กทม.สั่งคุมเข้มสวนสาธารณะ 14 ก.พ.รับวันวาเลนไทน์ ออก 3 มาตรการเสริมวางกรอบใช้บริการสวนสาธารณะ 23 แห่งใน กทม. ป้องกันเยาวชนแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ด้านอธิบดีกรมสุขภาพจิตแนะพัฒนาอีคิวเด็กและเยาวชน 3 ด้าน คือ เก่ง ดี และสุข เสริมภูมิป้องกันการเสียตัวก่อนวัย ขณะที่ “สุธา ชันแสง” รมว.พม.ห่วงการใช้แคมฟรอก และไฮไฟว์อย่างไม่เหมาะสมในกลุ่มเยาวชน
นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า วันวาเลนไทน์หรือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวเข้ามาใช้บริการภายในสวนสาธารณะเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้ามามั่วสุมหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงกำหนด 3 มาตรการเสริมขึ้นมา คือ
มาตรการที่ 1 กำชับให้เจ้าหน้าที่เดินตรวจตรา หากพบวัยรุ่นที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้ตักเตือน
มาตรการที่ 2 กำหนดเปิด-ปิดสวนตามเวลาปกติ สวนสาธารณะในพื้นที่ กทม.ทั้ง 23 แห่งจะมีไฟฟ้าส่องสว่างและมีเวลาเปิด-ปิดแน่นอน เมื่อถึงเวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดสวนฯ จะมีเจ้าหน้าที่ประกาศ พร้อมตรวจตราให้ผู้ใช้บริการออกจากสวน
และมาตรการที่ 3 กำชับให้หัวหน้าสวนฯ ทุกสวนตรวจตรา หากพบบริเวณใดที่รกและอับทึบให้ตัดแต่งต้นไม้ออกบ้าง สามารถมองเห็นได้ง่าย เป็นการปรับแต่งภูมิทัศน์ภายในส่วนให้มีความโปร่ง เพื่อความปลอดภัย ทั้งยังเป็นการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ
นอกจากนี้ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามจุดล่อแหลมอย่างเข้มงวด เช่น ลานจอดรถ และจุดเสี่ยงต่างๆ และประสานสถานีตำรวจในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตราในบริเวณสวนธารณะทุกแห่งด้วย
ด้านนพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการลดความเสี่ยงการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่น จำเป็นต้องพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านเก่ง โดยพัฒนาในเรื่องการตัดสินใจแก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีสติ คิดถึงผลที่จะตามมาเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์
2.ด้านดี พัฒนาในเรื่องการควบคุมตนเองและการรับผิดชอบ ซึ่งจะทำให้เด็กตระหนักรู้ถึงอารมณ์เพศของตนเอง รู้ว่าเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศจะระบายออกด้วยวิธีที่เหมาะสมอย่างไร หรือสถานการณ์ใดที่เสี่ยงต่อการถูกกระตุ้นควรหลีกเลี่ยง รวมทั้งตระหนักได้ว่าถ้ามีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดผลกระทบขึ้น ถ้ารับผิดชอบสิ่งที่ตามมาไม่ได้ย่อมถูกตำหนิ ลงโทษ ไม่ได้รับการยอมรับ
และ 3.ด้านสุข พัฒนาในเรื่องการสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งจะทำให้วัยรุ่นสามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติ เป็นตัวของตัวเอง ไม่กลัวคนรักโกรธ มั่นใจในคุณค่าของตนเอง ไม่ตกเป็นเหยื่อของการท้าทาย ไม่พิสูจน์ตนเองด้วยวิธีที่เสี่ยง
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ถ้าประเมินความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กและวัยรุ่น จากพฤติกรรม 6 ข้อ ได้แก่ 1.ใจร้อน รอไม่เป็น 2.ชอบทำสิ่งที่พ่อแม่ห้าม 3.ติดเพื่อน เกรงใจเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ 4.ทำอะไรไม่เสร็จ ล้มเลิกง่าย 5.มีความลับกับพ่อแม่ ปกปิด โกหก และ 6.เอาแต่ใจ เบื่อง่าย หงุดหงิด หากพบเด็กวัยรุ่นมีพฤติกรรมดังกล่าวตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป โดยเฉพาะข้อ 2 และข้อ 5 เด็กและวัยรุ่นมีความเสี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์มากถึงขั้นที่ผู้ปกครองต้องระมัดระวังหรือป้องกัน
นอกจากนี้ พ่อแม่ ครู และสื่อมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยลดและป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกอย่างตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของลูกกับเพศตรงข้าม การฝึกให้ลูกได้คิดและประเมินตนเองถึงสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การอยู่กันสองต่อสอง การถูกเนื้อต้องตัวกัน หรือการดื่มสุรา พวกเขาจะแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างไร จะตัดสินใจอย่างไรถ้าอีกฝ่ายส่งสัญญาณว่าจะมีเพศสัมพันธ์ และถ้าจะตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์เขาจะป้องกันอย่างไร จะรับผิดชอบตนเองกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ตลอดจนจะควบคุมตนเองไม่ให้เกิดความเสี่ยงได้อย่างไร
ขณะที่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและครอบครัว กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ปกครองสามารถเฝ้าสังเกตพฤติกรรมเสี่ยงควบคู่ไปกับการประเมินความฉลาดทางอารมณ์ ได้แก่ 1.มีคนรักหรือแฟน 2.มีพฤติกรรมชอบเล่นอินเทอร์เน็ตช่วงดึกๆ 3.มีกิจกรรมสังสรรค์ที่มีสุราเกี่ยวข้องบ่อย 4.มีที่พัก/กิจกรรมนอกสายตาพ่อแม่ และ 5.ไม่มีกิจกรรมอดิเรกอื่นๆ ทำ ซึ่งหากประเมินแล้วพบว่าวัยรุ่นมีพฤติกรรมดังกล่าวตั้งแต่ 3 ข้อขึ้นไป โดยเฉพาะข้อ 1 และข้อ 4 เด็กและวัยรุ่นมีความเสี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์ขึ้นได้ พ่อแม่ ผู้ปกครองจึงจำเป็นต้องใส่ใจ ระมัดระวัง หรือป้องกัน
ส่วนนายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเวทีสมัชชาสตรี 4 ภาค ครั้งที่ 4 วันนี้ (13 ก.พ.) พร้อมกล่าวว่าจะส่งเสริมสิทธิสตรีและความเสมอภาคหญิงชาย พร้อมทั้งฝากผู้ปกครองดูแลบุตรหลานให้ปฏิบัติต่อกันอย่างให้เกียรติ ไม่ล่วงละเมิดหรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะในวันวาเลนไทน์ โดยย้ำว่าความรักเป็นเรื่องดี สวยงาม แต่ต้องให้ถึงความพร้อมก่อน
ทั้งนี้ ตนเป็นห่วงการมีพฤติกรรมเสี่ยงในวันวาเลนไทน์ ทั้งการใช้แคมฟรอก และไฮไฟว์อย่างไม่เหมาะสมในกลุ่มเยาวชน การมั่วสุมในแพเธค จึงได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว และจะขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันดูแลกลุ่มเยาวชนและสถานที่ต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันก็จะรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงแก่กลุ่มเยาวชนต่างๆ
นอกจากนี้ จะประสานกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อหาลานกว้างให้เยาวชนมาจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ แสดงออกเต็มที่ และมีกิจกรรมท้าทาย เหมือนถนนวัยรุ่นในประเทศญี่ปุ่น แต่ยืนยันไม่ได้ปัดฝุ่นแนวคิดนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการ พม.ในเรื่องการจัดสนามแข่งรถแต่อย่างใด
