“ไชยา” ปฐมนิเทศแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ ก่อนส่งทำงานในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เผยทั่วประเทศยังขาดแพทย์ ทันตแพทย์กว่า 6,000 คน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้รับจัดสรรเพิ่ม 67 คน และมอบสิทธิพิเศษขึ้นซีจาก ซี 4 เป็นซี 6 ทันทีเมื่ออยู่ครบ 2 ปี ลาเรียนต่อเฉพาะทางในสาขาขาดแคลนหลังใช้ทุนแค่ 1 ปี พร้อมขอคืนอัตราเกษียณ 100%
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่โรงแรมสีดารีสอร์ต จ.นครนายก นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการอมรมปฐมนิเทศและให้โอวาทแพทย์และทันตแพทย์จบใหม่ ที่ปฏิบัติงานชดใช้ทุนในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 1,466 คน ประกอบด้วย แพทย์ 1,116 คน และทันตแพทย์ 350 คน เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรใหม่ให้รู้ภาระหน้าที่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องและความรับผิดชอบ ในการปฏิบัติงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติงานในพื้นที่ภายในวันที่ 15 เมษายน 2551 นี้
นายไชยา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขประสบปัญหาขาดแคลนแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลเป็นอย่างมาก ทุกคนทำงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว วันหยุดเทศกาลสำคัญก็ไม่เคยได้หยุดพักผ่อนเหมือนสายงานอื่น เพราะต้องอยู่เวรดูแลผู้เจ็บป่วย โดยจากการประเมินอัตรากำลังทั่วประเทศ ในปี 2550 มีความต้องการแพทย์ 12,677 คน มีแล้ว 10,142 คน ยังขาดอีก 2,535 คน ทันตแพทย์ ต้องการ 6,639 คน มีแล้ว 2,767 คน ขาดอีก 3,872 คน เภสัชกร ต้องการ 6,294 คน มีแล้ว 4,870 คน ขาดอีก 1,424 คน
โดยเฉพาะที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ต้องการแพทย์ 402 คน มีแพทย์ทำงานจริง 334 คน ขาดแพทย์อีก 68 คน ส่วนทันตแพทย์ต้องการ 211 คน มีทำงานจริง 91 คน ยังขาด 120 คน
ในการกระจายแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้แพทย์เลือกลงพื้นที่ตามความสมัครใจ หากเกินโควตาที่กำหนดจะใช้วิธีการจับสลาก ทั้งนี้ ได้ให้แพทย์รุ่นพี่ที่อยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้ร่วมชี้แจงถึงการทำงานและความปลอดภัยในพื้นที่ เพื่อให้แพทย์จบใหม่เลือกลงไปปฏิบัติงานด้วยความสบายใจ เฉพาะที่ 3 จังหวัดใต้ ได้จัดโควตาแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ให้รวม 67 คน ดังนี้ ปัตตานี แพทย์ 12 คน ทันตแพทย์ 5 คน นราธิวาส แพทย์ 18 คน ทันตแพทย์ 4 คน และยะลา แพทย์ 25 คน ทันตแพทย์ 3 คน ทุกคนจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป
นายไชยา กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ ขณะนี้มีผู้สมัครเรียนแพทย์น้อยลง เนื่องจากกลัวถูกฟ้องร้องจากการปฏิบัติงานดูแลรักษาผู้ป่วย ได้หารือกับแพทยสภาในเรื่องข้อกฎหมาย หลังจากที่แพทย์ถูกฟ้องร้อง โดยจะให้พิจารณาเป็นเพียงคดีแพ่งไม่มีคดีอาญาเพื่อให้เรื่องจบเร็วขึ้น และขอคืนตำแหน่งเกษียณจาก ก.พ.ซึ่งในปี 2551 จะมีบุคลากรสาธารณสุขเกษียณราชการ 659 คน ก็จะขอคืนทั้งหมด เพื่อบรรจุคนใหม่ทดแทน ที่ผ่านมาเกษียณไป 100 คน แต่ได้คนใหม่แทนเพียง 25 คน เนื่องจากงานรักษาพยาบาลผู้ป่วยเป็นงานพิเศษ เกี่ยวข้องความเป็นความตายของคน ต้องใช้คนทำเท่านั้น ไม่สามารถใช้เครื่องมือทำแทนได้
สำหรับแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ ที่ต้องการไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ได้ให้ผู้บริหารช่วยดูแลความปลอดภัยและสวัสดิการบ้านพัก กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดหาบริษัททำประกันภัย สร้างหลักประกันความมั่นใจแก่บุคลากรและครอบครัว และจัดสิทธิพิเศษเป็นขวัญกำลังใจสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ 2 เท่าตัว โดยนับระยะเวลาการทำงานเป็นทวีคูณ เพื่อใช้ในการเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าพื้นที่ปกติ เช่น ทำงานเพียง 2 ปี จะได้รับการเลื่อนระดับจาก ซี 4 เป็นซี 6 ในขณะที่พื้นที่อื่นจะได้เพียงซี 5 และหากปฏิบัติงานครบ 1 ปีแล้ว จะได้สิทธิ์ 2 ประการคือ สามารถเลือกโรงพยาบาลชุมชนเพื่อทำงานใช้ทุนในปีที่ 2–3 ข้ามจังหวัดได้เป็นกรณีพิเศษ และลาเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทางในสาขาขาดแคลน เช่น จิตเวชและศัลยกรรม และเมื่อทำงานใช้ทุนครบ 2 ปี สามารถลาเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางนอกเหนือจากนี้ได้ สำหรับแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ในปีนี้ที่ทำงานในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสียสละเป็นอย่างมาก
“ที่ผ่านมา มีแพทย์ใน 3 จังหวัดที่ทำงานครบ 1-2 ปี ก็ยังไม่ขอออกจากพื้นที่ เนื่องจากต้องการหาประสบการณ์ และอยู่จนครบ 3 ปีเช่นเดียวกับพื้นที่ปกติ แสดงว่ายังมีความมั่นใจต่อการทำงานในพื้นที่นี้อยู่ โดยช่วงก่อนสงกรานต์ ผมและปลัดกระทรวงฯ จะลงไปเยี่ยมบุคลากรสาธารณสุขใน 3 จังหวัดนี้” นายไชยา กล่าว
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่โรงแรมสีดารีสอร์ต จ.นครนายก นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการอมรมปฐมนิเทศและให้โอวาทแพทย์และทันตแพทย์จบใหม่ ที่ปฏิบัติงานชดใช้ทุนในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 1,466 คน ประกอบด้วย แพทย์ 1,116 คน และทันตแพทย์ 350 คน เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรใหม่ให้รู้ภาระหน้าที่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องและความรับผิดชอบ ในการปฏิบัติงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติงานในพื้นที่ภายในวันที่ 15 เมษายน 2551 นี้
นายไชยา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขประสบปัญหาขาดแคลนแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลเป็นอย่างมาก ทุกคนทำงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว วันหยุดเทศกาลสำคัญก็ไม่เคยได้หยุดพักผ่อนเหมือนสายงานอื่น เพราะต้องอยู่เวรดูแลผู้เจ็บป่วย โดยจากการประเมินอัตรากำลังทั่วประเทศ ในปี 2550 มีความต้องการแพทย์ 12,677 คน มีแล้ว 10,142 คน ยังขาดอีก 2,535 คน ทันตแพทย์ ต้องการ 6,639 คน มีแล้ว 2,767 คน ขาดอีก 3,872 คน เภสัชกร ต้องการ 6,294 คน มีแล้ว 4,870 คน ขาดอีก 1,424 คน
โดยเฉพาะที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ต้องการแพทย์ 402 คน มีแพทย์ทำงานจริง 334 คน ขาดแพทย์อีก 68 คน ส่วนทันตแพทย์ต้องการ 211 คน มีทำงานจริง 91 คน ยังขาด 120 คน
ในการกระจายแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้แพทย์เลือกลงพื้นที่ตามความสมัครใจ หากเกินโควตาที่กำหนดจะใช้วิธีการจับสลาก ทั้งนี้ ได้ให้แพทย์รุ่นพี่ที่อยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้ร่วมชี้แจงถึงการทำงานและความปลอดภัยในพื้นที่ เพื่อให้แพทย์จบใหม่เลือกลงไปปฏิบัติงานด้วยความสบายใจ เฉพาะที่ 3 จังหวัดใต้ ได้จัดโควตาแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ให้รวม 67 คน ดังนี้ ปัตตานี แพทย์ 12 คน ทันตแพทย์ 5 คน นราธิวาส แพทย์ 18 คน ทันตแพทย์ 4 คน และยะลา แพทย์ 25 คน ทันตแพทย์ 3 คน ทุกคนจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป
นายไชยา กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ ขณะนี้มีผู้สมัครเรียนแพทย์น้อยลง เนื่องจากกลัวถูกฟ้องร้องจากการปฏิบัติงานดูแลรักษาผู้ป่วย ได้หารือกับแพทยสภาในเรื่องข้อกฎหมาย หลังจากที่แพทย์ถูกฟ้องร้อง โดยจะให้พิจารณาเป็นเพียงคดีแพ่งไม่มีคดีอาญาเพื่อให้เรื่องจบเร็วขึ้น และขอคืนตำแหน่งเกษียณจาก ก.พ.ซึ่งในปี 2551 จะมีบุคลากรสาธารณสุขเกษียณราชการ 659 คน ก็จะขอคืนทั้งหมด เพื่อบรรจุคนใหม่ทดแทน ที่ผ่านมาเกษียณไป 100 คน แต่ได้คนใหม่แทนเพียง 25 คน เนื่องจากงานรักษาพยาบาลผู้ป่วยเป็นงานพิเศษ เกี่ยวข้องความเป็นความตายของคน ต้องใช้คนทำเท่านั้น ไม่สามารถใช้เครื่องมือทำแทนได้
สำหรับแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ ที่ต้องการไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ได้ให้ผู้บริหารช่วยดูแลความปลอดภัยและสวัสดิการบ้านพัก กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดหาบริษัททำประกันภัย สร้างหลักประกันความมั่นใจแก่บุคลากรและครอบครัว และจัดสิทธิพิเศษเป็นขวัญกำลังใจสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ 2 เท่าตัว โดยนับระยะเวลาการทำงานเป็นทวีคูณ เพื่อใช้ในการเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าพื้นที่ปกติ เช่น ทำงานเพียง 2 ปี จะได้รับการเลื่อนระดับจาก ซี 4 เป็นซี 6 ในขณะที่พื้นที่อื่นจะได้เพียงซี 5 และหากปฏิบัติงานครบ 1 ปีแล้ว จะได้สิทธิ์ 2 ประการคือ สามารถเลือกโรงพยาบาลชุมชนเพื่อทำงานใช้ทุนในปีที่ 2–3 ข้ามจังหวัดได้เป็นกรณีพิเศษ และลาเรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทางในสาขาขาดแคลน เช่น จิตเวชและศัลยกรรม และเมื่อทำงานใช้ทุนครบ 2 ปี สามารถลาเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางนอกเหนือจากนี้ได้ สำหรับแพทย์ ทันตแพทย์จบใหม่ในปีนี้ที่ทำงานในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสียสละเป็นอย่างมาก
“ที่ผ่านมา มีแพทย์ใน 3 จังหวัดที่ทำงานครบ 1-2 ปี ก็ยังไม่ขอออกจากพื้นที่ เนื่องจากต้องการหาประสบการณ์ และอยู่จนครบ 3 ปีเช่นเดียวกับพื้นที่ปกติ แสดงว่ายังมีความมั่นใจต่อการทำงานในพื้นที่นี้อยู่ โดยช่วงก่อนสงกรานต์ ผมและปลัดกระทรวงฯ จะลงไปเยี่ยมบุคลากรสาธารณสุขใน 3 จังหวัดนี้” นายไชยา กล่าว
