“สมพงษ์” จี้รัฐบาลใหม่จัดเรียนฟรี 12 ปีตามที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน กำชับให้ รมว.ศธ.จับมือ สพฐ.เซ็นสัญญาเรื่องนี้ หากไม่สำเร็จต้องหาคนรับผิดชอบ
สืบเนื่องมาจากกรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำลังศึกษาว่าถ้าจะให้โรงเรียนเลิกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้ปกครองเพื่อให้การจัดการศึกษาเรียนฟรี 12 ปี เป็นการศึกษาที่ฟรีจริง ซึ่งรัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณเพิ่มให้ ร.ร.ไม่น้อยกว่า 23,000 ล้านบาท
นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นว่า เรื่องเรียนฟรี 12 ปี ตามรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้วแต่ยังทำไม่ได้เสียที เพราะฉะนั้น รัฐบาลใหม่จะต้องเข้ามาดำเนินการเป็นเรื่องแรกอย่าง เพราะเป็นนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งไว้กับประชาชน ซึ่งคุณไม่ทำตามที่พูดไว้ในที่สาธารณชนระหว่างหาเสียงก็เท่ากับว่าคุณผิดสัญญากับประชาชนที่เลือกคุณเข้ามา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่
นายสมพงษ์ กล่าวว่า เรียนฟรี 12 ปี รัฐต้องเพิ่มงบประมาณจำนวนมาก ถามว่าจะนำงบประมาณเหล่านี้มาจากไหน อย่างแรก กระทรวงศึกษาธิการต้องทบทวนเรื่องงบประมาณที่ได้รับว่านำไปใช้จ่ายในเรื่องใดบ้าง เพราะ ศธ.ได้รับงบประมาณถึง 3 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นเงินมากอยู่แล้ว ต้องย้อนกลับไปพิจารณาว่าที่ผ่านมางบประมาณที่ได้รับไปตกอยู่กับอะไรบ้าง
“ปัจจุบันงบที่ ศธ.ได้รับ 80% ไปตกอยู่กับเงินเดือนและค่าวิทยฐานะของข้าราชการครู ที่ว่าครูทำงานหนักแต่เงินเดือนน้อยนั้นปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว ค่าบริหารจัดการอีกเกือบ 20% ที่เหลือ 3-5% เท่านั้นคือเงินที่จะถึงมือเด็ก” นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลใหม่จะดำเนินการเรื่องเรียนฟรี ให้ฟรีจริงและเป็นรูปธรรมนั้น ทาง สพฐ.ต้องกำหนดได้ชัดเจนว่าคุณภาพเด็กจะดีขึ้น หากทุ่มเงินจำนวนนี้ลงไปแล้วจะถูกนำไปใช้ในเรื่องการศึกษาฟรี 12 ปี จะต้องชี้แจงอย่างละเอียดยิบว่านำเงินไปดำเนินการในเรื่องใดบ้าง
เชื่อว่าเรื่องเรียนฟรี 12 ปีจะดำเนินการได้ภายใน 1 ปี โดยขั้นแรกอาจจะจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางร่วมกันระหว่าง สพฐ.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ มีการเซ็นสัญญาร่วมกัน และหากไม่สามารถปฏิบัติได้ตามที่สัญญากำหนดไว้ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องอะไรบ้าง มีผลงานวิจัยเกี่ยวกับการศึกษา เด็ก และเยาวชน พบว่า งบประมาณกองทุนทางการศึกษานั้นมีเพียงพอ แต่ที่เป็นปัญหาคือ ตัวระบบ ที่ใช้งบประมาณซ้ำซ้อน ไม่มีการประสานงาน ต่างคนต่างทำ ทำให้เงินไปไม่ถึงตัวเด็ก
สืบเนื่องมาจากกรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำลังศึกษาว่าถ้าจะให้โรงเรียนเลิกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้ปกครองเพื่อให้การจัดการศึกษาเรียนฟรี 12 ปี เป็นการศึกษาที่ฟรีจริง ซึ่งรัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณเพิ่มให้ ร.ร.ไม่น้อยกว่า 23,000 ล้านบาท
นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความเห็นว่า เรื่องเรียนฟรี 12 ปี ตามรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้วแต่ยังทำไม่ได้เสียที เพราะฉะนั้น รัฐบาลใหม่จะต้องเข้ามาดำเนินการเป็นเรื่องแรกอย่าง เพราะเป็นนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งไว้กับประชาชน ซึ่งคุณไม่ทำตามที่พูดไว้ในที่สาธารณชนระหว่างหาเสียงก็เท่ากับว่าคุณผิดสัญญากับประชาชนที่เลือกคุณเข้ามา ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่
นายสมพงษ์ กล่าวว่า เรียนฟรี 12 ปี รัฐต้องเพิ่มงบประมาณจำนวนมาก ถามว่าจะนำงบประมาณเหล่านี้มาจากไหน อย่างแรก กระทรวงศึกษาธิการต้องทบทวนเรื่องงบประมาณที่ได้รับว่านำไปใช้จ่ายในเรื่องใดบ้าง เพราะ ศธ.ได้รับงบประมาณถึง 3 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นเงินมากอยู่แล้ว ต้องย้อนกลับไปพิจารณาว่าที่ผ่านมางบประมาณที่ได้รับไปตกอยู่กับอะไรบ้าง
“ปัจจุบันงบที่ ศธ.ได้รับ 80% ไปตกอยู่กับเงินเดือนและค่าวิทยฐานะของข้าราชการครู ที่ว่าครูทำงานหนักแต่เงินเดือนน้อยนั้นปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว ค่าบริหารจัดการอีกเกือบ 20% ที่เหลือ 3-5% เท่านั้นคือเงินที่จะถึงมือเด็ก” นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลใหม่จะดำเนินการเรื่องเรียนฟรี ให้ฟรีจริงและเป็นรูปธรรมนั้น ทาง สพฐ.ต้องกำหนดได้ชัดเจนว่าคุณภาพเด็กจะดีขึ้น หากทุ่มเงินจำนวนนี้ลงไปแล้วจะถูกนำไปใช้ในเรื่องการศึกษาฟรี 12 ปี จะต้องชี้แจงอย่างละเอียดยิบว่านำเงินไปดำเนินการในเรื่องใดบ้าง
เชื่อว่าเรื่องเรียนฟรี 12 ปีจะดำเนินการได้ภายใน 1 ปี โดยขั้นแรกอาจจะจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางร่วมกันระหว่าง สพฐ.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ มีการเซ็นสัญญาร่วมกัน และหากไม่สามารถปฏิบัติได้ตามที่สัญญากำหนดไว้ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องอะไรบ้าง มีผลงานวิจัยเกี่ยวกับการศึกษา เด็ก และเยาวชน พบว่า งบประมาณกองทุนทางการศึกษานั้นมีเพียงพอ แต่ที่เป็นปัญหาคือ ตัวระบบ ที่ใช้งบประมาณซ้ำซ้อน ไม่มีการประสานงาน ต่างคนต่างทำ ทำให้เงินไปไม่ถึงตัวเด็ก
