กทม.จัดงานสงกรานต์ 12-13 เม.ย.เน้นความเรียบง่าย ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขณะเดียวกัน เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ ประสานทุกหน่วยงานตรวจความพร้อมผู้ขับขี่รถโดยสาร รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ตั้งด่านตรวจ 7 เม.ย.นี้
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รักษาการ ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า คณะผู้บริหารมีความห่วงใยสวัสดิภาพของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้หารือเรื่องการเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.2551 โดยกำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการป้องกันอุบัติเหตุและมาตรการรักษาความปลอดภัยอุบัติเหตุ และมาตรการความปลอดภัย โดยมาตรการเพื่อเข้าถึงประชาชนมี 2 แนวทาง มาตรการแรก คือ การป้องกันอุบัติเหตุสำหรับประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่ กทม.โดยจะส่งหน่วยออกหน่วยดูแลประชาชนตามสถานีขนส่งต่างๆ เช่น สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) สถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งเอกมัย เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนโดยจะมีการตรวจตราบุคคลต้องสงสัย การตรวจตราสัมภาระต่างๆ การอำนวยความปลอดภัยในการเข้าออกพื้นที่สถานีขนส่ง นอกจากนี้จะมีการตั้งด่านตรวจตามจุดต่างๆร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจความพร้อมของคนขับรถโดยสารประจำทาง การตรวจความพร้อมของรถโดยสาร เป็นต้น ซึ่งจะมีการตั้งด่วนตรวจอย่างช้าวันที่ 7 เม.ย.นี้
ส่วนมาตรการที่สอง คือ การดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ เรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มีการหยิกยกตัวเลขของการเกิดอุบัติเหตุมาวิเคราะห์ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร โดยได้กำชับให้ ผอ.เขต สถานีดับเพลิงท้องที่เข้าดูแลโดยเฉพาะจุดเสี่ยง เช่น ทางโค้งอันตราย เฝ้าระวังทางตรงในช่วงกลางวัน-ช่วงเย็น เพราะเป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด รวมถึงการตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ การตั้งจุดตรวจร่วมระหว่างตำรวจ เทศกิจ สปภ.และ อปพร.เพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อม ทั้งสัญญาณไฟจราจร พื้นผิวถนน ป้ายเตือนต่างๆ การรณรงค์ผ่านสื่อทุกช่องทาง เช่น ป้ายจราจรอัจฉริยะ สำหรับการเตรียมการด้านเจ้าหน้าที่จะมีการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ สปภ.ให้เข้มงวดในการเตรียมการด้านความปลอดภัยประชาชนอย่างเต็มที่ อีกทั้งได้ให้สำนักงานเขตทุกเขตสำรวจว่าในพื้นที่ต่างๆ มีจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือความไม่ปลอดภัย หากมีให้เตรียมการมาตรการป้องกันให้พร้อม
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ในส่วนการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์นั้นขอให้เป็นการแสดงความเคารพต่อญาติผู้ใหญ่ เป็นการอวยพระมากกว่า ไม่ใช่สาดน้ำใส่กับผู้ขับขี่ยานพาหนะต่างๆเพราจะทำให้ได้รับอันตราย ประสบอุบัติเหตุได้ง่ายรวมถึงการสาดน้ำเข้าไปบนรถเมล์เพราะบางคนต้องไปธุระแต่เสื้อผ้ากับมาเปียกเสียก่อน ทั้งนี้จะประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้เข้มงวดในเรื่องนี้ รวมถึงให้เจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลด้วย
ด้านนายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกทม. กล่าวว่า สำหรับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์นั้น ในส่วนของกทม.กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.ซึ่งจะจัดอย่างเรียบง่ายถึงแม้จะพ้นกำหนดถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วก็ตาม โดยเบื้องต้นจัดให้มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ณ บริเวณลานคนเมือง ส่วนกิจกรรมอื่นๆ จะได้พิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้ง สวนในเขตต่างๆ ให้พิจารณาจัดได้ตามความเหมาะสม
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รักษาการ ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า คณะผู้บริหารมีความห่วงใยสวัสดิภาพของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้หารือเรื่องการเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.2551 โดยกำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการป้องกันอุบัติเหตุและมาตรการรักษาความปลอดภัยอุบัติเหตุ และมาตรการความปลอดภัย โดยมาตรการเพื่อเข้าถึงประชาชนมี 2 แนวทาง มาตรการแรก คือ การป้องกันอุบัติเหตุสำหรับประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่ กทม.โดยจะส่งหน่วยออกหน่วยดูแลประชาชนตามสถานีขนส่งต่างๆ เช่น สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) สถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งเอกมัย เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนโดยจะมีการตรวจตราบุคคลต้องสงสัย การตรวจตราสัมภาระต่างๆ การอำนวยความปลอดภัยในการเข้าออกพื้นที่สถานีขนส่ง นอกจากนี้จะมีการตั้งด่านตรวจตามจุดต่างๆร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจความพร้อมของคนขับรถโดยสารประจำทาง การตรวจความพร้อมของรถโดยสาร เป็นต้น ซึ่งจะมีการตั้งด่วนตรวจอย่างช้าวันที่ 7 เม.ย.นี้
ส่วนมาตรการที่สอง คือ การดูแลประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ เรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มีการหยิกยกตัวเลขของการเกิดอุบัติเหตุมาวิเคราะห์ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร โดยได้กำชับให้ ผอ.เขต สถานีดับเพลิงท้องที่เข้าดูแลโดยเฉพาะจุดเสี่ยง เช่น ทางโค้งอันตราย เฝ้าระวังทางตรงในช่วงกลางวัน-ช่วงเย็น เพราะเป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด รวมถึงการตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ การตั้งจุดตรวจร่วมระหว่างตำรวจ เทศกิจ สปภ.และ อปพร.เพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อม ทั้งสัญญาณไฟจราจร พื้นผิวถนน ป้ายเตือนต่างๆ การรณรงค์ผ่านสื่อทุกช่องทาง เช่น ป้ายจราจรอัจฉริยะ สำหรับการเตรียมการด้านเจ้าหน้าที่จะมีการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ สปภ.ให้เข้มงวดในการเตรียมการด้านความปลอดภัยประชาชนอย่างเต็มที่ อีกทั้งได้ให้สำนักงานเขตทุกเขตสำรวจว่าในพื้นที่ต่างๆ มีจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือความไม่ปลอดภัย หากมีให้เตรียมการมาตรการป้องกันให้พร้อม
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ในส่วนการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์นั้นขอให้เป็นการแสดงความเคารพต่อญาติผู้ใหญ่ เป็นการอวยพระมากกว่า ไม่ใช่สาดน้ำใส่กับผู้ขับขี่ยานพาหนะต่างๆเพราจะทำให้ได้รับอันตราย ประสบอุบัติเหตุได้ง่ายรวมถึงการสาดน้ำเข้าไปบนรถเมล์เพราะบางคนต้องไปธุระแต่เสื้อผ้ากับมาเปียกเสียก่อน ทั้งนี้จะประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้เข้มงวดในเรื่องนี้ รวมถึงให้เจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลด้วย
ด้านนายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกทม. กล่าวว่า สำหรับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์นั้น ในส่วนของกทม.กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.ซึ่งจะจัดอย่างเรียบง่ายถึงแม้จะพ้นกำหนดถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วก็ตาม โดยเบื้องต้นจัดให้มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ณ บริเวณลานคนเมือง ส่วนกิจกรรมอื่นๆ จะได้พิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้ง สวนในเขตต่างๆ ให้พิจารณาจัดได้ตามความเหมาะสม