“สุรยุทธ์” เปิดทำเนียบรับเยาวชนดีเด่น 680 คน แนะเยาวชนรู้เท่าทัน ภัยคุกคามจากสังคมที่เปลี่ยนแปลง ยึดความดีเป็นเครื่องชี้นำในการดำเนินชีวิต พร้อมทำประโยชน์แก่ตนเองและประเทศชาติ "อภิรักษ์" ขอให้เด็ก กทม. ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ รักความเป็นไทย ใช้ชีวิตพอเพียง ขณะที่กระทรวงศึกษาฯ ย้ำย้ายงานจากสนามเสือป่ามาจัดที่ศธ. พร้อมเผยสถานที่สามารถรับเด็กได้ถึง 5 ,000 คน
วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการมอบโล่รางวัลและของที่ระลึกแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ จำนวน 680 คน
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนที่มาร่วมงานว่า ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จจนได้รับการยกย่องให้เป็นเด็กและเยาวชนดีเด่น และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากการประพฤติตน ประกอบคุณงามความดี การรู้จักหน้าที่ของตนเอง ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาหาความรู้ และฝึกฝนปฏิบัติตนจนเป็นที่ประจักษ์
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า สภาพสังคมในปัจจุบันได้วิวัฒน์และได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทำให้เกิดค่านิยมในการบริโภคที่เกินความจำเป็น และเกิดความเสื่อมโทรมทางด้านสังคมและจิตใจจนส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในหลายๆ ด้านทั้งทางตรง และทางอ้อม ดังนั้น เด็กและเยาวชนจำเป็นจะต้องมีภูมิคุ้มกันที่จะสามารถรับมือกับภัยคุกคามทุกชนิดอย่างรู้เท่าทันและปลอดภัย
“ผมจึงได้ให้คำขวัญวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ว่า สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม โดยอยากจะเห็นเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต เป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง มีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรม และจริยธรรม ซึ่งสังคมปัจจุบันต้องการ มีคุณงามความดีเป็นเข็มทิศในการดำเนินชีวิต รู้จักประมาณตน ตามแนวพระราชดำรัส และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ความพอมี พออยู่พอกิน และพอใช้ อย่างสร้างสรรค์ เกื้อกูลประโยชน์ต่อตนเองและประเทศชาติ อย่างสมดุลและยั่งยืน” พล.อ.สุรยุทธ์กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพรแก่เยาวชนว่า ขออำนวยพรให้เด็กและเยาวชนทุกคนจงประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง พรั่งพร้อมด้วยกำลังกาย กำลังใจ และสติปัญญา เพื่ออนาคตที่สดใสของตนเองและชาติบ้านเมือง
วันเดียวกันนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะครูและนักเรียน โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 200 คน ร่วมยืนถวายอาลัยแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จากนั้นได้มอบโอวาท เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2551 โดยเน้นย้ำให้ เยาวชน ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่เพราะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศจึงขอให้เด็ก กทม. ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ รักความเป็นไทย ใช้ชีวิตพอเพียง ตามคำขวัญในปีนี้ พร้อมมอบเกียรติบัตรให้นักเรียนที่ชนะการเขียนจดหมายเปิดผนึก ในโครงการส่งเสริมใช้สิทธิ์เลือกตั้งและต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง จากนั้นได้มอบกระเป๋าและเครื่องเขียนให้กับนักเรียนทุกคน เป็นของขวัญวันเด็ก
ทั้งนี้ นักเรียนทั้ง 200 คน ได้ร่วมเข้าชมสถานที่สำคัญของศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย นิทรรศการ "สถิต ณ ดวงใจ" ถวายอาลัยแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสาชิงช้า และที่ประดิษฐสถานพระพุทธนวราชบพิตร ซึ่งในปีนี้ไม่ได้มีการเปิดห้องทำงาน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เยาวชนได้เข้าชม
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2551 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 12 มกราคม 2551 ว่า ขอย้ำว่าได้ย้ายสถานที่จัดงานจากสนามเสือป่ามาจัดที่กระทรวงศึกษาธิการ เพิ่มกิจกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และจะจัดชมวังจันทรเกษม เข้าชมอาคารราชวัลลภ ห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดโอกาสให้เด็กนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีได้ กิจกรรมที่ปรับเป็นพัฒนาศักยภาพเพิ่มความรู้ เช่น ฝึกการจราจร วาดภาพศิลปะ กิจกรรมชมภาพยนตร์ มีนิทรรศการ 108 เต็นท์ ทุกเต็นท์จะมีของขวัญ และกิจกรรมเสริมสร้างสติปัญญานักเรียนทั้งสิ้น และจะให้เด็กได้แสดงความไว้อาลัยลงนามถวายสักการะพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ด้านนางจรวยพร กล่าวด้วยว่า การจัดงานวันเด็กปีนี้ จะใช้สถานที่ภายในทั้งหมดของกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะไม่ให้จอดรถ ใช้ทุกสนาม รวมถึงที่จอดรถจัดสถานที่ คาดว่าจะรองรับเด็กที่จะมาร่วมงานได้ 50,000 คน และหมุนเวียนเข้า-ออกได้ถึง 100,000 คน
