xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ส่งกฤษฎีกาตีความ “ตัดไข่” ผิดกฎหมายอาญา?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.สั่งสถานบริการทั่วประเทศ ระงับการ “ตัดไข่” เปลี่ยนเพศ มีผลวันที่ 2 เม.ย.นี้ จนกว่าแพทยสภาจะมีมติเรื่องจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพและจะติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งกฤษฎีกาตีความเข้าข่ายหมอทำผิดกฎหมายอาญาหรือไม่ เพราะทำให้เกิดความพิการไม่สามารถสืบทายาทได้ “หมอเทพ” ยันไม่ทำผิดกฎหมาย ลั่นถ้าเหตุสั่งห้ามตัดไข่ไม่สมเหตุสมผล เตรียมฟ้องศาลปกครอง

วันนี้ (1 เม.ย.) ที่กองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสุนนบริการสุขภาพ (สบส.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสถานพยาบาล กล่าวภายหลังการประชุมกรณีสถานพยาบาลหลายแห่งมีการให้บริการตัดอัณฑะ เพื่อหวังเปลี่ยนเพศ นานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า คณะกรรมการสถานพยาบาลมีมติให้กองการประกอบโรคศิลปะ ออกคำสั่งแจ้งให้สถานพยาบาลทั่วประเทศระงับการให้บริการตัดอัณฑะ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.นี้ สำหรับผู้ต้องการแปลงเพศ จนกว่าแพทยสภาจะมีมติเชิงจริยธรรม รวมทั้งก่อนหน้านี้ได้ส่งหนังสือไปยังแพทยสภาเพื่อพิจารณาว่า แพทย์ที่ให้บริการผ่าตัดอัณฑะเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณหรือไม่ด้วย นอกจากนี้ กองการประกอบโรคศิลปะจะทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาตีความในแง่มุมกฎหมาย ว่า แพทย์ที่ให้บริการผ่าตัดอัณฑะเป็นการกระทำผิดอาญาด้วยหรือไม่ เนื่องจากการผ่าตัดแม้จะได้รับการยินยอมแต่ก็ทำให้พิการและไม่สามารถสืบทายาทได้เป็นอันตรายสาหัส

“การออกกฎเพื่อควบคุมสถานพยาบาลให้ดำเนินการอย่างมีจริยธรรมและได้มาตรฐานจะต้องมีการสำรวจและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพราะจากกรณีดังกล่าว ถือเป็นการบริการที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีการให้บริการที่พิสดารแบบนี้ ต้องติดตามต่อไปว่าจะมีอะไรแปลกๆ เกิดในสังคมอีกหรือไม่ อย่างการตัดอัณฑะถือเป็นการทำโดยมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งในทางการแพทย์ แม้ว่าผู้รับบริการจะเต็มใจที่จะให้แพทย์ทำการกระทำใดๆ ต่อร่างกาย แต่ในทางการปฏิบัติก็ต้องใช้สามัญสำนึก ดูที่เหตุผลและข้อบ่งชี้ ทางการแพทย์ ว่าสมควรหรือไม่” นพ.พิพัฒน์ กล่าว

นพ.พิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า คำสั่งให้ระงับการบริการดังกล่าวถือว่ามีผลบังคับใช้ทันที หากภายหลังจากนี้ พบว่า สถานบริการยังให้บริการ จะเข้าข่ายความผิด ม.49 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานมีโทษ ตาม ม.50 สั่งปิดสถานพยาบาลชั่วคราว หรือ ม.51 เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลจนกว่าแพทยสภาจะมีมติในเรื่องจริยธรรมในการดำเนินการทางการแพทย์ รวมทั้งมติจากคณะกรรมการสถานพยาบาลอีกครั้ง

นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ได้ทำหนังสือไปยัง นพ.เทพ เวชวิสิฐ เจ้าของคลินิกประตูน้ำการแพทย์ ให้ส่งเอกสารหลักฐานเวชระเบียนทั้งหมด ที่เริ่มให้บริการผ่าตัดอัณฑะซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีผู้ผ่านการผ่าตัด 300 คน และ นพ.เทพ ได้ให้สัมภาษณ์ทางสื่อ ว่า มีการผ่าตัดอัณฑะไปแล้ว 500 รายนั้น กลายเป็นหลักฐานมัด นพ.เทพ กองการประกอบโรคศิลปะสามารถที่จะเรียกข้อมูลเพื่อตรวจสอบได้ โดยใช้อำนาจตามกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องจัดให้มีรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2548 ซึ่งออกตามมาตรา 35(3) พ.ร.บ.สถานพยาบาล ซึ่งเวชระเบียนที่ได้ก็นำมาใช้เพื่อพิจารณามาตรฐานวิชาชีพ ไม่มีการนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุอ้างที่จะไม่จัดส่งเอกสารตามที่ร้องขอ หรือจะใช้เป็นช่องทางฟ้องร้องในภายหลังได้

นพ.ธารา กล่าวอีกว่า ได้มีการยึดเวชระเบียนผู้ที่เข้ารับการตัดอัณฑะ ที่คลินิกประตูน้ำการแพทย์ 1 ราย ซึ่งเป็นชายวัย 26 ปี นั้น จะนำมาเป็นกรณีตัวอย่างต่อไป ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือไปยังแพทยสภาให้พิจารณาว่าการผ่าตัดอัณฑะเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามหลักวิชาการทางการแพทย์ และจริยธรรมหรือไม่แต่หาก นพ.เทพมีการยื่นอุทธรณ์ขยายเวลาเป็น 15 วัน ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการจริยธรรมของแพทยสภาจะประชุมถึงกรณีดังกล่าวในวันที่ 3 เมษายนนี้

“ขณะนี้ยังไม่พบสถานบริการที่มีการกระทำผิดเพิ่มเติม แม้จะได้เบาะแสก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เนื่องจากไม่มีหลักฐานการกระทำผิด และไม่ใครยอมรับผิด ในส่วนของนพ.เทพ เป็นผู้ยอมรับเองว่า ได้ผ่าตัดอัณฑะจริง ดังนั้นคงไม่ใช่การปฏิบัติ 2 มาตรฐาน เพราะกองการประกอบโรคศิลปะ มีการตรวจในสถานบริการแต่ละแห่งด้วยเหมือกันแต่ไม่พบ ดังนั้น ใครที่มีข้อมูลสามารถแจ้งมาได้ที่กองการประกอบโรคศิลปะ หมายเลข 025901331” นพ.ธารา กล่าว

ด้าน นพ.เทพ เวชวิสิฐ เจ้าของประตูน้ำการแพทย์ กล่าวว่า สบส.ไม่ควรใช้อำนาจตามอำเภอใจ ในการที่จะเรียกดูข้อมูลเวชระเบียนคนไข้ที่เข้ารับการผ่าตัด ควรทำตามระเบียบ โดยยืดเวลาออกไปเป็น 15 วัน ส่วนการจะระงับไม่ให้มีการผ่าตัดอัณฑะนั้น ขอให้คิดดูให้ดี มีหลายๆ ครั้งที่ สั่งระงับการปฏิบัติของแพทย์ และก็กลับมาใช้อีก อย่างไรก็ตาม หากมีมติออกมาคงต้องคงต้องรอดูว่า มติมีรายละเอียดอย่างไร ถ้าสมเหตุสมผลก็ไม่ฟ้องร้องหรือดำเนินการใดๆ แต่ถ้าไม่สมเหตุสมผล เตรียมฟ้องศาลปกครองแน่นอน

“จะรีบไปถึงไหน ขอให้ทำตามระเบียบไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือตามใจสื่อมวลชน ผมไม่เบี้ยวแน่นอน แต่ขอเวลา เห็นใจผมบ้าง ผมมีงานต้องทำอีกมากมาย แต่ถ้าอยากได้เร็วให้ส่งคนมาได้เลย ซึ่งการที่ผมประกาศออกว่า ผ่าตัดอัณฑะคนไข้ไปแล้ว หลายรายนั้น ก็ไม่รู้สึกกลัว มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด และจนถึงวันนี้ก็มีคนมาเข้าคิวขอผ่าตัด มันก็เหมือนกับการแปลงเพศไม่เห็นจะเป็นอะไร”
กำลังโหลดความคิดเห็น