กทม.ร่วมสร้างเครือข่ายพัฒนาพลังงานทดแทน-หมุนเวียนในการประชุม WIREC พร้อมพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีพลังงานควบคู่กัน และเตรียมนำประสบการณ์ประเทศต่างๆ ปรับใช้ในการวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทน ตลอดจนเร่งหารือเปลี่ยนพลังงานลมเป็นไฟฟ้าในกรุงเทพฯ
(กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ประเทศสหรัฐอเมริกา) 6 มี.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น :นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุม Washington International Renewable Energy Conference (WIREC 2008) ว่า จากการร่วมประชุมเกี่ยวกับพลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก หรือพลังงานหมุนเวียนตลอดระยะเวลา 3 วัน คือ ระหว่างวันที่ 4-6 นั้น ได้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานทางเลือกมากมาย ทั้งประเทศที่ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาพลังงานทดแทน และประเทศที่กำลังพัฒนาพลังงานทดแทน โดยผลการประชุมหลักๆ เป็นเรื่องของการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและระหว่างเมือง โดยเฉพาะเมืองหรือประเทศกลุ่มที่กำลังพัฒนาแถบทวีปเอเชีย แอฟริกา ละตินอเมริกา ใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1.การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งบุคลากรภาครัฐ เอกชน องค์กรต่างๆ ที่จะส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ ความสามารถในเรื่องพลังงานทดแทน หรือพลังงานหมุนเวียน รวมถึงพลังงานสะอาดเพื่อให้เป็นทางเลือกในการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ให้ผ่านวิกฤตภาวะโลกร้อน 2.การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนส่งเสริมงบประมาณการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนหรือพลังงานหมุนเวียน พร้อมกับร่วมลงทุนกับภาครัฐและภาคธุรกิจต่างๆ ในการผลิตพลังงานเหล่านั้น และ 3.การรับประสบการณ์ในแนวทางส่งเสริมพลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นพลังงานสะอาด พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานชีวภาพ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะได้นำแนวทางต่างจากประสบการณ์ที่ได้จากการประชุมนี้ไปประยุกต์ใช้ต่อไป
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า กทม.จะนำประสบการณ์จากการประชุม WIREC ไปปรับใช้กับโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้วให้เกิดความมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถนำประโยชน์ที่ได้จากพลังงานที่ผลิตเองไปใช้อย่างมีประสิทธิผล เช่น โครงการนำร่องผลิตพลังงานจากดวงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์ เป็นน้ำร้อน ในโรงเรียนสังกัด กทม.12 แห่ง โครงการผลิตไบโอแก๊ส ซึ่งเป็นโครงการนำร่องร่วมกับกระทรวงพลังงาน โดยดำเนินการในโรงเรียนสังกัด กทม.และขยายผลไปยังตลาด 5 แห่ง คือ ตลาดประชานิเวศน์ ตลาดคลองเตย ปากคลองตลาด ตลาดบางกะปิ และ ตลาดบางแค และโครงการไบโอดีเซลตามแนวพระราชดำริ ซึ่งปัจจุบัน กทม.ได้ดำเนินการไปยังโรงเรียนในสังกัดทุกแห่ง จำนวน 435 แห่ง พร้อมเครือข่ายพันธมิตร ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ เพื่อรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้วจากบ้านเรือนนำไปผลิตไบโอดีเซล ซึ่ง กทม.ได้ร่วมกับ บ.บางจาก จำกัด (มหาชน) ในการผลิตไบโอดีเซลตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากกลับมายังประเทศไทย จะเรียกประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์พลังงานและพัฒนาพลังงานทดแทนของ กทม.มาหารือเพื่อศึกษาแนวทางการเปลี่ยนพลังงานลมเป็นพลังงานไฟฟ้า รวมถึงหารือแนวทางการกำหนดให้หน่วยงานของกทม. บุคลากรของ กทม.ใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือกอย่างกว้างขวางต่อไป