xs
xsm
sm
md
lg

ซิ่ง! สาเหตุอุบัติเหตุสูงสุดของคนกรุง ปาก ซ.สุขุมวิท 24 แชมป์ชนถี่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เผยสาเหตุ 10 อันแรกของการเกิดอุบัติเหตุในเมืองกรุง ปี 2550 ขับรถเร็วมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยตัดหน้าระยะกระชั้นชิด “ปากซอยสุขุมวิท 24” แชมป์สถานที่เกิดเหตุบ่อยที่สุด ขณะที่ กทม.เดินหน้าแก้ปัญหาและรณรงค์ การแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมประสานตำรวจตรวจจับ โดยเฉพาะพื้นที่อุบัติเหตุซ้ำซาก

นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับการรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า 10 อันดับสูงสุด ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในเขต กทม.ปี 2550 จำแนกตามสาเหตุ พบว่า สาเหตุการขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 7,302 ราย คิดเป็น 19.51% ตัดหน้าระยะกระชั้นชิด จำนวน 7,224 ราย คิดเป็น 19.30% ตามติดกระชั้นชิด จำนวน 6,924 ราย คิดเป็น 18.50% การแซงรถอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 4,485 ราย คิดเป็น 11.98% และฝ่าฝืนสัญญาณไฟ/เครื่องหมายจราจร จำนวน 2,213 ราย คิดเป็น 5.91% เมาสุรา จำนวน 2,151 ราย คิดเป็น 5.75% ไม่ขับรถจักรยานยนต์ในช่องทางซ้ายสุด จำนวน 2,034 ราย คิดเป็น 5.43% ขับรถผิดช่องทาง จำนวน 1,949 ราย คิดเป็น 5.21% ไม่ให้สัญญาณจอด/ชะลอ/เลี้ยว จำนวน 1,880 ราย คิดเป็น 5.02% และฝ่าฝืนป้ายหยุดทางแยก จำนวน 1,270 ราย คิดเป็น 3.39%

สำหรับบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งย้อนหลัง 3 เดือน จำแนกตามพื้นที่เขต พบว่า เกิดอุบัติเหตุมาก เรียงจากมากไปน้อย คือ พื้นที่เขตคลองเตย บน ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 22 ห้าแยก ณ ระนอง พื้นที่เขตบางพลัด บน ถ.จรัญสนิทวงศ์ แยกบางพลัด พื้นที่เขตบางซื่อ บน ถ.เทิดดำริ แยกเทิดดำริ พื้นที่เขตวัฒนา บน ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 23 พื้นที่ ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 55 พื้นที่เขตมีนบุรี บน ถ.สุวินทวงศ์ หน้าบริษัท อาหารยอดคุณ พื้นที่เขตพระโขนง ถ.สุขุมวิท 62 พื้นที่เขตห้วยขวาง บริเวณจุดกลับรถหน้าห้างฟอร์จูน พื้นที่เขตตลิ่งชัน บน ถ.บรมราชชนนี ต่างระดับฉิมพลี พื้นที่เขตบางกะปิ บน ถ.ลาดพร้าว ปาก ซ.ลาดพร้าว 101 พื้นที่เขตราชเทวี บริเวณแยกราชเทวี

ส่วนสถิติสาเหตุ 10 อันดับสูงสุดที่เกิดอุบัติเหตุในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำเดือนมกราคม ปี 2551 พบว่า การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด จำนวน 599 ราย คิดเป็น 21.67% ตามกระชั้นชิด จำนวน 538 ราย คิดเป็น 19.46% ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 507 ราย คิดเป็น 18.34% แซงรถอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 292 ราย คิดเป็น 10.56% ขับรถผิดช่องทาง จำนวน 181 ราย คิดเป็น 6.55% ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ/เครื่องหมายจราจร จำนวน 163 ราย คิดเป็น 5.90% ไม่ขับรถในช่องทางซ้ายสุด จำนวน 128 ราย คิดเป็น 4.63% เมาสุรา จำนวน 121 ราย คิดเป็น 4.38% ไม่ยอมให้รถที่มีสิทธิไปก่อน จำนวน 118 ราย คิดเป็น 4.27% และไม่ให้สัญญาณจอด/ชะลอ/เลี้ยว จำนวน 117 ราย คิดเป็น 4.23%

นายถนอม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในการประชุมคณะผู้บริหารได้มีความเห็นร่วมกันในการหาแนวทางการแก้ปัญหาและรณรงค์ การแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยแนวทางการแก้ไขส่วนของกายภาพ สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจและดำเนินการแก้ไข รวมถึงการประสานกับตำรวจในการตั้งด่านตรวจ การรณรงค์วินัยจราจร และเมาไม่ขับ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ หรือบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น