เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ลีเมียงบัค แห่งเกาหลีใต้ วันนี้ (7) ปลด 3 รัฐมนตรี ในความพยายามยุติการประท้วงครั้งใหญ่ต่อต้านนำเข้าเนื้อวัวของสหรัฐฯ ที่กำลังเขย่าสเถียรภาพรัฐบาลของเขา
ลีเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกสิกรรม รัฐมนตรีสาธารณสุขและรัฐมนตรีศึกษาธิการ ลี ดอง กวาน โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีกล่าว “การปรับคณะรัฐมนตรีมีเป้าหมาย คือ เริ่มต้นใหม่ในความพยายามเอาชนะอุปสรรคทั้งภายในและต่างประเทศ” โฆษกอ้างถึงราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้น จนรัฐบาลต้องออกมาตรการลดขับขี่เพื่อประหยัดพลังงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรี ฮัน ซุง ซู ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพื่อรักษาเสถียรภาพ และให้โอกาสเขาอีกครั้ง
รัฐมนตรีทั้งคณะและผู้ช่วยระดับสูงของลียื่นข้อเสนอลาออกเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความโกลาหลเกี่ยวกับการนำเข้าเนื้อวัว ซึ่งเป็นหลุมพรางเล่นงานรัฐบาลใหม่หัวอนุรักษ์นิยมอย่างไม่คาดคิด
การตัดสินใจของรัฐบาลในเดือนเมษายนที่อนุมัตินำเข้าเนื้อจากสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังระงับไปเมื่อปี 2003 ภายหลังปัญหาเชื้อวัวบ้าระบาดในสหรัฐฯ จุดประกายการประท้วงบนท้องถนนต่อเนื่องหลายสัปดาห์เกี่ยวกับความกังวลด้านสุขภาพ
ลีที่คะแนนนิยมตกต่ำลงเรื่อยๆ แม้จะได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในเดือนธันวาคม ได้โยกย้ายปรับเปลี่ยนผู้ช่วยระดับสูงทุกคนเมื่อเดือนที่ผ่านมา
รัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้บินด่วนไปยังวอชิงตัน ขอมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพพิเศษภายใต้ข้อตกลงนำเข้าเนื้อวัว ก่อนจะมีการนำเข้าอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา
ตำรวจ คาดคะเนว่า มีประชาชนราว 50,000 ราย ร่วมชุมนุมในกรุงโซลเมื่อวันเสาร์ (5) เพื่อเรียกร้องยกเลิกการนำเข้าและขอให้ประธานาธิบดีลี ลาออกจากตำแหน่ง แต่ทางกลุ่มศาสนาคริสต์และพุทธ ซึ่งเข้าร่วมประท้วงไม่นานมานี้ แถลงในช่วงสุดสัปดาห์ว่าพวกเขายุติการเคลื่อนไหวแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า พวกเขาอาจใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงที่ปิดกั้นถนน ส่วน ลีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีออกอากาศวันนี้ว่า การชุมนุมทำลายภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศ เขายอมรับข้อบกพร่องในการรับมือกับประเด็นดังกล่าวแต่บอกว่าผู้ประท้วงบางส่วนมีแรงดลใจทางการเมือง
ลีเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมและให้ความสนใจไปที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาติผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ของโลกและรับมือปัญหาราคาน้ำมันแพงที่ผลักให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
อาห์นเบียงมาน ที่ปรึกษาด้านแผนงานภาครัฐของประธานาธิบดี ได้รับเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีศึกษาธิการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แทน คิม โดห์ เยือน
ส่วน แจงเตเปียง อดีตหัวหน้าคณะปราบปรามคอร์รัปชันของรัฐ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอาหาร กสิกรรม ป่าไม้ และประมง แทนชุงวูนชาน ขณะที่เจือนเจฮี ส.ส.หญิงของพรรครัฐบาลแกรนด์เนชันแนลปาร์ตี ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข สวัสดิการ และกิจการครอบครัวแทนคิมซุงยี
อย่างไรก็ตาม ปาร์คเมียงโฮ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การเมืองของมหาวิทยาลัยดงกุกของโซล ชี้ว่า ยังไม่แน่ชัดว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้จะได้ผลหรือไม่ “การปรับคณะรัฐมนตรี เป็นไพ่สำคัญใบสุดท้ายที่หวังผลดับไฟบนท้องถนน ช่วงเวลาคือสิ่งสำคัญแต่ดูเหมือนมันจะสายเกินไป”