“ไชยา” ไม่หวั่นหากปรับ ครม.ลั่นไม่ยึดติดตำแหน่ง

“ไชยา” ลั่นไม่ยึดติดตำแหน่งการเมือง หากมีการปรับ ครม.1 เดือนกว่า สธ.สนุกดี มีปัญหาให้แก้อีกมาก คน สธ.เริ่มเข้าใจมากขึ้น ส่วนซีแอลเตรียมหารือ 3 กระทรวง หลังประชุม ครม.พรุ่งนี้

นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ.กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ซึ่งมีรายชื่อ นายไชยา อยู่ในโผด้วยว่า ถ้ามีการปรับครม.ก็ดี ตนไม่ได้ยึดติด คนเป็นนักการเมือง ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะนั่งดำรงตำแหน่งไหน ซึ่งการทำงานในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดือน 1 กว่าที่ผ่านมาก็สนุกดี หลังจากลงพื้นที่ ได้เห็นสภาพความเป็นจริง ก็พบว่า มีหลายๆ เรื่องที่ต้องแก้ไข ซึ่งขณะนี้ความขัดแย้งหลายๆ เรื่องในกระทรวงถือว่าเริ่มมีความเขาใจตนเองมากขึ้น

นายไชยา กล่าวถึงกรณีมีการทบทวนมาตรการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรด้วยว่า ตนบอกแล้วว่าไม่ได้ยกเลิกซีแอล แต่ทำให้เกิดความรอบคอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ แต่ตอนนี้จบแล้ว ทำให้ทุกฝ่ายตอบคำถามสังคมได้ โดยในวันพรุ่งนี้หลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อาจจะมีการหารือร่วมกัน 3 กระทรวง ทั้ง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในส่วนการนำเข้ายาที่ทำซีแอล ได้สั่งการ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.ไปแล้วให้เร่งองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในการนำเข้ายาโดยเร็ว

ต่อข้อถามถึงการล่าราชื่อถอดถอนนั้น นายไชยา กล่าวว่า เรื่องการถอดถอนถ้าตนอยู่เฉย นั่งเซ็นเอกสารคงไม่มีใครมาหาเรื่อง ทำให้คนอื่นมาว่าเข้ามาสร้างปัญหา ทั้งๆ ที่ตนมีความบริสุทธิ์ใจในการแก้ไขปัญหา ให้ถูกต้องรอบคอบ ที่มีการล่ารายชื่อถอดถอนกันเคยส่งคนมาคุยหรือพูดจาหรือไม่ มีแต่ยกทัพจับศึก

“เขาสามารถเข้าชื่อถอดถอนนักการเมืองได้อยู่แล้ว เขามีระเบียบอยู่ แต่ถามว่าผมผิดระเบียบตรงไหน อย่างนั้น ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ ผมไม่รู้สึกกดดัน ไม่สนใจ”นายไชยา กล่าว

ต่อข้อถามถึงการเสนอให้มีการแก้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะมาตรา 30 ซึ่งเกี่ยวกับการลด แลก แจก แถม นั้น นายไชยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูลที่นายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่หากนายกรัฐมนตรีตรึกตรองดีอยู่แล้ว เมื่อมีปัญหามาก็ต้องมาพิจารณาแก้ไข ตนในฐานะ รมว.สธ.ก็จะทำหน้าที่ชี้แนะ เสนอแนะให้ข้อมูล หรือดำเนินการตามนโยบาย ซึ่งตรงนี้คงต้องเรียกบริษัทเข้ามาหารือ ไม่เคยคิดจะแกล้งใครเลย

ทั้งนี้ ในวันที่ 27 มีนาคม จะมีการประชุมระดมแนวทางความคิดเห็นด้านการบริการ ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยเชิญสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลชุมชน