รมว.ศึกษาธิการเงา เสนอรัฐบาลปรับปรุงหลักสูตรขั้นพื้นฐาน ลดสาระชั้นประถมศึกษา เพิ่มกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ขณะที่วิชาหลักคณิต วิทยาศาสตร์ และภาษาต่างประเทศ ต้องแน่นขึ้นในเชิงคุณภาพ ด้าน “กนก” รมช.ศึกษาธิการเงา สอนมวยรัฐบาลประชานิยม “คุณภาพการศึกษาใช้เงินซื้อไม่ได้”
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะ รมว.ศึกษาธิการเงา กล่าวถึงการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องคุณภาพการศึกษาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เงา อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการว่า การปรับหลักสูตรควรลดสาระในชั้นประถมศึกษาลง แต่เพิ่มกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายมากขึ้น แต่บางวิชา อาทิ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ จะต้องทำให้แน่นขึ้นในเชิงคุณภาพ แต่ต้องไม่ยัดเยียดให้เด็กรู้มากเกินไป จนส่งผลกระทบเชิงลบ ที่สำคัญ จะต้องปรับทัศนคติ ซึ่งที่ผ่านมาการเรียนการสอนเน้นการจำมากกว่าการคิด และเน้นเรื่องความรู้มากกว่าความเข้าใจ
“การปรับปรุงหลักสูตรนั้น ถ้าต้องตัดออก ก็ต้องตัดใจทำ แต่ปัญหาของบ้านเรา คือ เวลาปรับปรุงหลักสูตร จะเสียดายของเก่า จึงเก็บของเก่าไว้แล้วใส่ของใหม่เข้าไป ทำให้แต่ละรุ่นเรียนหนักมากขึ้นเรื่อยๆ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกนก วงษ์ตระหง่าน คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาของ ปชป.ในฐานะ รมช.ศึกษาธิการเงา กล่าวว่า การปรับปรุงหลักสูตร ต้องสอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยหลักสูตรต้องมีความหลากหลายให้เหมาะสมกับวิถีการดำเนินชีวิตในแต่ละท้องถิ่น เช่น หลักสูตรการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ควรจะแตกต่างจากเด็กกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ควรดึงผู้ที่มีความรู้ความสามารถในชุมชนเข้ามาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนในโรงเรียน
“ผู้ดำเนินนโยบายการศึกษา จะต้องเข้าใจการศึกษาโดยมองจากความเป็นจริง ซึ่งเงินไม่สามารถซื้อและแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าคุณภาพการศึกษาไม่สามารถสร้างขึ้นได้จากการนำเงินใส่เข้าไปในระบบเท่านั้น” นายกนก กล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะ รมว.ศึกษาธิการเงา กล่าวถึงการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องคุณภาพการศึกษาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เงา อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการว่า การปรับหลักสูตรควรลดสาระในชั้นประถมศึกษาลง แต่เพิ่มกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายมากขึ้น แต่บางวิชา อาทิ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ จะต้องทำให้แน่นขึ้นในเชิงคุณภาพ แต่ต้องไม่ยัดเยียดให้เด็กรู้มากเกินไป จนส่งผลกระทบเชิงลบ ที่สำคัญ จะต้องปรับทัศนคติ ซึ่งที่ผ่านมาการเรียนการสอนเน้นการจำมากกว่าการคิด และเน้นเรื่องความรู้มากกว่าความเข้าใจ
“การปรับปรุงหลักสูตรนั้น ถ้าต้องตัดออก ก็ต้องตัดใจทำ แต่ปัญหาของบ้านเรา คือ เวลาปรับปรุงหลักสูตร จะเสียดายของเก่า จึงเก็บของเก่าไว้แล้วใส่ของใหม่เข้าไป ทำให้แต่ละรุ่นเรียนหนักมากขึ้นเรื่อยๆ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกนก วงษ์ตระหง่าน คณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาของ ปชป.ในฐานะ รมช.ศึกษาธิการเงา กล่าวว่า การปรับปรุงหลักสูตร ต้องสอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยหลักสูตรต้องมีความหลากหลายให้เหมาะสมกับวิถีการดำเนินชีวิตในแต่ละท้องถิ่น เช่น หลักสูตรการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ควรจะแตกต่างจากเด็กกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ควรดึงผู้ที่มีความรู้ความสามารถในชุมชนเข้ามาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนในโรงเรียน
“ผู้ดำเนินนโยบายการศึกษา จะต้องเข้าใจการศึกษาโดยมองจากความเป็นจริง ซึ่งเงินไม่สามารถซื้อและแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าคุณภาพการศึกษาไม่สามารถสร้างขึ้นได้จากการนำเงินใส่เข้าไปในระบบเท่านั้น” นายกนก กล่าว
