“กษมา” ห้ามโรงเรียนจัดงานวันวาเลนไทน์ ระบุพบเด็กมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม “ไปเที่ยว ดื่มน้ำเมา” ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง แนะลดการฟุ่มเฟือย งดซื้อดอกไม้ การ์ด ตุ๊กตา เปลี่ยนมาทำเอง แย้มอยากให้บริจาคเงินเพื่อมนุษยชาติเหมือนธนาคารญี่ปุ่น ลงขันสร้างห้องสมุด
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่าช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ จะพยายามย้ำเตือนโรงเรียน-พ่อแม่ เพื่อให้เด็กระมัดระวังตัว เพราะโรงเรียนบางแห่งจัดงานในวันวาเลนไทน์หรือเด็กไปเที่ยว บางครั้งจะทำให้เกิดสถานการณ์ไม่ปลอดภัยแก่เด็กที่มีการดื่มของมึนเมา ดื่มน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะบางครั้งเด็กไม่รู้ว่าของมึนเมาผสมอยู่ จึงอยากให้โรงเรียนกำชับตักเตือนนักเรียน พร้อมกันนี้ไม่ต้องการให้โรงเรียนจัดงานช่วงเทศกาลดังกล่าว
“เคยไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนซึ่งจัดงานในเทศกาล และได้เห็นกับตาว่าหลังเลิกงานแล้วเด็กไปเที่ยวต่อที่อื่น ทำให้เด็กตกอยู่ในภาวะเสี่ยง”
คุณหญิงกษมา กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่อยากเน้นคือ ความฟุ่มเฟือย เด็กเสียเงินซื้อดอกกุหลาบ การ์ด ตุ๊กตา เป็นต้น การให้สิ่งของในวันแห่งความรักไม่ใช่สาระสำคัญในความรู้สึกที่ดีต่อกัน น่าจะเน้นเรื่องของความประหยัด น่าจะสื่อถึงความรัก อยากให้ทำการ์ด ดอกไม้ ขึ้นมาด้วยตนเองแล้วไปมอบให้แก่คนสำคัญแทนการซื้อ และผู้ใหญ่ควรเรื่องถึงเรื่องนี้ด้วย
ยกตัวอย่างที่ญี่ปุ่นมีธนาคารแห่งหนึ่ง ปกติพนักงานธนาคารเขาจะซื้อช็อกโกแลตให้กัน แต่เขาได้เปลี่ยนวิธีแสดงออกซึ่งความรักและรู้สึกดีๆ จากช็อกโกแลตมาเป็นบริจาคมาสร้างห้องสมุดในประเทศไทย “ห้องสมุดนี้แสดงถึงความรักที่พนักงานธนาคารมีต่อมนุษยชาติ” เพราะฉะนั้นหากจะเสียเงินควรทำในสิ่งที่ดีๆ เพื่อสังคม
ถามว่า สพฐ.จะบริจาคเพื่อเป็นตัวอย่างแก่สังคม คุณหญิงกษมาบอกว่า ที่ผ่านมา สพฐ.เราเป็นหน่วยงานของรัฐ และไม่เคยบริจาคในลักษณะนี้มาก่อน มีแต่มอบงานให้คนในหน่วยงานทำซะมากกว่าเพื่อให้งานก้าวหน้าต่อไป และที่ยกตัวอย่างธนาคารญี่ปุ่นเผื่อว่าจะมีคนสนใจร่วมกันบริจาคเพื่อสังคมบ้าง
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่าช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ จะพยายามย้ำเตือนโรงเรียน-พ่อแม่ เพื่อให้เด็กระมัดระวังตัว เพราะโรงเรียนบางแห่งจัดงานในวันวาเลนไทน์หรือเด็กไปเที่ยว บางครั้งจะทำให้เกิดสถานการณ์ไม่ปลอดภัยแก่เด็กที่มีการดื่มของมึนเมา ดื่มน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะบางครั้งเด็กไม่รู้ว่าของมึนเมาผสมอยู่ จึงอยากให้โรงเรียนกำชับตักเตือนนักเรียน พร้อมกันนี้ไม่ต้องการให้โรงเรียนจัดงานช่วงเทศกาลดังกล่าว
“เคยไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนซึ่งจัดงานในเทศกาล และได้เห็นกับตาว่าหลังเลิกงานแล้วเด็กไปเที่ยวต่อที่อื่น ทำให้เด็กตกอยู่ในภาวะเสี่ยง”
คุณหญิงกษมา กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่อยากเน้นคือ ความฟุ่มเฟือย เด็กเสียเงินซื้อดอกกุหลาบ การ์ด ตุ๊กตา เป็นต้น การให้สิ่งของในวันแห่งความรักไม่ใช่สาระสำคัญในความรู้สึกที่ดีต่อกัน น่าจะเน้นเรื่องของความประหยัด น่าจะสื่อถึงความรัก อยากให้ทำการ์ด ดอกไม้ ขึ้นมาด้วยตนเองแล้วไปมอบให้แก่คนสำคัญแทนการซื้อ และผู้ใหญ่ควรเรื่องถึงเรื่องนี้ด้วย
ยกตัวอย่างที่ญี่ปุ่นมีธนาคารแห่งหนึ่ง ปกติพนักงานธนาคารเขาจะซื้อช็อกโกแลตให้กัน แต่เขาได้เปลี่ยนวิธีแสดงออกซึ่งความรักและรู้สึกดีๆ จากช็อกโกแลตมาเป็นบริจาคมาสร้างห้องสมุดในประเทศไทย “ห้องสมุดนี้แสดงถึงความรักที่พนักงานธนาคารมีต่อมนุษยชาติ” เพราะฉะนั้นหากจะเสียเงินควรทำในสิ่งที่ดีๆ เพื่อสังคม
ถามว่า สพฐ.จะบริจาคเพื่อเป็นตัวอย่างแก่สังคม คุณหญิงกษมาบอกว่า ที่ผ่านมา สพฐ.เราเป็นหน่วยงานของรัฐ และไม่เคยบริจาคในลักษณะนี้มาก่อน มีแต่มอบงานให้คนในหน่วยงานทำซะมากกว่าเพื่อให้งานก้าวหน้าต่อไป และที่ยกตัวอย่างธนาคารญี่ปุ่นเผื่อว่าจะมีคนสนใจร่วมกันบริจาคเพื่อสังคมบ้าง