xs
xsm
sm
md
lg

มีความหวัง! แพทย์ชี้ “คนไข้มะเร็ง” เปลี่ยนตับได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพทย์ชี้ คนไข้มะเร็งเปลี่ยนตับได้ แต่ต้องเป็นโรคระยะแรก ที่ยังไม่ลุกลาม ระบุ การเปลี่ยนตับให้ผู้อื่นนั้น จะเทียบเพียงกรุ๊ปเลือดเท่านั้น ซึ่งต่างจากการเปลี่ยนไต ที่ต้องเปรียบเทียบเนื้อเยื่อ

นพ.สุทัศน์ ศรีพจนารถ อาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงกรณีแฟนเพลงของ ยอดรัก สลักใจ จะบริจาคตับให้นักร้องคนดังเพื่อช่วยให้พ้นจากโรคมะเร็งนั้น ว่า การเปลี่ยนตับเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สามารถทำได้มาประมาณ 20 ปี แล้ว ส่วนใหญ่การผ่าตัดเปลี่ยนตับนั้น จะทำในคนไข้โรคตับแข็งระยะสุดท้าย ที่ตับไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเกิดการตับวายจากไวรัส หรือการกินยาเกินขนาด และสามารถเปลี่ยนตับในเด็กที่ท่อทางเดินน้ำดีตีบตันตั้งแต่กำเนิดได้ ซึ่งผู้ป่วยมะเร็งก็สามารถเปลี่ยนตับได้เช่นกัน

“ส่วนใหญ่จะใช้การเปลี่ยนตับในคนไข้มะเร็งตับ เฉพาะระยะแรกที่โรคยังไม่ลุกลามขนาดของก้อนเนื้อไม่เกิน 5 เซนติเมตร หรือมีขนาด 3 เซ็นติเมตร ไม่เกิน 3 ก้อน การเปลี่ยนตับให้คนไข้ในระยะนี้จะมีอัตราการมีชีวิตประมาณ 65-70% ในช่วงเวลา 5 ปี แต่หากเป็นมะเร็งระยะลุกลาม หรือมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ การผ่าตัดเปลี่ยนตับจะไม่ได้ผลดี เพราะเชื้อมะเร็งจะกลับมาเป็นได้อีก” ศ.นพ.สุทัศน์ กล่าว

ศ.นพ.สุทัศน์ กล่าวต่อว่า “ตับ” จะเป็นอวัยวะที่มีชิ้นเดียวในร่างกาย แต่สามารถงอกใหม่ 80-90% ในช่วงเวลา 4-5 เดือน ทำให้คนที่ยังมีชีวิตสามารถบริจาคตับให้กับผู้อื่นได้ แต่ขณะนี้ทำได้เฉพาะบริจาคให้แก่ญาติพี่น้อง เพราะกฎหมายยังไม่รองรับ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดการซื้อขายอวัยวะได้ ซึ่งการผ่าตัดตับบางส่วนให้ผู้อื่นนั้น เป็นวิธีที่ทำยากกว่าใช้อวัยวะจากผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้ว เพราะต้องวิเคราะห์เส้นเลือด ท่อน้ำดี ว่า เมื่อตัดออกแล้วจะเป็นอย่างไร โดยแพทย์จะทำการแบ่งตับไปให้ผู้ป่วยประมาณ 50-60% เพื่อให้ตับสามารถทำงานและงอกใหม่ได้ แต่หากเป็นเด็กจะให้ตับประมาณ 1 ใน 5 เท่านั้น

ศ.นพ.สุทัศน์ กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนตับให้ผู้อื่นนั้น จะเทียบเพียงกรุ๊ปเลือดเท่านั้น ซึ่งต่างจากการเปลี่ยนไต ที่ต้องเปรียบเทียบเนื้อเยื่อ (HLA) ให้ตรงกัน และต้องมีการต่อต้านต่ำ แต่การเปลี่ยนไตต้องวิเคราะห์ในเรื่องของเส้นเลือด ท่อน้ำดี มากกว่า แต่หากใช้อวัยวะจากผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิตแล้ว จะทำได้ง่ายเพราะสามารถนำตับมาใส่ได้ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น