“คุณหญิงไขศรี” ทิ้งทวนเก้าอี้ รมว.วธ.ฝากรัฐมนตรีคนใหม่สางปัญหาตั้งแต่ทุจริตพิมพ์หนังสือที่ระลึก ยันงาบเงินค่าพวงหรีด ขอให้โละวัฒนธรรมให้ข้าราชการล้อมหน้าล้อมหลังรัฐมนตรี ขนคนไปดูงานต่างประเทศสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ เตือนคิดถึงบ้านเมือง เพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์เปิดใจก่อนหมดวาระจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ว่า ประเด็นแรกที่ตนขอชี้แจงเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักรัฐมนตรี โดยการทำงานที่ผ่านมาตนไม่ได้นำบุคคลภายนอกเข้ามารับตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี หรือตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ โดยไม่จำเป็น จากเดิมรัฐบาลชุดที่ผ่านมาใช้งบของสำนักรัฐมนตรีเบิกจ่ายเป็นเงินจำนวนมาก ขณะที่ตนแต่งตั้ง ศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ เป็นที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม เป็นการทำงานเชิงวิชาการที่ไม่ได้มุ่งสร้างฐานอำนาจทางการเมือง
ขณะที่การเดินทางไปต่างจังหวัดตนจะใช้รถตู้ประจำกระทรวง และมีนโยบายไม่ให้มีผู้ติดตามในการเดินทางไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศเกินกว่าความจำเป็น และย้ำว่า ต้องเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับงานที่รัฐมนตรีจะไปติดตามตรวจเยี่ยมเท่านั้น ขณะที่ระหว่างที่ตนเข้ามาทำงานที่ วธ.พบว่าบางสำนักในสังกัดมักจัดโครงการไปดูงานต่างประเทศ หรือใช้รถราชการไปในงานส่วนตัว แม้กระทั่งการทุจริตค่าดอกไม้ หรือพวงหรีดที่จัดส่งในนามผู้บริหารระดับสูงของ วธ. เป็นต้น
“ตั้งแต่ดิฉันเข้ามาทำงาน งบประมาณในส่วนของสำนักรัฐมนตรีมีเหลือไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการดำเนินนโยบายแบบประหยัด จึงอยากให้กระทรวงวัฒนธรรมนำงบประมาณไปสนับสนุนทรัพยากรให้กับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากร เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรม และทำโครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนที่จะเกิดผลกับท้องถิ่นดีกว่า ขณะเดียวกัน เรื่องการจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึกจำนวนหลายแสนเล่มของ วธ.ดิฉัน คิดว่ายังมีความไม่โปร่งใสอยู่มาก อยากฝากให้ รมว.วัฒนธรรม คนใหม่ ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาบุคลากรด้วย”
คุณหญิงไขศรี กล่าวว่า การทำงานทุกอย่าง ถ้าเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้งผละประโยชน์ก็จะเกิดกับประชาชน หากวันนี้การเมืองไทยยังแบ่งพื้นที่โควตา และแบ่งสรรเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลไทย โดยไม่ได้เฟ้นหาคนที่มีประสบการณ์การทำงานนั้นอย่างแท้จริงมาบริหารงาน การพัฒนาให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้คงเกิดขึ้นยาก ที่ผ่านมา ยังพบว่ารัฐมนตรีมีวัฒนธรรมให้ข้าราชการมาห้อมล้อม คอยให้การต้อนรับเวลาออกตรวจพื้นที่ต่างจังหวัด หรือการมีผู้ติดตามจำนวนมากเวลาเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน ควรมีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับที่ระบุให้ข้าราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคต้องคอยต้อนรับเวลารัฐมนตรีเดินทางไปปฏิบัติงาน
“ดังนั้น บุคคลที่มาเป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงแทนที่จะคิดเรื่องได้เป็นรัฐมนตรี ควรหันมาคิดเรื่องการวางระบบการทำงานอะไร เพื่อแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม หาก รมว.วัฒนธรรม คนใหม่เข้ามารับตำแหน่งแล้วศึกษาการทำงานที่ ดิฉันวางแผนร่วมกับผู้บริหาร วธ.ไม่ว่าจะเป็น การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมผ่านการสร้างค่านิยมวัฒนธรรมไทยที่พึงประสงค์ ช่วยแก้ปัญหาวิถีชีวิตคนไทยที่ฟุ้งเฟ้อตามค่านิยมของชาติตะวันตกให้กลับมาสู่วิถีชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดิฉันจะดีใจมากที่ รมว.วัฒนธรรมคนใหม่ เข้ามาสวมบทบาทและสานงานที่เป็นประโยชน์ต่อไป
อยากฝากถึงบุคคลที่มีโอกาสเข้ามาทำงานในตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม คนใหม่ด้วยว่า การทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูงนั้นขึ้นอยู่กับว่า “ได้เป็น” หรือ “เป็นได้” ซึ่งการเป็นได้ในที่นี้หมายถึงการทุ่มเทความสามารถทำงานโดยคำนึงผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นตัวตั้งมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว ทำงานด้วยความโปร่งใส หากทำงานอย่างเต็มที่แล้วไม่จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ผลงานของตัวเอง เพราะผลงานของเราจะเป็นสิ่งที่เผยแพร่ออกไปเองว่า เราเป็นรัฐมนตรีได้” คุณหญิงไขศรี กล่าว