากพยานและผู้เสียหายบางคน สำหรับในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือ ยังไม่มีการติดต่อเข้ามอบตัวโดยตรง มีแต่เพียงข่าวว่า ได้มีการติดต่อผู้ใหญ่ จะเข้ามาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวน ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด
“ในส่วนของ สน.บางพลัด ขณะนี้ ยังคงมีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์อยู่เป็นระยะ แต่ส่วนใหญ่ จะไม่ใช่เหตุเกิดในท้องที่ แต่เมื่อมีการเข้าร้องทุกข์ทางพนักงาน ก็จะต้องทำตามหน้าที่ไป อย่างไรก็ตามต้องขอเวลาอีกสักระยะ” ผบก.น.7 กล่าว
ต่อมาเวลา 12.30 น.นายโสภณ แก้วจินดา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/3 ม.9 อ.วิสัยใต้ จ.ชุมพร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เทพประทาน นิพิวรรณ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางพลัด เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำร้ายร่างกายก่อนยัดยาเสพติด เหตุเกิดในท้องที่ สภ.เมืองชุมพร
นายโสภณ กล่าวว่า ตนมีอาชีพเกษตรกร เป็นเจ้าของสวนทุเรียน และกาแฟใน อ.วิสัยใต้ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2550 ตนนำรถกระบะของตน ไปเช็กสภาพที่ศูนย์โตโยต้า อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะที่กำลังรอรับรถ มีชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน จำได้ว่า 1 ในกลุ่มทราบชื่อภายหลัง คือ พ.ต.ท.ปริญญา ตัญฑะสุวรรณ เป็นตำแหน่งหัวชุดปราบปรามยาเสพติด จ.ชุมพร ส่วนอีก 1 คือ ตำรวจยศสิบตำรวจ ซึ่งเป็นลูกน้องของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ โดยกลุ่มชายดังกล่าว ได้เข้ามาถามว่า รถไม่ได้ผ่อนมากี่เดือนแล้ว ก่อนจะจับตนใส่กุญแจมือไพล่หลัง นำขึ้นรถกระบะ อีซูซุสีดำ ไม่ทราบทะเบียน และนำเงินจากกระเป๋าของตนไปจำนวน 14,000 บาท ก่อนจะพาไปสถานที่แห่งหนึ่ง ไม่ทราบว่าที่ใด บังคับให้ตนรับสารภาพ ว่า มียาบ้าในครอบครองจำนวน 100 เม็ด นอกจากนี้ยังให้ชี้จุดเกิดเหตุ
นายโสภณ กล่าวว่า แม้จะถูกบังคับแต่ตนไม่ยอม กลุ่มของตำรวจชุดดังกล่าว จึงพาตนไปบ้านหลังหนึ่ง ใช้ถุงดำคลุมหัว ก่อนจะรุมทำร้ายร่างกายจนตนสลบไปหนึ่งวัน เมื่อตนทนไม่ไหว จึงต้องจำใจรับสารภาพ ก่อนที่กลุ่มของตำรวจดังกล่าวจะจับตนส่ง สภ.สวี จ.ชุมพร ตนพยายามจะอธิบายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวี ฟัง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมฟังตน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการ สืบพยาน
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.จรัญ พรหมคีรี พนักงานสอบสวน สภ.สวี จ.ชุมพร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่รับแจ้ง บอกเพียงว่าไปต่อสู้กันในชั้นศาล
ด้าน พ.ต.ท.เทพประทาน เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเบื้องต้น ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า หนึ่งในกลุ่มของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มของผู้กองณัฏฐ์ หรือไม่ แต่เมื่อมีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ก็จะต้องลงบันทึกไว้ก่อนจะแนะนำให้ไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุ